เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของกรุงเวียนนนา เมืองหลวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเขตเวทชาท โดยอยู่ประมาณ 18 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยบริหารจุดหมายปลายทางการบินในแถบยุโรป รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลสู่เอเชีย อเมริกาเหนือ และแอฟริกา
เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของมหานครเวียนนา ถูกสร้างขึ้นให้หรูหราเทียบเท่ากับพระราชวังแวร์ซาย มีห้องมากกว่าถึง 1,400 ห้อง ความโดดเด่น ก็คือ สถาปัตยกรรมแบบร๊อกโคโค่ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองอร่าม “เหลืองเทเรซ่า”แม้จะได้ชื่อว่าเลียนแบบมาจากฝรั่งเศส แต่ความอลังการก็สามารถสร้างความตื่นตาให้กับผู้เข้าชม จนได้รับการประกาศจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกในปี1996
เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็นชื่อเขตการปกครองในออสเตรียด้วย เวียนนาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง
เป็นถนนวงแหวนรอบกรุงเวียนนา ที่รายล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จัดวางได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พระราชวังฮอฟบรูก์ กลุ่มอาคารพระราชวังของจักรพรรดิ อิมพิเรียลอพาร์ตเมนท์ หอศิลป์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติ
เป็นสถานที่ทำการรัฐบาลของออสเตรีย ตั้งอยู่บนถนนริงสราเช่ส์ในย่าน Innere Stadt ใกล้กับพระราชวังฮอฟเบิร์ก อาคารนี้สร้างเสร็จในปี 1883 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13,500 ตารางเมตร ทำให้เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเวียนนา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของรัฐ โดยเฉพาะพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีแห่งออสเตรียและสุนทรพจน์ของรัฐในวันชาติทุกวันที่ 26 ตุลาคม
เป็นโรงละครโอเปร่าที่สร้างขึ้นในระหว่างปี 1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี 1955
เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บนลาดเชิงเขา สร้างขึ้นตามศิลปะบาร็อก เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย ผู้นำกองทัพแห่งราชวงศ์แฮบส์บวร์ก ที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพเขียนออสเตรียนแกลเลอรี (Austrian Gallery) ซึ่งถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ภาพเขียนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวีเนียร์ มีพื้นที่ 168.8 ตร.กม. พลเมืองเมื่อปี 2014 อยู่ที่ 277,554 คนจุดท่องเที่ยวในเมืองนี้ได้แก่ ปราสาทลุบเบลียน่า Ljubljana Castle, สะพานมังกร Dragon Bridge, จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน Preseren Square ที่เราจะแวะเยี่ยมชมนอกจากนี้ยังมี จัตุรัสสามสะพาน Triple Bridges Square มหาวิหารลุบเบลียน่า Ljubljana Cathedral และ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ National Museum
เป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียว กับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรม เพราะใจกลางจัตุรัสเป็นรูปหล่อของ ฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลวาเนีย
ฟรานซ์ เพรเซเรนเป็นกวีที่มีชื่อเสียงของสโลวีเนีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ
สะพานมังกร (Dragon Bridge) ซึ่งสร้างในปี 1901 เป็นสะพานแห่งแรก ๆ ที่ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ของยุโรป ที่หัวสะพานทั้งสองฝั่งมีรูปมังกรในแบบอาร์ตนูโวอยู่ฝั่งละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว เป็นเรื่องความผูกพันของชาวสโลเวเนียที่เชื่อกันว่าเจสันได้ขโมยขนแกะทองคำมา และได้เดินทางผ่านมายังลูบลีอานาและได้ปะทะกับมังกรแห่งลูบลีอานา ดังนั้น มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์อีกชิ้นที่ประดับอยู่บนตราประจำเมือง
เป็นเมืองที่รู้จักกันในเรื่องของวานิลลาและครีม หรือที่เรียกกันว่า kremna rezina หรือ kremšnita อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันแสนโรแมนติก จนได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นเมืองที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของสโลวีเนียก็ว่าได้
ล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเบลด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีเกาะอยู่ใจกลาง ห้อมล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบนี้เกิดขึ้นมาจากการขยับเขยื้อนของธรรมชาติกลายเป็นแอ่งและก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ละลายมา
แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองเบลด และยังเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสโลวีเนีย โดยปราสาทแห่งนี้ถือว่า เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในสโลเวเนีย
เมืองคอร์ติน่า ดิ แอมเปซโซ (Cortina D’ Ampezzo) หัวใจของเขตโดโลไมท์ แห่งแอลป์อิตาลี ตั้งอยู่เชิงเขาโดโลไมท์ บนเส้นทางงดงามด้วยภูมิประเทศ ป่าสน ทะเลสาบแสนสวย หุบเขากว้าง กระท่อมไม้ชาเลย์ ภูเขาหิมะ ยอดเขาหินปูน ยอดเขาที่ไร้หิมะ แต่รูปทรงแปลกตา
เป็นอุทยานที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เมื่อปี 2009 มีลักษณะภูมิประเทศเป็นหน้าผาสูง สลับกับหุบเหวลึก โดยภูมิประเทศของเทือกเขาโดโลไมท์เคยเป็นแนวปะการังมาก่อนเมื่อ 500 ล้านปีที่แล้ว ตัวเทือกเขานั้นเป็นเทือกเขาหินปูนเป็นแนวต่อๆ กันกินพื้นที่กว้างใหญ่จนเกิดหุบเขาสีเขียวและทะเลสาบมากมายโดยในฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมยอดเห็นเป็นสีขาวโพลนไปหมด
ทะเลสาบลาโก ดิ มิซูลิน่า (Lake Misurina) ทะเลสาบแสนสวยทีหลบซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ถือเป็นเขตสำคัญอีกเขตหนึ่งของ “โดโลไมท์” ที่งดงามเหมาะแก่การเก็บภาพและเยี่ยมชม
นั่งกระเช้า ขึ้นสู่บนเนินเขาที่เราเรียกว่า “อัลเป ดิ ซุยซี” (ALPE DI SIUSI) ชมวิวทิวทัศน์บนภูเขา ที่ได้ชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันน่าประหลาดตาของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขาแลงโกเฟวเป็นภาพประกอบ นำท่านนั่งกระเช้ากลับสู่ด้านล่าง
เป็นหนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน อินส์บรูคแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบๆ ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์
เป็นอาคารสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรูก ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารที่หลังคาของระเบียงถูกประดับด้วยกระเบื้องทองแดงเคลือบทอง
เป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของกรุงเวียนนา ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐ เป็นตำหนักที่เคยใช้เป็นสถานที่พักของราชวงศ์ต่างๆ มาก่อนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ.1300 และยังเป็นที่พักของผู้มีอิทธิพลต่างๆ มากมายในออสเตรียมาก่อน
เป็นสวนสาธารณะที่ให้ความร่วมรื่น อยู่ตรงข้ามพระราชวังฮอฟบูรก์ ที่มีเอกลักษณ์ที่ยอดโดม สีเขียวอันสง่างาม เดิมเป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิ สร้างขึ้นครั้งแรกปีคศ1460 และใช้เป็นพระราชวังที่แปรพระราชฐานในช่วงฤดูหนาว มีอาคารเรอเนสซองส์ที่ยิ่งใหญ่ สร้างในคศ1563ตามพระประสงค์ของจักรพรรดิแมกซิมิเลี่ยนที่1
เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเบียร์เยอรมัน ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมนี เป็นจุดเริ่มต้นและจุดศูนย์กลางของการเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆในยุโรป
ที่นี่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของการนัดพบในนครมิวนิค มีศาลาว่าการของเมืองแห่งใหม่ เป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ Mariensaule รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเขาสูงศาลาว่าการเมืองใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ หอระฆัง Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ
ตั้งอยู่ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี นึมเฟนบูร์กเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระราชวงศ์ผู้ปกครองรัฐบาวาเรีย ผู้ริเริ่มสร้างปราสาทคือเฟอร์ดินานด์ มาเรีย เจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งบาวาเรีย และ เจ้าหญิงเฮนเรียตตา อเดลเลดแห่งซาวอย ตามแบบของสถาปนิกอากอสติโน บาเรลลิในปี ค.ศ. 1664 หลังจากมีพระโอรสองค์แรก ส่วนกลางของวังสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1675
ถนนแมกซิมิเลียน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ และเป็นที่ตั้งร้านขายของแบรนด์เนมราคาแพง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย