เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
ตั้งอยู่ที่ 99 หมู่ 3 ถนนสนามบินพาณิชย์ ตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา 90115 บริหารงานโดยบมจ. ท่าอากาศยานไทย โดยมี นาวาอากาศเอก นรนิติ์ ผลกานนท์ เป็นผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เป็นท่าอากาศยานที่สำคัญ เนื่องจากเป็นประตูทางออกสำหรับชาวมุสลิมที่ต้องการไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่มีเที่ยวบินมากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ รองจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานดอนเมือง และ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตามลำดับ ปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 1,869,113 คน เที่ยวบิน 7,403 เที่ยวบินและสินค้าประมาณ 8,965 ตันใช้บริการท่าอากาศยานแห่งนี้ ทั้งนี้ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ มีความสามารถในการรองรับเที่ยวบินได้ 30 เที่ยวบิน/ชม. รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 1,900,000 คน และรองรับสินค้าได้ปีละ 13,800 ตัน
ชมวัดไทย(วัดไชยมังคลาราม) กราบพระพุทธไสยาสน์ ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ชมและถ่ายรูปวัดพม่าอยู่ตรงข้ามกับวัดไทย วัดไทยไชยมังคลาราม เป็นวัดไทย ตั้งอยู่เลขที่ 17 ถนนพม่า เขตปูเลาติกุส รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยตัววัดตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับ วัดพม่าธรรมิการาม ซึ่งเป็นวัดพม่าที่มีชื่อเสียงของรัฐปีนัง วัดไชยมังคลารามเป็นวัดไทยที่มีชื่อเสียงมานานบนเกาะปีนัง โดยภายในอุโบสถมีพระนอนยาวที่สุดในประเทศมาเลเซีย โดยมีความยาว 108 ฟุต สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยมีชื่อว่าพระพุทธชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานนามให้ในคราวเสด็จประพาสเมื่อ วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2505
วัดธรรมิการาม ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับวัดไชยมังคลาราม โดดเด่นด้วยการใช้สีแดงสลับทองดึงดูดสายตา มีรูปปั้นช้างหินขาวสองเชือกยืนพิทักษ์อยู่หน้าทางเข้าที่ประดับประดาอย่างสวยงาม เมื่อมองเข้ามา สายตาคุณจะสะดุดกับเสาหลักสีทอง หลังคาโค้งสีทองที่เรียงกันเป็นแถวอย่างยิ่งใหญ่ และยอดเจดีย์ทรงกรวยสีทองวาววับ วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในปีนังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1803 ด้านในจะมีภาพวาดมากมาย ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง และรูปปั้นต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์และตำนานของพระพุทธศาสนา
มีชื่อเป็นภาษามาเลย์ว่าตันจุง เป็นเมืองเอกของรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะปีนัง เป็นมหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสองของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2008 จอร์จทาวน์และมะละกาถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ไม่ซ้ำใครทั้งในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วัดเค็ก ลก ซีหรือวัดเขาเต่า เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรู้จักกันอย่างแพร่ หลายในด้านการผสมผสานงานสถาปัตยกรรมในรูปแบบของพม่า จีน และไทยเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว สัญลักษณ์อันโดดเด่นภายในวัดแห่งนี้ ได้แก่ เจดีย์เจ็ดชั้น ซึ่งรู้จักกันในนามเจดีย์พระพุทธเจ้าหมื่นองค์ (Ban Po Thar) โดยสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระโพธิสัตว์ Tsi Tsuang Wang เนื่องจากองค์พระโพธิสัตว์ทรงเลือกที่จะช่วยเหลือผู้คนที่ประสบทุกข์เข็ญแทน การเข้าสู่นิพพานหลังจากการตรัสรู้
ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) นั้น อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตรทำให้อากาศด้านบนเย็นสบาย อยู่บนเนินเขาปีนัง ฮิลล์ หรือ บูกิต เบนดารา (Bukit Bemdara) สามารถชมเมืองจอร์จทาวน์ได้อย่างสุดสายตา วิธีการขึ้นไปบน ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) นั้นสามารถเดินเท้าขึ้นไปได้ด้วยแต่จะให้เวลาเยอะและต้องใช้แรงเป็นอย่างมาก
คาเมอรอน ไฮแลนด์ สถานที่พักผ่อนตากอากาศที่ขึ้นชื่อที่สุด แห่งหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ตามเส้นทางที่คดเคี๊ยวตามไหล่เขาชมทัศนียภาพ ที่สวยงามของธรรมชาติสองข้างทาง (ระยะทาง 250 กม)
คาเมอรอน ไฮแลนด์ สถานที่พักผ่อนตากอากาศที่ขึ้นชื่อที่สุด แห่งหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ตามเส้นทางที่คดเคี๊ยวตามไหล่เขาชมทัศนียภาพ ที่สวยงามของธรรมชาติสองข้างทาง (ระยะทาง 250 กม)
น้ำตกอีสกันดา (Lata Iskandar Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามแบบธรรมชาติอย่างมาก ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางลงจากคาเมรอนไฮแลนด์ โดยชื่อเต็มของน้ำตกอีสกันดาก็คือ Lata Iskandar Waterfall อยู่ในรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย
ซื้อหาผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งปลอดสารพิษในฟาร์ม
เก็นติ้ง ไฮแลนด์ เป็นคอมเพล็กซ์ของสิ่งปลูกสร้าที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเก็นติ้ง ที่นี่เป็นเสมือนนครที่ไม่เคยหลับใหล มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีจากการตั้งอยู่บนยอดเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,700 เมตร บนเก็นติ้งไฮแลนด์พรั่งพร้อมไปด้วยร้านค้า ภัตตาคาร ร้านกาแฟ และยังมี "เฟิสท์ เวิลด์พลาซ่า" ที่สามารถเพลิดเพลินกับดิสโก้, คาราโอเกะ, โบว์ลิ่ง 30 เลน, บริการนวดแผนโบราณ, สวนสนุกทั้งในร่มและกลางแจ้ง หรือแม้แต่คาสิโนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปลองเล่นเสี่ยงโชคได้
กระเช้าลอยฟ้าจากสถานที SKY WAY สู่ยอดเขา เก็นติ้ง ไฮแลนด์ นครที่ไม่เคยหลับใหล มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ใช้เวลาประมาณ 10 นาที นั่งกระเช้าข้ามภูเขาที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าอยู่อย่างมาก
วัดถ้ำบาตู เป็นวัดฮินดูขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในถ้ำ มีองค์พระขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงปากทางขึ้นบันไดสู่ปากถ้ำ
เป็นเมืองหลวงของประเทศมาเลเซียและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย ภายในมาเลเซียเอง กัวลาลัมเปอร์มักจะเรียกย่อ ๆ ว่า KL กัวลาลัมเปอร์เป็นหนึ่งในสามดินแดนสหพันธ์ของมาเลเซีย (Malaysian Federal Territories) ล้อมรอบด้วยรัฐสลังงอร์บนชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของคาบสมุทรมาเลเซีย (Peninsular Malaysia) ฝ่ายบริหารของรัฐบาลมาเลเซียได้ย้ายไปที่เมืองใหม่คือ ปูตราจายา อย่างไรก็ดี พระราชฐานของกษัตริย์ของมาเลเซีย รัฐสภามาเลเซีย และฝ่ายนิติบัญญัติยังคงอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์
เป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ออกแบบโดยเซซาร์ เปลลี ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจของเมือง ที่แวดล้อมด้วยสวนสาธารณะและส่วนอาคารคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ตึกปิโตรนัสมี 2 ตึกตั้งคู่กัน เชื่อมโดยสะพานลอยฟ้า (Skybridge) ที่นี่นับว่าเป็นอาคารแฝดที่สูงที่สุดของโลก
มัสยิดอาเหม็ด ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่และสวยที่สุดในมาเลเซีย แวะถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์ทหารอาสา เพื่อลํารึกถึงเหตุการณ์การสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เป็นพระราชวังแห่งชาติ ที่เป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีหรือยังดีเปอร์ตวนอากง พระราชวังแห่งนี้จะเป็นกลุ่มอาคารรูปทรงโดมเชื่อมกับทางหลวงไปยังตัวเมือง และมีถนนทางเข้าพิเศษหลายเส้นทางพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งมีการครอบครองมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 และกลายเป็นเขตพระราชฐานนับตั้งแต่นั้น
อาคารสุลต่านอับดุลซาหมัดเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมือง ตั้งอยู่หน้าจตุรัสเมอร์เดกาและสโมสรรอยัลสลังงอร์ บนถนนจาลันทุนกูอับดุลราห์มันสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1897 โดย เอ.ซี. นอร์มัน ในช่วงที่มาเลเซียอยู่ภายใต้การยึดครองของอังกฤษ อาคารแห่งนี้ถูกใช้เป็นสำนักงานของราชการหลายฝ่าย ปัจจุบัน อาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาลสูงและศาลฎีกา ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์และมีหอนาฬิกา เนิ่องจากอาคารแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเมือง นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปที่นี่
เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของมาเลเซียที่เป็นศูนย์กลางการบริหารของรัฐบาล ปุตราจายาได้ชื่อว่าเป็นเมืองในสวนที่สวยงาม มีรูปแบบการวางผังเมืองอย่างดี เสน่ห์ของที่นี่คือสวนพฤษชาติ ทะเลสาบปุตราจายา และอาคารรูปทรงแปลกตา
แวะชมและถ่ายรูปกับอาคารที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี อาคารมัสยึดสีชมพูอาคารที่ ทำ การรัฐ สะพาน แขวน ทะเลสาบ ทีมีทัศนียภาพทีสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมมัสยิดสีชมพูลอยอยู่บนแหลมปุตราจายา จุดที่สูงที่สุดของมัสยิด มีความสูงเทียบเท่าตึกประมาณ 25 ชั้น เป็นจุดเด่นที่สำคัญของเมือง นอกจากนั้นก็ มีทะเลสาบที่สร้างขึ้นโดยการขุด จึงทำให้เมืองปุตราจายามีภูมิทัศน์ที่สวยงาม และ มีสะพานที่ออกแบบอย่างสวยงามถึง 5 สะพาน
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่เขตเซปัง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เพื่อใช้เป็นท่าอากาศยานหลักแทนท่าอากาศยานสุลต่าน อับดุล อาซิส ซาห์(สูบัง) ซึ่งตั้งห่างอยู่ทางทิศเหนือ (ปัจจุบันเปิดทำการในสายภายในประเทศ และเครื่องบินขนาดเล็ก)
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี