เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
เป็นเมืองเล็กๆ ในเขตเทศบาลเมืองของ Schwangau รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน โดยอยู่บริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมันและออสเตรีย
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านชวานเกาใกล้เมืองฟึสเส็นทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนี เป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียประทับเมื่อยังทรงพระเยาว์ ตัวปราสาทสร้างบนซากปราสาทชวานสไตน์เดิมซึ่งกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปราสาทเดิมสร้างโดยครอบครัวของอัศวิน หลังจากการยุบเลิกระบบอัศวินในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ตัวปราสาทก็เสื่อมโทรมลงจนเหลือแต่ซากเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19
เป็นเมืองพักตากอากาศเล็กๆ ในแนวหุบเขาของเยอรมันใต้ มีบ้านเมืองสวยแบบบาวาเรียแท้ ตามผนังของตึกต่างๆ ยังเป็นรูปเขียนเรื่องราวในคริสต์ศาสนาที่น่าชมยิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวและยังเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ลานสเก็ตน้ำแข็ง และลู่แข่งสกีโอลิมปิก
เป็นรถไฟ Cogwheel Train ที่พาขึ้นชมยอดเขาซุกสปิตซ์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน ระหว่างทางจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทาง
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ด้วยความสูง 2,962 เมตร ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ในวันที่อากาศดีสามารถเห็นยอดเขาต่าง ๆ ในเทือกเขาแอลป์ได้ชัดเจน และยอดเขามากกว่า 400 ยอด เห็นวิวได้ถึง 4 ประเทศคือออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลีและเยอรมนี ถือว่าเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งของการเล่นกีฬาฤดูหนาวของเยอรมัน โดยเฉพาะการเล่นสกี
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางยอดเขาอัลไพน์ บริเวณหุบเขาตรงแม่น้ำ Isar ทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ของบาวาเรียประเทศเยอรมนี เป็นที่รู้จักในเรื่องบ้านทาสีที่มีสีสันและประวัติศาสตร์การทำไวโอลินที่โดดเด่นของประเทศซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงประมาณกลางศตวรรษที่ 17
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1930 ตั้งอยู่ในหนึ่งในบ้านที่สวยและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิทเท่นวาลด์ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของไวโอลินในหมู่บ้านซึ่งเป็นภูมิปัญญาของเมืองที่ผลิตขึ้นมากว่าสามร้อยปีที่มีตั้งแต่ไวโอลินระดับเรียบง่ายจนไปถึงเพรดพรีเมี่ยมหายาก
เป็นโบสถ์ประจำเมืองมิทเท่นวาลด์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1734-1749 โดยนักบุญชื่อ Wessobrunn Joseph Schmutzer มีจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส และบริเวณภายนอกโบสถ์หลายจุดถูกทาด้วยสีชมพูอันโดดเด่น
เป็นหนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน อินส์บรูคแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบๆ ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์
เป็นถนนสายหลักของเมืองอินน์สบรูก ที่เชื่อมต่อกันระหว่างเขตเมืองเก่า กับย่านช้อปปิ้งสมัยใหม่ของเมือง
เป็นอาคารสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรูก ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารที่หลังคาของระเบียงถูกประดับด้วยกระเบื้องทองแดงเคลือบทอง
เป็นเมืองรีสอร์ทขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในหุบเขาอันสวยงามของอุทยานแห่งชาติเบิร์ชเทสกาเด้น โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในภูมิภาคเบิร์ชเทสกาเด้นเนอร์แลนด์ ที่ระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ประมาณ 670 เมตร โดยในอดีตเป็นหนึ่งในเส้นทางการค้าที่สำคัญของภูมิภาค
เป็นทะเลสาบในหุบเขา อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย เยอรมนี ใกล้ชายแดนประเทศ ออสเตรีย ทะเลสาบเคอหนิกเซ แปลตรงตัวว่า King's Lake น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ ถือว่าเป็นน้ำทะเลสาบที่ใสที่สุด และสะอาดที่สุดในเยอรมนี
เป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกที่อยู่ในเขตเบิร์ทเทชการ์เดน บริเวณชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลสาบเคอหนิกเซ โบสถ์นี้ถูกตั้งชื่อตาม Saint Bartholomew the Apostle ผู้อุปถัมภ์ชาวอัลไพน์ มีหลังคาโดมสองหัวหอมและหลังคาโดมสีแดง ภายในมีงานปูนปั้นโดยศิลปินโจเซฟชมิดต์
เป็นเหมืองเกลือซึ่งสร้างตั้งแต่ปี 1517 และไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้า เพราะสมัยก่อนนั้นเกลือมีค่าเหมือนกับทองคำเลยก็ว่าได้ ในปัจจุบันที่นี่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันสำคัญที่มีผู้เข้าชมประมาณ 330,000 คนในทุกปี
เป็นภูเขาที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์บาวาเรีย มีความสูงประมาณ 1900 เมตรเหรือระดับน้ำทะเล สามารถเข้าถึงได้ด้วยลิฟต์ ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่กบดานจุดหนึ่งของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในโค้ดเนมว่า Eagle's Nest เมิ่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของออสเตรีย มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ได้ชื่อว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบารอค ดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือเก่ามาแต่โบราณ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำ The sound of Music และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองชายแดนก่อนจะข้ามไปบาวาเรียของเยอรมณี เรียกว่าเป็นระยะทางแค่ปาหินไปถึง
เป็นบ้านเกิดของโมสาร์ทจริงๆ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจได้สัมผัสโลกของศิลปินเอกพร้อมทั้งสัมผัสรูปปั้นโมสาร์ทแบบใกล้ชิด
เป็นถนนการค้าชื่อดังที่สุดของซาลซ์บูร์ก ที่เป็นที่รู้จักด้วยอาคารบ้านเรือนหน้าแคบจากสมัยกลาง รวมถึงบ้านเกิดและพิพิธภัณฑ์โมสาร์ท ซึ่งถนนช้อปปิ้งนี้เป็นย่านการค้าสำคัญของเมืองมาตั้งแต่ยุคกลาง ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว จุดเด่นของร้านค้าบนถนนเส้นนี้คือป้ายเหล็กที่แสดงสัญลักษณ์ของร้านที่แขวนไว้เหนือทางเข้าแต่ละร้านจะมีรูปแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบวูล์ฟกัง โดยตั้งชื่อตามนักบุญ Wolfgang ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 นักบุญที่โดดเด่นในศตวรรษที่ 10 มีบรรยากาศสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสกี ที่นี่จะคลาคล่ำไปด้วยนักสกี นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ได้ทำกัน อาทิ สโนวบอร์ดปีนเขาไอซ์สเกตและไฮไลต์สำคัญคือการเดินชมเมืองสงบที่แสนโรแมนติก เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัว หรือคนรัก
เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย มีโบสถ์ประจำเมือง มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และยังเป็นเมืองมาร์เก็ต ทาวน์ เมืองรีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอีกเมืองของประเทศออสเตรีย
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เป็นเขตชุมชนโบราณของพวกเคลติก ชนพื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรป ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก้
เป็นถนนเลียบทะเลสาบระยะทางประมาณ 300 เมตร อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า และดอกไม้หลากสีสันสวยงาม
เป็นทะเลสาบสุดสวยท่ามกลางหุบเขาอันงดงามของพื้นที่ราบสูงออสเตรีย ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดปี มีจุดที่มีความลึกที่สุดอยู่ที่ 125 เมตร
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหยดน้ำแห่งแคว้นโบฮีเมีย อยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ก ใกล้ชายแดนออสเตรีย มีจุดเด่นคือมีลำธารตัดผ่านเล็กๆ ที่คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว s ทำให้ภูมิทัศน์ตัวเมืองดูเหมือนหยดน้ำที่นี่ ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
เป็นปราสาทที่เป็นแลนมาร์คของเมืองเชสกี้ครุมลอฟ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเช็ก รองจากปราสาทปราก ที่นี่มีหอคอยทรงกลมไว้สำหรับชมวิว มีอายุมากกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของชนชั้นสูง จนปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองไป
เป็นจัตุรัสที่แวดล้อมด้วยสถาปัตยกรรมบารอค กอธิค และรอคโคโคที่อลังการ จัตุรัสเมืองเก่าเป็นอีกย่านที่น่านั่งชิลล์พักผ่อน มีคาเฟ่หลายร้านให้เลือก
เป็นศาลาว่าการเมืองหลังเก่าที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ของปราสาทแห่งกรุงปรากตรงบริเวณจัตุรัสเมืองเก่า มีลักษณะเป็นอาคารสูงที่มีหอนาฬิกาอยู่ด้านบน
เมืองใหญ่ที่สุดในเขตโบฮีเมียใต้นี้เป็นแหล่งกำเนิดเบียร์ Budweiser ขึ้นชื่อในเรื่องของโรงเบียร์ สถาปัตยกรรมยุคกลาง และพิพิธภัณฑ์ จัตุรัสที่มีสถาปัตยกรรมน่าทึ่ง โรงงานเบียร์ พิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่ริมทางต่างรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ในเชสเกบุดเยยอวีตเซ คือเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้น Jihočeský kraj และเป็นเมืองศูนย์กลางการเมืองการปกครอง รวมทั้งการค้าทางภาคใต้ทั้งหมด เบียร์ดังอย่าง Budweiser ก็มีต้นกำเนิดที่เมืองนี้
เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็นชื่อเขตการปกครองในออสเตรียด้วย เวียนนาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง
เป็นหนึ่งในน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ฐานประกอบด้วยแผนอ่างเก็บน้ำหินบาร็อค เส้นผ่านศูนย์กลาง 17 เมตร ฐานปริซึมที่มีการ์กอยล์สี่ตัวพร้อมรูปปั้นแซมซั่นอยู่บนสิงโต
เป็นเอาท์เลตภายใต้ยี่ห้อ MacArthurGlen Group ซึ่งเริ่มในอเมริกาเหนือ ถนัดเรื่องการเปิดเอาท์เลตซึ่งขยายมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2546 ภายในเอาท์เลตแห่งนี้จะมีร้านสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ นับร้อยแบรนด์ที่ขายในราคาพิเศษ
เป็นถนนวงแหวนรอบกรุงเวียนนา ที่รายล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จัดวางได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พระราชวังฮอฟบรูก์ กลุ่มอาคารพระราชวังของจักรพรรดิ อิมพิเรียลอพาร์ตเมนท์ หอศิลป์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติ
เป็นโรงละครโอเปร่าที่สร้างขึ้นในระหว่างปี 1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี 1955
เป็นประติมากรรมน้ำพุหน้าอาคารรัฐสภาออสเตรีย น้ำพุนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Baron Theophil Hansen มีจุดเด่นคือรูปปั้นของ Pallas Athene ที่มีความสูง 5,5 เมตร ซึ่งตั้งเด่นอยู่กลางน้ำพุ เสริมด้วยรูปปั้นเทพและเทวดาอื่นๆอีกมากมายหลายองค์
เป็นสถานที่ทำการรัฐบาลของออสเตรีย ตั้งอยู่บนถนนริงสราเช่ส์ในย่าน Innere Stadt ใกล้กับพระราชวังฮอฟเบิร์ก อาคารนี้สร้างเสร็จในปี 1883 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13,500 ตารางเมตร ทำให้เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเวียนนา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของรัฐ โดยเฉพาะพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีแห่งออสเตรียและสุนทรพจน์ของรัฐในวันชาติทุกวันที่ 26 ตุลาคม
เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บนลาดเชิงเขา สร้างขึ้นตามศิลปะบาร็อก เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย ผู้นำกองทัพแห่งราชวงศ์แฮบส์บวร์ก ที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพเขียนออสเตรียนแกลเลอรี (Austrian Gallery) ซึ่งถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ภาพเขียนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของกรุงเวียนนา ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐ เป็นตำหนักที่เคยใช้เป็นสถานที่พักของราชวงศ์ต่างๆ มาก่อนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ.1300 และยังเป็นที่พักของผู้มีอิทธิพลต่างๆ มากมายในออสเตรียมาก่อน
เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเวียนนา ซึ่งมีชื่อที่นิยมเรียกกัน Stephansdom เป็นภาษาเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์หลายๆอย่างเกิดขึ้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตรงกลางเป็นโดมที่สวยงามขนาบด้วยหอระฆังที่มีความใหญ่โตทั้งสองด้าน โดยหอระฆังด้านหนึ่งบรรจุระฆังขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการี สามารถชมวิวของเมืองบูดาเปสต์ได้แบบโดยรอบ
เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของมหานครเวียนนา ถูกสร้างขึ้นให้หรูหราเทียบเท่ากับพระราชวังแวร์ซาย มีห้องมากกว่าถึง 1,400 ห้อง ความโดดเด่น ก็คือ สถาปัตยกรรมแบบร๊อกโคโค่ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองอร่าม “เหลืองเทเรซ่า”แม้จะได้ชื่อว่าเลียนแบบมาจากฝรั่งเศส แต่ความอลังการก็สามารถสร้างความตื่นตาให้กับผู้เข้าชม จนได้รับการประกาศจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกในปี1996
เป็นท่าอากาศยานหลักของกรุงเวียนนนา เมืองหลวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเขตเวทชาท โดยอยู่ประมาณ 18 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยบริหารจุดหมายปลายทางการบินในแถบยุโรป รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลสู่เอเชีย อเมริกาเหนือ และแอฟริกา
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย