เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก และเป็นท่าอากาศยานสำคัญและมีผู้ใช้บริการมากที่สุดในกลุ่มประเทศนอร์ดิก อีกทั้งยังเป็นท่าอากาศยานหลักของสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ ซิสเต็ม
เป็นรูปปั้นสัญลักษณ์ของเมืองที่ตั้งอยู่ริมอ่าวโคเปนเฮเกน นักท่องเที่ยวแทบทุกคนมาตรงจุดนี้เพื่อถ่ายรูปคู่กับเธอ ที่ยังคงนั่งหน้าเศร้าเฝ้ารอ เจ้าชายคนรักตามเนื้อเรื่องในเทพนิยายของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอสันขณะเดียวกันท่านจะได้ทราบเรื่องราวอันเป็นที่มาของเงือกน้อยตามเนื้อหาในเทพนิยายรักบันลือโลกปัจจุบันลิตเติ้ลเมอร์เมดมี "น้องสาว" แต่ตั้งแสดงอยู่ที่ Langelinie ในอ่าวโคเปนเฮเกน ไม่ไกลจากที่ตั้งเงือกน้อยตัวเดิม
เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในรูปทรงที่แปลกตา คล้ายกับเป็นธารน้ำตกจำลอง เพื่ออุทิศแก่เทพีนอร์ติกเกฟิออน ต้นตำนานของราชอาณาจักรเดนมาร์ก เป็นรูปปั้นที่สวยงามตระการตา
เป็นจัตุรัสที่งดงามมากที่สุดในยุโรป จัตุรัสด้านหน้าของ พระราชวังอมาเลียนบอร์ก มีพระรูปของ กษัตริย์เดนมาร์กทรงม้า ดูสง่างามมาก บริเวณหน้าพระราชวังจะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวัน เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากในการเดินเล่น ชมเมือง ชมการเปลี่ยนเวรของเหล่าทหาร
เป็นย่านท่าเรือริมฝั่งคลองและย่านความบันเทิงอันเก่าแก่ในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ทอดยาวจาก Kongens Nytorv ไปยังท่าเรือด้านหน้าทางใต้ของโรงละคร Royal Playhouse ตามข้างทางจะเรียงรายไปด้วยทาวน์เฮาส์และบาร์ยุคเก่าสุดคลาสสิกที่มีสีสันสดใส คาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารที่เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชิมบรรยากาศเก่าๆ ของโคเปนเฮเกน
เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในยุโรป ด้วยความยาว 1.8 กิโลเมตร
เป็นเรือสำราญอันโอ่อ่าขนาดใหญ่ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ผับ บาร์ ห้องซาวน์น่า ร้านค้าปลอดภาษี ห้องเล่มเกมส์ เป็นต้น เชิญพักผ่อนเดินเล่นบนเรือ ก่อนขึ้นชมวิวสวยยามเมื่อเรือถอนสมอ และรับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ในเรือ พร้อมพักค้างคืนบนเรือสำราญนี้ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือชมทัศนียภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าเรือ หรือช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีในเรือก็ได้
เป็นเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งสมัยก่อนนั้นเคยเป็นอาณานิคมใหญ่ของชุมชนชาวไวกิ้งโบราณ ปัจจุบันเป็นนครหลวงของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ด (fjord) ที่ชื่อ ออสโลฟยอร์ด ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะ 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmøya นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญของเมือง
เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเมืองเล็กๆแห่งนี้กว่า 450,000 คน เมื่อมาถึงเมืองฟลัมนักท่อง เที่ยวมักไม่พลาดไปล่องเรือชมความสวยงามของ ซอจ์นฟจอร์ด (Sognefjord) ฟยอร์ดที่มีความยาวและลึกที่สุดในโลก มีความยาวถึง 204 กิโลเมตรจากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน
เป็นเส้นทางรถไฟสายโรแมนติกอันสวยงามซึ่งแสดงถึงเทคโนโลยีการก่อสร้างทางรถไฟสายฟลอมส์บานา ที่พิสูจน์ถึงความสามารถและความชำนาญอันสูงส่งของวิศวกรเมื่อ 88 ปีก่อน ทางรถไฟสายนี้ใช้เวลาก่อสร้างเกือบ 20 ปีกว่าจะเปิดเส้นทางเป็นการชั่วคราวสำหรับรถไฟไอน้ำเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี 1940 และสำหรับรถไฟฟ้าในปี 1944 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวชมวิวที่สวยงามมากเส้นหนึ่ของนอร์เวย์
เป็นสายน้ำที่ตกจากความสูง 225 เมตร น้ำตกนี้เกิดจากการละลายของหิมะ ไหลรุนแรงเป็นละอองฟุ้งกระจาย ลงมาจากด้านบนทะเลสาบ Reinungavatnet และทะเลสาบ Seltuftvatnet เกิดกลายเป็นความงดงามที่ตระการตา
นักท่องเที่ยวที่ลงจากรถบัสแล้วมาขึ้นเรือที่ท่ากัดแวนก้น เพื่อดูวิวทิวทัศน์ฟยอร์ด เราลำใหญ่ปานกลางจุผู้โดยสารได้ราว 150 คน เคลื่อนออกจากท่าเรือ “ฟล๊อม” พร้อมด้วยผู้โดยสารประมาณ 50 คน พาออกไปดูฟยอร์ด ซึ่ง“ฟยอร์จ” ก็คือ แอ่งน้ำธรรมชาติเกิดขึ้นจากการละลายของธารน้ำแข็ง และที่เว้าลึกเข้ามาจากทะเล ซอกซอนเข้าไปในแผ่นดินในบริเวณที่มีภูเขาสูงชันขนาบทั้งสองฟากฝั่ง เป็นแอ่งน้ำลึก มีครบทั้งมิติที่กว้างและลึกมาก ขนาบด้วยภูเขาหิมะตั้งตระหง่านสูงชัน และฟล๊อมเป็นหมู่บ้านหนึ่งที่เป็นอ่าวต้นน้ำของฟยอร์จ ที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศนอร์เวย์
ล่องเรือชมซองน์ฟยอร์ด สถานที่อันงดงามที่ได้ชื่อว่า เป็น King of Fjord ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีความยาวถึง 204 กม.จากทะเลเข้ามาในแผ่นดินใหญ่นอร์เวย์
เป็นเมืองหลวงแห่งศิลปวัฒนธรรมและเมืองหลวงเก่าแห่งฟยอร์ดของประเทศนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็น “เมืองมรดกโลก” ประกาศโดยองค์การยูเนสโก ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และเป็นเมืองท่าสำคัญทางชายทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ มีทั้ง เมืองเก่าย่านชาวประมง ท่าเทียบเรือเดินสมุทร และเป็นศูนย์กลางการขุดเจาะน้ำมันของประเทศด้วย
เป็นยอดเขาสูง 320 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่มีจุดชมวิวของเมืองที่สวยมากๆ หากท้องฟ้าสดใส ซึ่งเราสามารถมองเห็นฟยอร์ดและเกาะต่างๆ ไปจนสุดสายตา ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น ข้างบนไม่เหมาะสำหรับคนขี้หนาวเป็นอย่างยิ่ง เพราะลมแรงเกือบตลอดเวลาทำให้อากาศหนาวอยู่แล้วรู้สึกสะท้านขึ้นไปอีก
เป็นรถรางที่เชื่อมต่อพื้นที่เมืองเบอร์เก้นกับยอดเขาฟลอเยน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของประเทศนอร์เวย์ มีความยาวตลอดทางอยู่ที่ 844 เมตร รถรางนี้มีผู้โดยสารใใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคนในแต่ละปี
เป็นเมืองหลวงแห่งศิลปวัฒนธรรมและเมืองหลวงเก่าแห่งฟยอร์ดของประเทศนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็น “เมืองมรดกโลก” ประกาศโดยองค์การยูเนสโก ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และเป็นเมืองท่าสำคัญทางชายทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ มีทั้ง เมืองเก่าย่านชาวประมง ท่าเทียบเรือเดินสมุทร และเป็นศูนย์กลางการขุดเจาะน้ำมันของประเทศด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเขตเฟลสแลนด์ เมืองเบอร์เก้น ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเบอร์เก้นไปทางใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เปิดให้บริการในปี 1955 เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้คนหนาแน่นเป็นอันดับสองในประเทศนอร์เวย์ ดำเนินการโดย Avinor ที่รัฐเป็นเจ้าของ พื้นที่ส่วนหนึ่งของท่าอากาศยานนี้เป็นอาณาบริเวณฐานทัพอากาศของนอร์เวย์ด้วย
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่การ์เดอร์มอน ในเขตยูลเลนแซเกอร์ ประเทศนอร์เวย์ ห่างจากตัวเมืองกรุงออสโลไปทางเหนือประมาณ 48 กิโลเมตร เริ่มเปิดใช้ในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศนอร์เวย์ รวมทั้งเป็นฐานให้บริการของสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ และนอร์เวเจียนแอร์ชัตเทิล และยังเป็นท่าอากาศยานสำคัญของสเตอร์ลิงแอร์ไลน์ และไวเดเรอร์
เป็นพื้นที่อุทยานหนึ่งในออสโล ที่ความพิเศษของที่แห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรมมนุษย์เปลือยในหลากหลายอิริยาบถ โดยผ่านผลงานการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นปราสาทหินยุคกลางซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์ในปี 1299 จนกระทั่งปี 1592 จึงมีการปรับปรุงเป็นป้อมปราการโดยใช้แนวกำแพงและปืนใหญ่เพื่อป้องกันเมืองออสโล หลังจากนั้นป้อมปราการแห่งนี้ถูกทอดทิ้งและมีสภาพแย่ลง ต่อมาจึงมีการเริ่มบูรณะในปี 1899 ปัจจุบันมีการนำเที่ยวชมพื้นที่รอบนอกปราสาทและห้องบางห้องที่มีความสำคัญ
พระราชวังหลวงของกษัตริย์นอร์เวย์ที่สร้างขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นที่ประทับของ King Charles ที่ 3 แห่งนอร์เวย์และสวีเดน โดยปัจจุบันเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์นอร์เวย์
เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล สินค้าของฝากที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ ซึ่งสินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าประเทศนอร์เวย์จะมีสินค้าที่แพง แต่ก็ยังมีช่วงลดราคาสินค้า คือปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่การ์เดอร์มอน ในเขตยูลเลนแซเกอร์ ประเทศนอร์เวย์ ห่างจากตัวเมืองกรุงออสโลไปทางเหนือประมาณ 48 กิโลเมตร เริ่มเปิดใช้ในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศนอร์เวย์ รวมทั้งเป็นฐานให้บริการของสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ และนอร์เวเจียนแอร์ชัตเทิล และยังเป็นท่าอากาศยานสำคัญของสเตอร์ลิงแอร์ไลน์ และไวเดเรอร์
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองอัลต้าและเทศบาลในเขตฟินน์มาร์คของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ในเขต Elvebakken ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองอัลต้าไป 4 กิโลเมตร ดำเนินงานโดย Avinor ที่เป็นหน่วยงานการบินของรัฐ
เป็นพื้นที่หมู่บ้านริมอ่าวที่ตั้งอยู่ในเทศบาลอัลตา ในเขตฟินน์มาร์กของประเทศนอร์เวย์ ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญขงนอร์เวย์ ในฐานะที่เป็นพื้นที่มรดกโลกจากศิลปะบนหิน
เป็นภาพหินแกะสลักที่ว่ากันว่าเป็นลักษณะภาษาเซมิของชาวนอวีเจียoที่ถือว่าเป็นหนึ่งในมรดกโลกยุคก่อนประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ ภาพหินดังกล่าวมีการค้นพบการแกะสลักชิ้นแรกในปี 1973 เนื้อหาภาพแกะสลักแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่สามารถควบคุมฝูงกวางเรนเดียร์ได้อย่างชำนาญ การต่อเรือ ตกปลา และประกอบพิธีกรรม shamanistic ที่เกี่ยวข้องกับการบูชาหมีและสัตว์เคารพบูชาอื่นๆ
เป็นดินแดนที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นแคว้นกว้างใหญ่ซึ่งเป็นบริเวณแห่งทะเลน้ำแข็ง (Arctic Circle) และเป็นดินแดนอันงดงามตามแบบฉบับขั้วโลกเหนือ เมืองฮอนนิงสแวกนี้ในอดีตเป็นเมืองท่าศูนย์กลางการล่าปลาวาฬที่มีชื่อเสียงและเป็นท่าเรือในการขนถ่ายปลาทะเลที่สำคัญของนอร์เวย์ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่มีช่วงเวลาของฤดูหนาวยาวนานที่สุด
เป็นบาร์น้ำแข็งที่แกะสลักจากน้ำแข็งขั้วโลกทั้งโต๊ะ, เก้าอี้ หรือแม้แต่แก้วเครื่องดื่มเอง เปิดประสบการณ์ดีๆ ในการเยือนนอร์เวย์
เป็นสถานที่ที่คนไทยนิยมมาชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนกันมากที่สุด เพราะที่นี่เป็นที่ซึ่งพระบาทเสด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จฯ มาในคราวประพาสยุโรปครั้งที่ 2 โดยพระองค์ได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. ในปี 1907 ไว้เป็นที่ระลึกบนก้อนหินด้วย
นอร์เวย์ได้ชื่อว่าเป็น "ดินแดนอาทิตย์เที่ยงคืน" หรือ The Midnight Sun มาจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะโลกกลมและหมุนรอบแกนของตัวเอง พร้อมโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วย โดยจะเอียงแกนเอาขั้วโลกเหนือ-ใต้ สลับเข้าหาดวงอาทิตย์ชั่วระยะหนึ่งใช้เวลาเท่าๆ กันคือประมาณ 4-6 เดือน ระหว่างที่โลกหันเอาขั้วนั้นเข้าหาดวงอาทิตย์จะเป็นฤดูร้อน สำหรับการจัดเวลากลางวันกลางคืนยังคงไม่สร้างความสับสน เพราะว่าไปตามนาฬิกาเป็นปกติ
เมืองอิวาโล เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวประมงว่ามีแหล่งแม่น้ำที่มีปลาแซลมอนดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ชมความงามของทะเลสาบอินารี แหล่งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวแลปป์ แวะซื้อของที่ระลึกงานฝีมือของชาวแลปป์
เป็นทะเลสาบอันสวยงามแห่งหนึ่งของฟินแลนด์ทางเหนือ ซึ่งภายในทะเลสาบจะเป็นแถบลายสีน้ำเงินสลับเขียวจัด ซึ่งชายฝั่งเว้าแหว่งเป็นปากทางน้ำเข้านับร้อย ทะเลสาบสีน้ำเงินเข้มเรียงรายด้วยเกาะที่มีป่าปกคลุม 3000 เกาะ อยู่ในแถบแลปแลนด์ประเทศฟินแลนด์
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จำลองสภาพความเป็นอยู่ของชาวแลปป์ คนท้องถิ่นพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในแถบขั้วโลกเหนือและในเขตหนาวเย็นของบางประเทศ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดให้มีส่วนที่ครอบคลุมของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแลปแลนด์เช่นเดียวกับความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคอาร์กติก
ชมเมืองหลวงของดินแดนแลปแลนด์ (Finish Lapland) หรือบ้านของซานตาคลอส ลุงซานต้าแสนใจดี
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เหมือนกับเมืองในเทพนิยาย ซึ่งเป็นสถานที่ในจินตนาการของเด็กทั่วโลก สามารถเล่นขี่สโนว์โมบิล หรือเลือกซื้อของที่ระลึกจากหมุ่บ้านได้
เป็นท่าอากาศยานประจำเมืองโรวาเนียมิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ตั้งอยู่ห่างไป 10 กิโลเมตรไปทางเหนือของใจกลางเมือง ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้คนมากเป็นอันดับสามในฟินแลนด์รองจากสนามบิน Helsinki และ Oulu
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ในเขต Vantaa ที่นี่เป็นที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในประเทศฟินแลนด์
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "โบสถ์แห่งความรัก" ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511 และเสร็จวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป และมีความเชื่อว่าหากใครก็ตามมาจุดเทียนอธิฐานเรื่องเกี่ยวกับความรักใน โบสถ์นี้ก็จะสมหวังในสิ่งที่อธิฐานทุกประการ จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่กันเป็นจำนวนมาก เพราะว่ากันว่าคู่รักที่มาจัดพิธีแต่งงานที่โบสถ์แห่งนี้จะครองรักกันยืนยาว จนแก่เฒ่า
เป็นโบสถ์นิกายออร์ธอดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ออกแบบโดย Aleksei Gornostajev สร้างตามสไตล์โบสถ์เก่าแก่ใกล้กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียในศตวรรษที่ 16 หลังคาทรงโดมทองและสร้างด้วยอิฐสีน้ำตาลแดง แสดงถึงความมีอิทธิพลของรัสเซียต่อประวิติศาสตร์ฟินแลนด์ได้เป็นอย่างดี
เป็นจตุรัสใหญ่กลางเมืองเฮลซิงกิ ที่นี่มักจะเป็นสถานที่ใช้จัดเทศกาลหรือกิจกรรมต่างๆ และจุดนี้เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ
ซึ่งในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส เป็นมหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ตั้งเด่นตระหง่านอยู่จนเรียกว่าเป็นจุดแลนด์มาร์กของเฮลซิงก็ว่าได้ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันอย่างเป็นจำนวนมาก มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) สีขาวบริสุทธิ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ใจกลางจัตุรัสโดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทางทิศตะวันออกเป็นทำเนียบรัฐบาล งดงามด้วยเสาหินสไตล์คอรินเทียน และ ทิศตะวันตกเป็นอาคารหลักของมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ซึ่งก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไอออนิกที่ไม่ควรพลาดชม
อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius (1865-1957) ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่แปลกตามากๆ ถูกออกแบบโดย Eila Hiltunen เป็นการสร้างโดยนำเอาแท่งเหล็กจำนวน 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
ที่นี่เป็นพื้นที่ตลาดอันสำคัญของเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นตลาดย่านใจกลางเมืองที่ขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว แหล่งขายอาหารทะเลนานาชนิด ผลไม้ และดอกไม้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญ อาทิ ทำเนียบประธานาธิบดี ศาลากลาง โบสถ์ และอื่นๆ
เป็นเรือสำราญสุดหรูขนาดใหญ่ที่สุดของสแกนดิเนเวีย พักผ่อนสบายๆ กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเรือ อาทิ ไนต์คลับ ห้องอาหาร เกมส์รูม คาสิโน และโรงภาพยนตร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ มากมาย
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน และยังเป็นนครหลวงอันงดงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำ หรือราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก ทะเลสาบมาลาเร็น ทำให้สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เป็นพื้นที่เมืองเก่าที่เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวงและอาคารคลาสสิกมากมายด้วยกลิ่นอายของศตวรรษที่ 17 ทั้งบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงามในรูปแบบงานสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน เช่นเดียวกับเสน่ห์ของตรอกซอกซอยต่างๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟและร้านหนังสือต่างๆ ที่คุณจะเพลิดเพลินในการเที่ยวชม
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเรือรบวาซา เรือที่เป็นตำนานและสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เรือลำนี้มีความสง่างามมากบริเวณดาดฟ้า
เป็นอาคารที่มีความสวยงามสะดุดตา และเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสตอกโฮล์ม ด้วยคุณลักษณะพิเศษของตัวอาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงเกาะที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 1923 ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูเรียบๆ แต่การตกแต่งภายในนั้นไม่ธรรมดา กับศิลปะสมัยใหม่ในแบบอาร์ตนูโว
ห้างสรรพสินค้า NK ได้ชื่อว่าเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ ที่ในแต่ละปีมีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณสิบสองล้านคน ภายในห้างมีทั้งร้านค้าของแบรนด์เนม ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย
เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของสวีเดน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 980 ภายในเมืองจึงมีสิ่งก่อสร้างสมัยโบราณอยู่มาก เป็นเป้าหมายหนึ่งที่คนนิยมมาเที่ยวกัน ปัจจุบันเมืองนี้เป็นแค่เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในเขตปริมณฑลของสตอกโฮล์ม อำเภอที่เมืองนี้ตั้งอยู่ชื่ออำเภอซิกทูนา แต่ว่าเมืองซิกทูนาไม่ใช่เมืองหลักของอำเภอ แต่เป็นเมืองแมร์สตา (Märsta) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่กว่า ประชากรมากกว่า
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน และเป็นท่าอากาศยานหลักสู่ประเทศสวีเดน อยู่ห่างจากกรุงสตอกโฮล์มไปทางเหนือประมาณ 42 กิโลเมตร
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย