เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของกรุงเวียนนนา เมืองหลวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเขตเวทชาท โดยอยู่ประมาณ 18 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยบริหารจุดหมายปลายทางการบินในแถบยุโรป รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลสู่เอเชีย อเมริกาเหนือ และแอฟริกา
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและยังเป็นเมืองหลวงของรัฐคารินเทีย (Carinthia) เป็นรัฐทางใต้สุดของประเทศออสเตรีย ในปี 2008 เมืองคลาเกนเฟิร์ตเคยเป็นหนึ่งในแปดเมืองเจ้าภาพการจัดแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับหกของประเทศ โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนทะเลสาบเวอร์เทอร์เซ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาค
เป็นเมืองที่รู้จักกันในเรื่องของวานิลลาและครีม หรือที่เรียกกันว่า kremna rezina หรือ kremšnita อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันแสนโรแมนติก จนได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นเมืองที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของสโลวีเนียก็ว่าได้
ล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเบลด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีเกาะอยู่ใจกลาง ห้อมล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบนี้เกิดขึ้นมาจากการขยับเขยื้อนของธรรมชาติกลายเป็นแอ่งและก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ละลายมา
แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองเบลด และยังเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสโลวีเนีย โดยปราสาทแห่งนี้ถือว่า เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในสโลเวเนีย
เป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียว กับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรม เพราะใจกลางจัตุรัสเป็นรูปหล่อของ ฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลวาเนีย
ฟรานซ์ เพรเซเรนเป็นกวีที่มีชื่อเสียงของสโลวีเนีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ
ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือใจกลางเมืองลูบลิยานา โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องอาณาจักรจากการรุกรานของชาวเติร์กและกบฏ ปัจจุบันปราสาทลูบลิยานาได้กลายเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรม และยังกลายเป็นหอชมเมือง ซึ่งคุณจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์อันงดงามงดงามของเมืองได้เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของเมืองโพสทอยน่า (Postojna) ซึ่งมีชื่อเดียวกัน และยังเป็นถ้ำสวยที่สุดในยุโรปแห่งหนึ่ง มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาวภายในถ้ำถึง 20 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่เปิดให้บริการมากว่า 188 ปี และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 31 ล้านคน
เป็นเมืองตากอากาศสุดหรูของเศรษฐียุโรป เป็นเมืองที่มีสมญานามว่า ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเลอาเดรียติก ทำให้เป็นที่พักผ่อนสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย
เมืองอยู่ในบริเวณระหว่างเนินทางใต้ของภูเขาเมดเวดนีตซา กับฝั่งเหนือของแม่น้ำซาวา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลเอเดรียติก และภูมิภาคแพนโนเนีย ทำให้สามารถติดต่อและคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคยุโรปกลางกับทะเลเอเดรียติกได้อย่างดี นอกจากนี้ซาเกรบยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหาร และเป็นที่ตั้งของกระทรวง หน่วยงานราชการต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย
รถราง Funicular (คนท้องถิ่นเรียกZET) เป็นรถรางที่เชื่อมระหว่างเมืองด้านล่างและเมืองด้านบน ซึ่งใช้เวลานั่งเพียง 55 วินาทีเท่านั้น รถรางแนวเฉียงขึ้นเขานี้เปิดใช้บริการตั้งแต่ปี1893 มีทางวิ่งยาวเพียง 66 เมตรถือเป็นรถรางที่สั้นที่สุดสายหนึ่งของโลก มีความชันเขาสูง 30 เมตรเลยทีเดยว
มหาวิหารเซนต์สตีเฟนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ย่านใจกลางของจัตุรัสสเตฟาน เป็นมหาวิหารที่สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมทางศาสนาแบบโกธิคในยุโรปและมีความสวยโดดเด่นสะดุดตา หอคอยทางทิศใต้มีความสูง 136 เมตรและเปิดให้ผู้เข้าชมสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมความสวยงามของวิวด้านบนโดยไต่บันไดขึ้นไป 343 ขั้น
ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก ช่วงเดือนแห่งใบไม้ร่วงนี้ สินค้าในตลาดโดแลค จะเจอผลไม้พวกลูกพีช ลูกพรุนสด แตงแบบแคนตาลูบ องุ่นสด ส้ม รวมทั้ง น้ำผึ้ง ลูกพีช ลูกใหญ่ๆนี่ อร่อยสุดๆ สดๆ เสน่ห์อย่างหนึ่งของโดแลค ตลาดแห่งนี้ คือ ตาชั่ง แบบใช้ตุ้มถ่วง
เป็นโบสถ์เซนต์มาร์กประจำเมืองซาเกรบ จุดเด่นคือมีหลังคากระเบื้องปูเป็นลวดลายรูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง ที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของซาเกรบ
นับว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา
เมืองซิบีนิกอยู่บริเวณปากแม่น้ำติดทะเล เป็นเมืองท่า แต่คลื่นลมไม่แรงเพราะอ่าวเว้าเข้ามาในแผ่นดิน และหน้าอ่าวยังมีเกาะชื่อ Zlarin คอยบังอยู่ปากอ่าว ทะเลอาเดรียติกมีเกาะริมชายฝั่งเยอะมาก ทั้งเกาะเล็กเกาะใหญ่นับร้อย ถือเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคแถบนี้
หนึ่งในมรดกโลกของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ที่เมืองซีเบนิคบนชายฝั่งดัลเมเชียน เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1402 สร้างจากหินปูนสีขาวจากเกาะบลอค ทั้งหลังไม่มี ไม้หรืออิฐปน
เป็นเมืองท่องเที่ยวริมทะเลของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองซาเกรบ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดัลเมเชีย อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง และถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีความเก่าแก่มาก อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าและการท่องเที่ยวของโครเอเชีย และที่สำคัญเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน
People Square เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองสปลิท อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน ที่แห่งนี้มีร้านค้า ร้านของฝาก ร้านอาหารต่างๆ ตั้งกระจายอยู่รอบจัตุรัส
พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยนแห่งโรมัน ซึ่งต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ภายในพระราชวังประกอบด้วย วิหารจูปิเตอร์ สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงและวิหารต่างๆ ซึ่งอยู่ภายในวิหาร องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979
เป็นเมืองทางตอนใต้ของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาซึ่งมีแม่น้ำคร่อมอยู่
บรากายจ์เป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองโมสตาร์ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักมาพักอาศัย แทนที่จะพักค้างแรมอยู่ในโมสตาร์ที่แอดดัดไปด้วยนักท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นอารามซึ่งตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำบูน่า (Buna River) ที่มีน้ำใสสะอาดมากและมีน้ำตกที่กระเซ็นเมืองตกกระทบเบื้องล่างเกิดเป็นละอองน้ำฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ
อ่าวมาลี สตอน (MALI STON) เมืองเล็กริมทะเลทางตอนใต้ของโครเอเชีย ตั้งอยู่ ณ คาบสมุทรเพลเยแซคใกล้พรมแดนเมือง "นีอุม" ประเทศบอสเนีย บริเวณหุบอ่าวแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของแพลงตอนและสารอาหารในน้ำทะเลจำนวนมาก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นลักษณะโขดหิน เกาะเล็ก ๆ ต่าง ๆ ทำให้เมื่อเวลามีฝนตก น้ำชะล้างแร่ธาตุต่าง ๆ ไหลลงมาในน้ำทะเลแถบนี้ จึงทำให้มาลีสตอนเป็นแหล่งทำอุตสาหรรมประมงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศโครเอเชีย
เป็นเมืองจำพวกเมืองสวย เมืองเก่าที่เห็นตรงหน้า จึงเป็นผลจากการบูรณะขึ้นใหม่ แต่ก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จาก องค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ จึงเป็นระยะการเดินที่น่าสนใจไปทุกรายละเอียด เพราะนอกจากจะได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองแล้ว ยังได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ของเมืองเก่า และของกินทะเลอะเดรียติคอย่างเต็มอิ่ม
ล่องเรือชมความสวยงามของเมืองดูบรอฟฟิคจากชายฝั่งทะเล ที่เป็นอีกมุมมองอันสวยงามของเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลก
ได้รับการบอกเล่าว่าเป็นเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป จนได้รับฉายา "ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก" ริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่ง และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม
เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ระดับความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีส้ม และความงดงามทะเลอะเดรียติค เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติก ยามสีน้ำเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคำบรรยายใดๆ
เป็นเมืองเล็กในโครเอเชียที่ติดทะเลเมดิเตอเรเนียน ซึ่งเป้นที่นิยมของนักเดินทางเพราะความสวยงามและร่มรื่น
เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองแคฟทัท มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟูศิลปวิทยาการจากศตวรรษที่ 15 มีหอระฆังสมัยเรอเนสซองส์ที่มีโดมแปดเหลี่ยม และบันไดหินที่ด้านหน้าของอาคารพร้อมราวบันไดหินรอบๆ ภายในโบสถ์มีการแตกแต่งแบบบาร็อค แท่นบูชาหลักเป็นผลงานของจิตรกรชื่อดังของเมืองดูบรอฟฟิคชื่อ Carmello Reggio Palermitano
Konzum เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่มีสินค้าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “KRAS” ช้อคโกแลตท้องถิ่น ยี่ห้อที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก, ไวน์โลกเก่าท้องถิ่น “Dingac”, “Postup” จากองุ่นพันธุ์ท้องถิ่น “Plavac Mali” คุณภาพระดับเดียวกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาเลี่ยน และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้จากใจกลางเมืองดูบรอฟนิก ที่นี่ให้บริการเที่ยวบินตรงไปยัง 60 เมือง ในทุกสัปดาห์จะมีเที่ยวบินภายในประเทศ 70 เที่ยวบินและเที่ยวบินระหว่างประเทศ 28 เที่ยวบินเป็นอย่างน้อยที่ออกจากท่าอากาศยานนี้
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย