เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นรถไฟความเร็วสูงที่บริหารงานโดยการรถไฟจีน มีความเร็วสูงสุดประมาณ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง การออกแบบระบบรถไฟความเร็วสูงทั้งหมดได้ถูกออกแบบมาจากต่างประเทศ ใช้สำหรับการเดินทางที่รวดเร็วระหว่างเมือง ปัจจุบันจีนมีแบบรถไฟความเร็วสูงต่างๆ มากมาย ใช้งานไปตามแต่ละสภาพภูมิประเทศ และเศรษฐกิจ
เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นในสมัยสงครามระหว่างรัฐ (จ้านกั๋วก่อนคริสต์กาล 403-221 ปี) อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ของพื้นที่อันเป็นที่ตั้งของลั่วหยางนี้มีมาก่อนหน้านั้นยาวนานมานับพัน ๆ ปี เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การดำรงชีพและการปกครองของบรรพบุรุษชาวจีนมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยพื้นที่อันเป็นเมืองลั่วหยางในปัจจุบันก็ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย
เป็นวัดเส้าหลินมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในประเทศจีนและในต่างประเทศ ได้รับการกล่าวขานในเรื่องของกระบวนท่าวิทยายุทธ เพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งวิชาการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ปรากฏชื่อในนิยายกำลังภายในหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งล้วนแต่กล่าวถึงวิชาเพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินอยู่เสมอ
ชมการแสดงกังฟู ที่มีการสืบทอดเป็นบทเรียนและมีการจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม ที่โรงเรียนฝึกกังฟูในบริเวณใกล้เคียงวัดเส้าหลิน
ประตูเมืองโบราณสมัยราชวงศ์สุย หนึ่งใน 8 แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ตัวอาคารมีทั้งหมด 4 ชั้น ในยามค่ำคืนจะมีการประดับประดาโคมไฟอย่างสวยงาม
เป็นถนนสายประวัติศาสตร์ของชาวลั่วหยาง ทั้งสองข้างทางจะลายรอบไปด้วยบ้านเก่า ในอดีตถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางขนส่งที่สำคัญมากของเมืองลั่วหยาง
ถ้ำหินหลงเหมิน มีอายุราว 1,500 ปี เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยเว่ยเหนือ ค.ศ. 494 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง บูรณะ และต่อเติมยาวนานถึง 400 กว่าปีจนถึงยุคราชวงค์ถังและซ่ง มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันยังคงหลงเหลือถ้ำผาแกะสลักอยู่จำนวน 2,100 กว่าคูหา โพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆ อีก 3,600 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 50 กว่าแห่ง พระพุทธรูปสลักมากกว่า 100,000 องค์
วัดถ้ำเฟิ่งเซียนซื่อ ชมพระประธานสูง 17 เมตรสลักอยู่กลางแจ้ง แวดล้อมด้วยพระโพธิสัตว์และทวยเทพ กล่าวกันว่าใช้พระพักตร์ของพระนางบูเซ็คเทียนเป็นแบบในการแกะสลัก
เป็นศาลที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองลั่วหยาง ภายในบริเวณมีรูปปั้นกวนอูแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยสามก๊ก(ค.ศ.220-265) ผู้ซึ่งได้รับสมญานามให้เป็นถึงมหาเทพแห่งความจงรักภักดี คุณธรรมและความกล้าหาญของชาวจีน อีกทั้งยังเป็นที่ฝังศีรษะของกวนอูซึ่งโจโฉเป็นผู้ที่จัดพิธีฝังให้อย่างสมเกียรติ
วัดไป๋หม่า หรือ วัดม้าขาว เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชวงศ์ฮั่น วัดม้าขาวถือว่าเป็นปฐมสังฆาราม หรือ วัดพุทธแห่งแรกในประเทศจีน โดยกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา วัดแห่งนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ผ่านยุคสมัยรุ่งเรือง และร่วงโรยของพุทธศาสนาในประเทศจีนมาก็มาก กระทั่งปัจจุบัน อารามที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้นต่างก่อสร้างขึ้นในสมัยหมิงและชิงทั้งสิ้น โดย วิหารพระใหญ่ เป็นสิ่งก่อสร้างหลักของวัด แผนผังวัดม้าขาว เป็นรูป 4 เหลี่ยม มีพื้นที่กว้าง 4 หมื่นตารางเมตร
เมืองหลิงเป่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ล้อมรอบด้วยหลายๆ จังหวัดของมณฑลซานซี
เป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี ในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์จีน ซีอานมีประวัติอันยาวนานมากกว่า 3,100 ปี โดยชื่อเดิมว่าฉางอาน ภูมิอากาศของภูมิภาคนี้อบอุ่น มีฝนตกมาก มีปริมาณฝนเทียบได้ใกล้เคียงกับภูมิภาคด้านใต้ของประเทศจีนในปัจจุบัน
ชาวจีนเรียกสุสานแห่งกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า “ฉินหย่ง” บ้างเรียก “ปิงหม่าหย่ง” โดยปิง หมายถึง ทหาร , หม่า หมายถึง ม้า , หย่ง หมายถึง หุ่น ซึ่งสุสานกองทัพมีทั้งหมด 3 หลุม ซึ่งชาวนาขุดพบโดยบังเอิญ ในปี ค.ศ. 1974 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น
โชว์ราชวงศ์ถัง เป็นโชว์อันตระการตาที่เป็นการแสดงนาฏศิลป์ชุดต่างๆ ในสมัยราชวงศ์ถัง ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการและศิลปะที่รุ่งเรืองอย่างสูงสุด
เป็นเจดีย์แห่งวัดฉือเอิน สร้างเสร็จในปี 652 โดยถังเกาจง (หลี่จื้อ) ฮ่องเต้องค์ที่สาม แห่งราชวงศ์ถัง และ ได้นิมนต์พระภิกษุสวนจั้ง หรือรู้จักในนามพระถังซัมจั๋ง พระเถระที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยถัง ซึ่งใช้เวลากว่า 15 ปี จาริกไปถึงอินเดียและได้นำพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา กลับมาเผยแผ่ ในแผ่นดินจีนให้มาอยู่ที่วัดฉือเอินแห่งนี้ พระถังซัมจั๋งได้ใช้เวลาออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่าใหญ่ในวัดฉือเอินเพื่อใช้ในการเก็บรักษาพระไตรปิฎก ที่ท่านได้นำมาจากอินเดียและแปลเป็นภาษาจีนนับจำนวนกว่าพันเล่ม
เป็นกำแพงเมืองโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีแนวกำแพงจากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาว 2.8 กิโลเมตร ทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาว 4.2 กิโลเมตร ความยาวโดยรอบ 14 กิโลเมตร สูง 12 เมตร มีประตูเข้าออกทั้งสี่ด้านรวม 13 ประตู
จัตุรัสหอกลอง เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน บนถนนซีต้าเจีย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิง ต่อมาในสมัยราชวงศ์ชิงได้ทำการบูรณะขึ้นมาใหม่สองครั้ง โดยรักษารูปแบบเดิมไว้ โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ 3 ชั้น ฐานอิฐสูง 77 เมตร กว้าง 52.6 เมตร ยาว 38 เมตร ประตูด้านเหนือและใต้สูงและกว้าง 6 เมตร ชั้นล่างก่อเป็นผนังอิฐและประตูทางเข้าชั้นที่สองและชั้นที่สามเป็นเครื่องใม้หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ สร้างขึ้นในปีที่ 17 แห่งการครองราชย์ของพระจักรพรรดิหงหวู่ (จูหยวนจาง) ซึ่งเป็นพระจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์หมิง
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน สร้างจากอิฐและไม้ เป็นอาคารหลังคาสามชั้น มีความสูงทั้งหมด 36 เมตร หอระฆังแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปีที่ 17 สมัยจักรพรรดิหงอู่แห่งราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1384) เป็นรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมที่เด่นชัดของราชวงศ์หมิง เป็นหอระฆังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรักษาไว้สมบูรณ์แบบที่สุดของจีนโบราณที่สืบทอดจนถึงปัจจุบัน
เป็นถนนคนเดินอิสลามที่เป็นแหล่งรวมของอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อหลากชนิด รวมถึงร้านขายของที่ระลึกและร้านขายผลไม้แห้ง เช่น พุทธา อินทผาลัม ลูกพลับ กีวี่ วอลนัทและถั่วต่างๆ ก็มีให้ท่านได้เลือกซื้อมากมายหลายร้าน ท่านใดที่เป็นนักชิมรับรองว่า อาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิดในตลาดมุสลิมแห่งนี้ไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี