เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
เป็นเมืองทางตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์อันโด่งดัง อยู่ถัดจากนอยเฮาเซินไปทางตะวันออกเฉียงเหนือไม่กี่กิโลเมตร บางครั้งอาจเรียกว่าไรน์ฟัลล์ตัดท์ตามชื่อของน้ำตก หรือมูนอทชตัดท์ตามชื่อป้อมปราการมูนอท
เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินที่สวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตกโดยรอบที่โดดเด่น
เป็นเมืองรีสอร์ทหรูในหุบเขา Engadine ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1775 ม. เหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุดที่ระดับ 4049 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้เพียงไม่กี่กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับกลุ่มคนชั้นสูง และมีลานสกีที่ราคาแพงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
เป็นเมืองแสนสวยเล็กๆ น่ารักๆ ในหุบเขา ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ และเป็นเมืองพักผ่อนของนักสกีทั่วโลก ในยามหน้าสกี ที่นี่จะเต็มไปด้วยนักสกีที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ หากแต่หมดฤดูสกี เมืองที่นี่จะเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ภายในเมืองมีร้านค้า และที่พักต่างๆ มากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
เป็นเส้นทางรถไฟที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาจากต่างประเทศมักจะมาใช้บริการรถไฟนี้ในการท่องเที่ยว โดยจะมีชั้นบริการ 2 ชั้น ซึ่งความแตกต่างของ 1st class กับ 2nd class ก็อยู่ที่ความสะบายของที่นั่ง โดยเฉพาะขนาดกระจกของ 1st class จะมีขนาดใหญ่กว่ามากทำให้เห็นทิวทัศน์ได้ชัดเจน นอกจากนั้นยังมีกระจกด้านบนเป็นแบบ Panorama ด้วย
เมืองชุมทางใหญ่ของรถไฟกลางหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ บริก อยู่ก่อนถึงเซอร์แมท 1 ชม. 10 นาที โดยรถไฟ
เป็นเทศบาลในเขต Visp ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ประมาณ 5 กิโลเมตรไปทางเหนือของเซอร์แมท ที่นี่ถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอันสูงชันที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ราบสูงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง
เมือนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ความสูง 1,620 เมตรจากระดับน้ำทะเล และสามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน เป็นเมืองเล็กๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของหมู่บ้านสวิสโบราณ เป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับสกีที่ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องความสวยงาม และในเรื่องราคาค่าครองชีพที่แพงทั้งๆ ที่เป็นเมืองเล็ก
เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ใช้เดินทางขึ้นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น เดินทางขึ้นสู่สถานีกระเช้าไฟฟ้าที่สูงที่สุดในยุโรป ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีซึ่งผู้เดินทางสามารถชมวิวของท้องฟ้า และยอดเขาที่ปกครุมไปด้วยหิมะ
เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากในเทือกเขาแอลป์ มีรูปทรงปิรามิด ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4,478 เมตร เขาลูกนี้ด้านหนึ่งอยู่ในเขตแดนของประเทศสวิส อีกด้านหนึ่งอยู่ในเขตแดนของประเทศอิตาลี
เป็นเทศบาลในเขต Visp ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ประมาณ 5 กิโลเมตรไปทางเหนือของเซอร์แมท ที่นี่ถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอันสูงชันที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ราบสูงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขต Vaud บนชายฝั่งทางเหนือของทะเลสาบเจนีวาโดยอยู่ใกล้ๆ กับเมืองโลซานน์ นักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่เคยมาเยือนต่างก็ขนานนามให้เมืองเวเว่ย์ เป็น "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส (Pearls of the Swiss Riviera)"
เป็นเมืองเล็กๆ แสนน่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบแสนสวยที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ริมจุดตะวันออกของทะเลสาบเจเนวา ซึ่งเป็นปราสาทที่ล้อมด้วยน้ำ หรือเรียกได้ว่าเป็นเกาะเล็กซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งสวิสและยุโรป ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคอยเก็บค่าผ่านทางของเรือที่ล่องผ่านทะเลสาบเจนีวา ภายหลังปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นสถานที่ที่ทำให้ Lord Byron เกิดแรงบันดาลใจในการประพันธ์บทกวีโรแมนติกเรื่อง "The Prisoner of Chillon" ซึ่งมาจากชีวิตจริงของ ฟรองซัว เดอ โบนีวาร์ นักเทศน์จากเจนีวา ที่ถูกจองจำอยู่ในปราสาทแห่งนี้และภายหลังได้ถูกปล่อยตัว
เป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา มีความสวยงามโดยธรรมชาติ กับทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศ
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่หญ้ากว้างขวางและต้นไม้อายุเก่าแก่ ตั้งอยู่ในเมืองโลซานน์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริเวณกลางสวนมีศาลาไทย ที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยในต่างแดนแห่งนี้ และยังมีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา ที่ถือเป็นอีกจุดแลนมาร์คของสวน
เป็นศาลาไทยที่ตั้งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะ Parc du Denantou ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีเปิด
เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม และเป็นประตูสู่เทือกเขาแอลป์ มีนาฬิกาดอกไม้ริมทะเลสาบและน้ำพุเป็นสัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ยังเป็นเมืองคมนาคมหลักของทวีปยุโรปอีกด้วย
เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทะเลสาบเจนีวา น้ำพุแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปโดยปริยาย เจ็ตโดมีความสูงกว่า 140 เมตร พุ่งสู่อากาศด้วยความเร็วกว่า 200 กม / ชม. ว่ากันว่าละอองน้ำที่กระจายไปโดยรอบน้ำพุนั้นมีมากกว่า 500 ลิตรต่อวินาทีเลยทีเดียว
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
เป็นพื้นที่ชนบทที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางขึ้นยอดเขาจุงเฟราที่สำคัญจุดหนึ่ง มีโรงแรมและรีสอร์ทตากอากาศอยู่หลายแห่งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามไม่แพ้พื้นที่รอบๆ
เป็นเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในสี่รางรถไฟในโลกที่ยังใช้งานระบบไฟแบบโบราณ มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา
มีความหมายว่า สาวน้อย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ยอดเขาจุงเฟรา มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร และเป็นที่นิยมของนักสกีมาเล่นกีฬาที่ท้าทายที่นี่
เป็นลานหอดูดาวซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่ได้รับการตั้งชื่อตามสฟิงซ์ซึ่งเป็นยอดหินที่ตั้งอยู่ จากตรงนี้นักท่อเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเทือกเขาอันงดงงามได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส
เป็นธารน้ำแข็งที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” มีความยาวถึง 22 กิโลเมตร ซึ่งยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย วันที่อากาศดีจากบนยอดเขาจุงเฟราจะสามารถเห็นวิวธารน้ำแข็งนี้ได้อย่างชัดเจน
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิน และเป็นอนุสาวรีย์สำหรับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น สำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในฝรั่งเศส
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่าง แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิม
เป็นเมืองที่สวยงามราวกับเทพนิยาย ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้วเมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลก ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทางที่เมืองซุกจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง
โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์
เป็นร้านทำทองอันเก่าแก่ที่เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก
ทะเลสาบแสนโรแมนติกที่ล้อมรอบด้วยหุบเขาริกิและพิลาตัส
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับรางวัลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกอีกด้วย ซูริคมีชื่อเสียงในเรื่องการเป็นศูนย์กลางการเงินของโลกรวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัย แวดล้อมด้วยแม่น้ำและทะเลสาบที่มีน้ำใสสะอาดจนสามารถดื่มได้ เมืองที่งดงามแห่งนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเที่ยวชมและรื่นรมย์กับบรรยากาศและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังเป็นมหานครแห่งวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์นี้
เป็นโบสถ์สวยที่มีสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 9 อันมีชื่อเสียง เพราะหน้าต่างในโบสถ์ประดับด้วยกระจกสีฝีมือศิลปินที่มีชื่อเสียงมากของยุโรปชื่อ MARC CHAGALL รังสรรค์งานศิลปะชิ้นเยี่ยมของโลกไว้ที่โบสถ์นี้
อีกหนึ่งจัตุรัสที่เป็นหนึ่งในสถานที่แพงที่สุดในเมืองซูริก โดยจัตุรัสปาราเดพลาทซ์ เป็นจัตุรัสเก่าแก่ ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริก ปัจจุบันจัตุรัสแห่งนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองซูริกและยังเป็นศูนย์กลางของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย