เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆ ดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญของอิตาลีตอนเหนือ ตั้งอยู่ในแถบเทือกเขาแอลป์ ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของ Donizetti หนึ่งในนักแต่งเพลงโอเปร่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นจัตุรัสที่รายล้อมไปด้วยอาคารที่สำคัญและสวยงามมากมาย มีน้ำพุตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส
ตั้งอยู่ในจัตุรัสเมืองเบอร์กาโม มีหอระฆังสูง 52 เมตรตั้งเด่นอยู่ มีบันไดขึ้นไป 230 ขั้น ข้างบนสามารถมองเห็นวิวอันงดงามของจัตุรัสและเมืองเบอร์กาโมได้
เป็นมหาวิหารแบบโรมันคาทอลิคในเบอร์กาโม ประเทศอิตาลี ถูกสร้างเพื่ออุทิศให้กับนักบุญอเล็กซานเดอร์แห่งแบร์กาโมนักบุญอุปถัมภ์ของเมือง
เป็นหนึ่งในมหาวิหารเอกของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ในเบอร์กาโม ประเทศอิตาลี ก่อตั้งขึ้นในปี 1137 องอีกคริสตจักรจากศตวรรษที่ 8 ที่อุทิศให้กับเซนต์แมรี รูปลักษณ์ภายนอกส่วนใหญ่มีสถาปัตยกรรมแบบลอมบาร์ด ประดับประดาด้วยระเบียงที่มีหลังคาสองอันที่มีลวดลายเรขาคณิต
ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นเอ๊าท์เลทใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์รวม เช่น แว่นตา ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา แฟชั่นแบรนด์แนมชื่อดัง
เมือนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ความสูง 1,620 เมตรจากระดับน้ำทะเล และสามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน เป็นเมืองเล็กๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของหมู่บ้านสวิสโบราณ เป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับสกีที่ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องความสวยงาม และในเรื่องราคาค่าครองชีพที่แพงทั้งๆ ที่เป็นเมืองเล็ก
อิสระให้ท่านเดินเล่น พักผ่อน ช้อปปิ้งภายในเมืองเซอร์แมทกันได้ตามอัธยาศัย
เมืองเล็กๆ ที่อยู่ในเมืองเอจล์ (Aigle) อีกที ที่นี่มองเห็นเทือกเขาแอลป์ได้ชัดเจน เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่นิยมของคนสวิตเซอร์แลนด์แห่งหนึ่ง และมีสกีรีสอร์ทบนเขาให้เลือกพักมากมาย
เป็นเส้นทางผ่านภูเขาทางตะวันตกของเทือกเขาแอลป์ของสวิสซึ่งเชื่อมระหว่าง Aigle, Le Sépey และ Les Diablerets ในเขต Vaud กับ Gstaad และเป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นไปสู่เขากลาเซียร์ 300 โดยเป็นที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน
เป็นยอดเขาอันสวยงามที่เปรียบเสมือนสวรรค์บนดิน ด้วยระดับความสูง 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวอันสุดงดงามของเทือกเขาแอลป์แบบพาโรนาม่า บนกลาเซียร์ 3000 นี้ยังมีร้านอาหารสุดหรู Botta ที่ออกแบบโดยสถาปนิกรางวัลดีเด่น Mario Botta คอยพร้อมไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเมื่อยามหิวกระหายอีกด้วย
เป็นสะพานแขวนเชื่อมสองยอดเขาด้วยความสูง 3,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตัวสะพานมีความยาว 107 เมตร กว้างแค่ 78 เซนติเมตร อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 เมตร เมื่อยืนชมวิวบนสะพาน สามารถมองเห็นภูเขาที่รายรอบจะสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา สะพานแขวนแห่งนี้เป็นที่แรกของโลก ที่สร้างสะพานเชื่อมต่อกันระหว่างของ 2 ภูเขา สามารถรับน้ำหนักคนที่เดินขึ้นสะพานพร้อมกัน 300 คน แต่จำกัดให้ผู้เดินข้ามสะพานได้พร้อมกันไม่เกิน 150 คน
เป็นเมืองเล็กๆ แสนน่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบแสนสวยที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ริมจุดตะวันออกของทะเลสาบเจเนวา ซึ่งเป็นปราสาทที่ล้อมด้วยน้ำ หรือเรียกได้ว่าเป็นเกาะเล็กซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งสวิสและยุโรป ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคอยเก็บค่าผ่านทางของเรือที่ล่องผ่านทะเลสาบเจนีวา ภายหลังปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นสถานที่ที่ทำให้ Lord Byron เกิดแรงบันดาลใจในการประพันธ์บทกวีโรแมนติกเรื่อง "The Prisoner of Chillon" ซึ่งมาจากชีวิตจริงของ ฟรองซัว เดอ โบนีวาร์ นักเทศน์จากเจนีวา ที่ถูกจองจำอยู่ในปราสาทแห่งนี้และภายหลังได้ถูกปล่อยตัว
เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม และเป็นประตูสู่เทือกเขาแอลป์ มีนาฬิกาดอกไม้ริมทะเลสาบและน้ำพุเป็นสัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ยังเป็นเมืองคมนาคมหลักของทวีปยุโรปอีกด้วย
เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทะเลสาบเจนีวา น้ำพุแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปโดยปริยาย เจ็ตโดมีความสูงกว่า 140 เมตร พุ่งสู่อากาศด้วยความเร็วกว่า 200 กม / ชม. ว่ากันว่าละอองน้ำที่กระจายไปโดยรอบน้ำพุนั้นมีมากกว่า 500 ลิตรต่อวินาทีเลยทีเดียว
เป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา มีความสวยงามโดยธรรมชาติ กับทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศ
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่หญ้ากว้างขวางและต้นไม้อายุเก่าแก่ ตั้งอยู่ในเมืองโลซานน์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริเวณกลางสวนมีศาลาไทย ที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยในต่างแดนแห่งนี้ และยังมีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา ที่ถือเป็นอีกจุดแลนมาร์คของสวน
เป็นศาลาไทยที่ตั้งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะ Parc du Denantou ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีเปิด
เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์สำคัญๆจำนวนมาก ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก
บ่อหมีนี้สัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น เพราะว่ามีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยผู้ครองเบิร์นในยุคนั้นได้ออกล่าสัตว์ สัตว์ตัวแรกที่ล่าได้ คือ หมี จึงได้ตั้งชื่อเมืองนี้ว่า เบิร์น เบิร์นสามารถอนุรักษ์สัญลักษณ์ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาเป็นไปของเมืองได้ดี บ่อเลี้ยงหมีที่ว่านี่ เป็นหน้า เป็นตา ของเมือง เบิร์น เพราะว่าก่อนที่แขกต่างเมืองจากประเทศไหนๆ เมื่อมาถึงเมืองนี้ ก็ต้องแวะเข้ามาชม เจ้าหมีก่อน เพราะว่าบ่อหมีตั้งอยู่ก่อนเข้าเมือง
เป็นย่านเมืองเก่าของกรุงเบิร์น ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านเสื้อผ้าบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยว
เป็นถนนที่มีระดับสูงที่สุดของเมืองนี้ และเป็นทางผ่านของนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม ที่นี่เต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ
หอนาฬิกาแห่งนี้มีความโดดเด่นในสถาปัตยกรรมการสร้างด้วยความสวยงาม หน้าปัดทำด้วยทองแดงขนาดใหญ่และยังมีหน้าปัดขนาดเล็กอีกหนึ่งเรือนอยู่ด้านล่างภายในหน้าปัดนาฬิกาขนาดเล็กจะ แสดงเวลา วัน เดือน ปี และจักรราศี สร้างเพื่อเป็นประตูเมือง ไฮไลท์ที่ต้องรอชมทุกๆ 5 นาทีก่อนจะครบรอบชั่วโมงคือจะมีตุ๊กกาออกมาเต้นระบำ
เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ของกรุงเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในสไตล์กอธิคเมื่อปี 1421. มีความสูงอยู่ที่ 100.6 เมตร มหาวิหารนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์จริงๆ ในปี 1893 ที่นี่เป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
เป็นเมืองที่สวยงามราวกับเทพนิยาย ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้วเมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลก ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทางที่เมืองซุกจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง
เป็นร้านทำทองอันเก่าแก่ที่เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก
เป็นเมืองเล็กในเขตุลูเซิร์นของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตั้งแต่ศตรวรรษที่ 19 เพราะ ความสวยงามของเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำริกิ
เป็นรถไฟที่นำพานักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดเขาริกิ หนึ่งในภูเขาขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ข้างบนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบด้าน 360 องศา
หนึ่งจุดชมวิวสวยๆ ที่ได้รับการยกย่องเป็น ราชินีแห่งภูเขา เพราะสามารถมองเห็นยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ที่ระดับความสูง 1,797 เมตร (5,896 ft)
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิน และเป็นอนุสาวรีย์สำหรับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น สำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในฝรั่งเศส
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่าง แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิม
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย