เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นหนึ่งในสองท่าอากาศยานนานาชาติหลักที่ให้บริการเมืองอิสตันบูลของตุรกี ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิสตันบูลประมาณ 32 กิโลเมตร ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับสายการบินบางแห่งรวมถึง Pegasus Airlines
เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ห่างจากชายฝั่งทะเลมาร์มะราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ปลายสมัยโรมันในยุคจักรวรรดิไบเซนไทน์ที่คริสตศาสนาเฟื่องฟู มาจนถึงอาณาจักรออตโตมันหรือยุคที่ศาสนาอิสลามเฟื่องฟู ที่นี่จึงเป็นดั่งจุดยุทธศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยและกลิ่นอายของการเปลี่ยนผ่านศาสนาและวัฒนธรรมที่แตกต่างไว้อย่างเต็มเปี่ยม
เป็นมัสยิดเก่าแก่ของเมืองบูร์ซ่า Grand Mosque ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดารทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมัน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ซา มีลักษณะเด่นตามชื่อคือตัวสุเหร่าจะเป็นสีเขียว ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1491 - 1421 โดยสถาปนิกชื่อ Haci Ivaz Pasa
เป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ทางตะวันตกของอนาโตเลีย เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามในประเทศตุรกีรองจากอิสตันบูลและอังการา ครอบคลุมไปถึงน่านน้ำรอบนอกของอ่าวอิซเมียร์ตรงบริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำ Gediz เมืองนี้ยังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเมดิเตอร์เรเนียนในปี 1971 และการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกในปี 2005
เป็นมัสยิดรูปทรงวงกลมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสโคนัค ในรูปแบบสถาปัตยกรรมออตโตมัน หลังคา ประตู หน้าต่าง ถูกล้อมรอบด้วยกระเบื้องเซรามิกและหินอย่างสวยงาม ถึงแม้จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในมัสยิดที่สำคัญของเมือง
หอนาฬิกาหินอ่อนที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางจัตุรัสโคนัค ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสชื่อ Levantine Raymond Charles Père และสร้างขึ้นในปี 1901 เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของการครองราชย์ของกษัตริย์อับดุลฮามิดที่ 2 หอนาฬิกาแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของอิซเมียร์
เป็นอดีตเมืองใหญ่สุดแห่งเอเชีย มีอายุราว 2 พันปี ซึ่งถือว่าเป็นเมืองเก่าที่มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก(เทียบกับเมืองอื่นๆในยุคเดียวกัน) ปัจจุบันจะทำการขุดแต่งบูรณะได้แค่เพียง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าเมืองนี้ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งอารยธรรมกรีก-โรมันอันสุดคลาสสิคที่ยังคงอยู่คู่กับตุรกี ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันมากมายผ่านงานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม รวมไปถึงผ่านทางความเชื่อต่างๆ
เป็นเมืองตากอากาศบนชายฝั่งทะเลอีเจียนของตุรกี เป็นศูนย์กลางของเขตชายทะเลที่มีชื่อเดียวกันภายในจังหวัด Aydın Kuşadası และเป็นจุดหมายปลายทางการล่องเรือสำราญขนาดใหญ่บนชายฝั่งทะเลอีเจียนตะวันตก เมืองคูซาดาสึขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าดึงดูดที่สุดของทะเลอีเจียนและเป็นที่ตั้งของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมาย
คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ ถั่วพิสทาชิโอ วอลนัท และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมากหน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอ๊ปเปิ้ล
โรงงานผลิตเสื้อหนังคุณภาพดี ให้ท่านมีเวลาเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสื้อหนัง ตามอัธยาศัย
เป็นหมู่บ้านออร์โธดอกเก่าแก่ที่สวยงาม ห่างจากเมืองเอเฟซุสประมาณ 12 กิโลเมตร ตังอยู่ตามแนวเขา ทิวทัศน์ของไร่องุ่นและต้นพีชที่สวยงาม ในหมู่บ้านนี้ยังผลิตไวน์ผลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอีกด้วย
เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดไฮไลท์คือปราสาทปุยฝ้ายสุดวิจิตร บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์แห่งตุรกี ทั้งงดงามราวกับเป็นน้ำพุร้อนจากสวรรค์ และมีสรรพคุณในการบำบัดโรคจนกลายเป็นสปาธรรมชาติมานานกว่าพันปี
เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนที่มีลักษณะเป็นหน้าผาที่กว้างใหญ่ ด้านข้างของอ่างน้ำจะเป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง มองดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆ หรือปุยฝ้าย นำ้แร่ที่ไหลลงแต่ละชั้นจะกลายเป็นหินปูนย้อยห้อยเป็นรูปต่างๆ อย่างมหัศจรรย์ ในอดีตชาวโรมันเชื่อว่าน้ำที่นี่สามารถรักษาโรคได้
ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพวกเติร์กบนแผ่นดินตุรกี ทำให้สถาปัตยกรรมแบบเซลจุกดั้งเดิมมีให้เห็นอย่างโดดเด่นที่นี่ และยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของนิกายเมฟเลวี ที่ถือกำเนิดมาจากการก่อตั้งของเมฟลานา เยลาเลดิน ผู้ซึ่งเป็นกวีชาวอัฟกานิสถานที่ทำให้ชาวคริสต์จำนวนไม่น้อยหันมานับถือศาสนาอิสลามเขาจึงเปรียบเหมือนผู้วิเศษในสายตาเหล่าสาวก
เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ยส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟานาเจลาเลดดิน อาจารย์ทางปรัชญาประจำราชสำนักแห่งสุลต่านอาเลดิน เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตร ของเมฟลานาด้วย
เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุสเป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า”
เป็นโรงแรมที่พักสมัยโบราณที่สามารถให้คนมาจอดรถคาราวานของเขาได้ เป็น 1 ใน 3 อนุสรณ์ที่สำคัญของโรงแรมคาราวานในประเทศตุรกี
ไฮไลท์หนึ่งของการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตุรกี คือการขึ้นบอลลูนชม เมืองในหินผาที่ Cappadocia แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงเอาการ แต่ก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ประทับใจแนะนำให้ลองไปสัมผัส บรรยากาศและประสบการณ์นี้เมื่อท่องเที่ยวในตุรกี มองเห็นลิปๆ ไปสุดตาในหุบเขา คือมหัศจรรย์ธรรมชาติ เมืองในศิลาที่คราวหนึ่งย้อนไปไม่นานในสมัยประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องราวอันซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ให้เล่าขานสืบมา
เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
ที่นี่เป็นหนึ่งในนครใต้ดินที่สำคัญของตุรกี ซึ่งเกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ
เป็นหมู่บ้านที่มีภูเขาขนาดใหญ่ซึ่งมีรูพรุนไปจนทั่ว ในสมัยก่อนมีไว้เป็นป้อมปราการเอาไว้สอดส่องข้าศึกลักษณะคล้ายจอมปลวกหรือรวงผึ้งขนาดใหญ่ รวมๆ มีหินรูปกรวยคว่ำ รูปกระโจม กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ชมวิวอันสวยงามของคัปปาโดเกีย และยังมองเห็นลักษณะของธรรมชาติที่เป็นเหมือนแคนยอน คลื่นหิน และหมู่หินรูปทรงแปลกตา
พรมเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกี ซึ่งมีสองแบบตามลักษณะความยาวของเส้นใยที่ใช้ทอคือ ฮาลื่อและคิลิม ฮาลื่อเป็นพรมแบบทั่วไปที่เห็นกัน วัสดุที่ใช้ทอมีทั้งขนสัตว์ฝ้าย ไหม เมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก ด้านหนึ่งจึงปุยขึ้นเป็นลายตามที่ช่างต้องการ ส่วนคิลิมใช้วัสดุเหมือนกัน แต่ทอโดยไม่ตัดด้ายพรม จึงมีลายเหมือนกันสองด้าน
ชมโรงงานเซรามิคคุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย
อังการ่าเป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ตั้งอยู่บนฝั่งทวีปเอเชีย เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของตุรกีรองจากอิสตันบูล และยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีร่องรอยประวัติศาสตร์ยุคจักรวรรดิออตโตมันอยู่มากมาย
ทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ) เป็นทะเลสาบที่เรียกได้ว่ามีความเค็มที่สุดในโลก แถมน้ำทะเลที่เป็นสีแดง ก็ดูแปลกตา เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศตุรกี ซึ่งสาเหตุที่มีน้ำทะเลเป็นสีแดงก็เพราะว่าแท้จริงแล้วมันคือสีของสาหร่าย ‘Dunaliellam salina’ หากเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบเกลือในหน้าร้อน น้ำทะเลสาบจะเหือดแห้งเหลือเพียงแต่กองเกลือที่ตกผลึกเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซ็นติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดสายตา และที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Star War อีกด้วย
เป็นอนุสรณ์สถานและสุสานของมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ซึ่งเป็นผู้นำในสงครามกู้อิสรภาพของตุรกีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี และประธานาธิบดีคนแรก อนุสรณ์สถานออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1944 – 1953 ในธนบัตรตุรกีที่พิมพ์ระหว่างปี 1966 – 1987 และ 1999 – 2009 จะเป็นรูป ANITKABIR ด้วย
เป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ทวีป คือทวีปยุโรปซึ่งอยู่ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส และทวีปเอเชียซึ่อยู่ฝั่งอนาโตเลีย การได้ไปเยือนเหมือนการอยู่คาบเกี่ยวระหว่าง 2 อารยธรรมที่มีคุณค่าดั่งอัญมณีของโลก
ชมเทศกาลดอกทิวลิป (Tulip Festival 2018) ตลอดเดือนเมษายนของทุกปี สวนอีเมอร์กัน พาร์ค (Emirgan Park) สวนสาธารณะแห่งนี้จะให้เป็นสถานที่จัดงาน เทศกาลดอกทิวลิป แท้จริงแล้วประเทศตุรกีเปฺ็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลก มีดอกทิวลิปหลากสี หลากหลายสายพันธุ์ให้ท่านได้ชม
มีชื่อเดิมว่า "สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1" ภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่นกุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป
จัตุรัสนี้สร้างในสมัยจักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวรุส โดยเป็นอดีตสนามอารีน่าที่ใช้สำหรับการแข่งม้า และกิจกรรมต่างๆสามารถจุผู้คนได้กว่า 100,000 คน ในฮิปโปโดรมมีอนุสาวรีย์เด่นๆสามแห่งคือ เสาโอบีลิสก์ฟาโรหืธุตโมส (Obelisk of Pharaoh Thutmose) ซึ่งคอนคอนสแตนตินมหาราชนำมาจากเมืองคาร์นัคประเทศอียิปในสมัยที่มีการขนย้ายอนุสาวรีย์ต่างๆมาจากอาณาจักรยุคโบราณ, เสางู (Serpentine colum) สลักเป็นรูปสามเหลี่ยมตัวกระหวัดรัดพันกันเดิทตั้งอยู่ที่วิหารเทพอพอลโล่แห่งเมืองเดลฟี, เสาคอลัมน์คอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.940 แต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด
ในอดึตสุเหร่าแห่งนี้เป็นโบสถ์ที่ไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ แต่ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม สร้างโดย "พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนติน" โดยโบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาสร้างถึง 17 ปี แต่ก็ถูกผู้ก่อการร้ายบุกเผาทำลายหลายครั้ง วอดวายนับไม่ถ้วน โดยมีสาเหตุหลักเนื่องจากความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม
เป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านมานานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดย 'จักรพรรดิเมห์เม็ตผู้พิชิต' ในอดีตเคยเป็นสถานที่ฝึกขุนนางทหารรับใช้ของสุลต่านชาว ตุรกี ซึ่งคัดเลือกเด็ก ๆ คริสเตียน (พวกนอกศาสนา) มาสอนให้เป็นเติร์กและนับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาเมื่อขุนทหารเหล่านี้ออกมารับราชการเป็นใหญ่เป็นโตในวังก็กลายเป็นหอกข้างแคร่ และในบางยุคก็ร่วมก่อการปฏิวัติรัฐประหารเลยด้วยซ้ำ
เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ที่ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส หนึ่งในช่องแคบเลื่องชื่ออันดับต้นๆ ของโลก เป็นพรมแดนธรรมชาติที่แบ่งอิสตันบูลออกจากยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมต่อกับทะเลดำ เข้ากับทะเลมาร์มาร่า ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่
เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร อุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ "เสาเมดูซ่า"
เป็นหนึ่งในสองท่าอากาศยานนานาชาติหลักที่ให้บริการเมืองอิสตันบูลของตุรกี ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิสตันบูลประมาณ 32 กิโลเมตร ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับสายการบินบางแห่งรวมถึง Pegasus Airlines
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย