เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองเสิ่นหยางซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหลียวหนิง ตั้งอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตรไปทางใต้ของใจกลางเมือง ท่าอากาศยานนี้เป็นฐานปฏิบัติการหลักของสายการบิน China Southern Airlines
เป็นเมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง มีซื่อเดิมเป็นภาษาแมนจูว่า “มุกเดน” เมืองที่ในอดีตเคยอยู่ใต้การปกครองของรัสเซียจนถึงปี 1931 จึงตกเป็นของญี่ปุ่น และกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของรัสเซียอีกครั้งในปี 1945
พระราชวังโบราณเสิ่นหยางกู้กง โบราณสถานจากสมัยต้นราชวงศ์ชิง ที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีและมีลักษณะคล้ายคลึงกันมากกับพระราชวังหลวงที่กรุงปักกิ่งแต่มีขนาดเล็กกว่า
ถนนโบราณหม่านชิง หรือ ถนนแมนจู ที่มีบรรยากาศแบบโบราณเหมือนนำท่านกลับสู่อดีตเมื่อสามร้อยกว่าปีที่แล้ว
เป็นถนนคนเดินในเมืองเสิ่นหยาง ให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกหาสิ่งของที่ถูกอกถูกใจฝากญาติสนิทมิตรสหายของท่าน
เมืองฉางชุน เมืองฤดูใบไม้ผลิแห่งเขตเหนือของจีน แต่เดิมฉางชุนเป็นศูนย์กลางอำนาจของเผ่าแมนจู เมื่อญี่ปุ่นเข้ายึดครองเขตแมนจูเรียในช่วงปี 1938-1945 ได้สถาปนาเป็นรัฐแมนจูกัว และได้ประกาศตั้งฉางชุนเป็นเมืองหลวงหลังญี่ปุ่นสิ้นอำนาจ
วังปูยี หรือ พระราชวังจอมปลอม ซึ่งเป็นที่ประทับของจักรพรรดิปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิงหรือกษัตริย์องค์สุดท้ายของแผ่นดิน นอกจากนี้ให้ท่านชมห้องหับต่างๆที่ปูยีเคยใช้นอน , นั่งสูบบุหรี่ , อ่านหนังสือ และใช้ความคิดตามลำพัง มีรูปภาพและจดหมายให้เห็นภาพในช่วงนั้น และจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงชีวิตความเป็นอยู่ในวัง นอกจากนั้น ท่านยังสามารถชม กระทรวงทั้งแปดของแมนจู (ชมภายนอก) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฉางชุน บนถนนซินหมิน ได้อีกด้วย
ตึกกระทรวงทั้งแปดของแมนจู ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฉางชุน บนถนนซินหมิน สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1936 ประกอบด้วยกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงเกษตร, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ตึกกระทรวงทั้งแปดนี้มีการสร้างและตกแต่งสไตล์จีนผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งมีความลงตัวที่สวยงาม...
เป็นจัตุรัสวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฉางชุน มีกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตร กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1936 สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองหมั่นโจว
ฮาร์บิ้นเป็นเมืองหลวงของมณฑลเฮยหลงเจียง มีช่วงฤดูหนาวมากกว่าฤดูร้อนและเลื่องชื่อในฐานะเป็นเมืองน้ำแข็งของประเทศ ฮาร์บินมีสมญานามว่า 'ไข่มุกบนคอหงส์' เนื่องจากสัญฐานของมณฑลเหยหลงเจียงมีลักษณะคล้ายหงส์ ส่วนสมญานามอื่นๆ คือ 'มอสโคว์แห่งตะวันออก' หรือ 'ปารีสแห่งตะวันออก' เนื่องจากลักษณะสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนในเมืองคล้ายกับในมอสโกหรือปารีส และฮาร์บินยังเป็นที่รู้จักในชื่อ 'เมืองแห่งน้ำแข็ง' เพราะมีฤดูหนาวที่ยาวนานและหนาวเย็นมาก
เป็นนิทรรศการและศิลปกรรมแกะสลักหิมะประจำปีของฮาร์บิ้น ซึ่งที่นี่ถือเป็นสถานที่จัดแสดงการแกะสลักหิมะน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนที่โด่งดังไปทั่วโลก ภายในการแกะสลักน้ำแข็งกำแพงเมืองจีน สวนหิมะ และอีกหลากหลายแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน ท่านสามารถถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เหมือนกับท่านได้อยู่ในนิทรรศการแกะสลักหิมะน้ำแข็งอย่างแท้จริง
สวนสตาลินแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซงฮัวในฮาร์บิ้น โดยสวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1953 ซึ่งมีรูปแบบที่รับอิทธิพลจากศิลปกรรมของทวีปยุโรป แต่มีความสมบูรณ์แบบกว่าและมีเอกลักษณ์ที่ห้าวหาญ
อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ ณ บริเวณชายฝั่งแม่น้ำซงฮัว เป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงความพยายามของชาวเมืองฮาร์บินที่พยายามต่อสู้กับอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 1957 ตัวอนุสาวรีย์มีลักษณะเป็นเสาทรงกลมแบบโรมัน สูง 13 เมตร บนยอดเสาเป็นรูปแกะสลักกลุ่มกรรมกรชาวนา ทหาร ข้าราชการ และนักศึกษาที่ร่วมใจร่วมแรงกันในการต่อสู้กับอุทกภัยดังกล่าว
เป็นถนนคนเดินแห่งเมืองฮาร์บิ้น ปูพื้นด้วยหินสีเขียวอ่อนทั้งสาย เป็นถนนย่านธุรกิจและการค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองฮาร์บิ้น ทอดตัวอยู่ในเขตเต้าหลี่ เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตามสองข้างทาง ของถนนสายนี้ มีสิ่งก่อสร้างสไตล์ ต่างประเทศ ปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันจะเห็นผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ไม่ขาดสาย
โรงงานเบียร์ฮาร์บิ้น สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1900 มีประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีแล้ว ปัจจุบันผลิตเบียร์มากกว่า 3 แสนตันต่อปี ปริมาณการดื่มเบียร์โดยเฉลี่ยของชาวฮาร์บินจัดอยู่อันดับที่หนึ่งของจีน
โบสถ์เซ็นโซเฟียฮาร์บิน เป็น 1 ในโบสถ์คริสต์ที่แสดงถึงวัฒนธรรมรัสเซียที่ได้เข้ามามีอิทธพลในฮาร์บิ้น โบสถ์โซเฟียเป็นโบสถ์นิกายออร์โธด็อกซ์ที่สร้างขึ้นในปี 1907 โดยเป็นโบสถ์ออร์โธด็อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออก
ที่นี่ถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีนตะวันออก ปัจจุบันได้มีการวางกระจกไว้ริมทางเดินทั้งสองข้าง ให้ความรู้สึกราวกับการเดินสะพานแก้ว เมื่อมองทะลุกระจกลงไปจะเห็นกระแสน้ำของแม่น้ำซงฮัวเจียงเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน
เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง เดิมคือป้อมปราการ เรียกว่า ฉวงฉ่าง
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อันเงียบสงบที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองจี๋หลิน เป็นสถานที่พักผ่อนที่สำคัญของเมือง สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1927 และได้รับการปรับปรุงเรื่อยมา บริเวณเชิงเขามีทะเลสาบเล็กๆ ส่วนภายในสวนมีศาลา สะพานทางเดิน และระเบียงที่ออกแบบมาอย่างดีและกระจัดกระจายไปตามเนินเขา ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของสวนสาธารณะเป็นสุสานสำหรับผู้เสียชีวิตในช่วงยุคพพรคคอมมิวนิสต์เรืองอำนาจ
พิพิธภัณฑ์แมนจู สร้างขึ้นในปี 1932 มีพื้นที่ 865 ตารางเมตร ภายในมีจัดแสดงสิ่งของวัตถุโบราณเกี่ยวกับของใช้ในชีวิตประจำวัน, อาวุธ, เครื่องมือเกษตรกรรมของชาวแมนจู และยังมีห้องที่จัดแสดงวิธีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ, เทพเจ้าของชาวแมนจูอีกด้วย
เป็นเมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง มีซื่อเดิมเป็นภาษาแมนจูว่า “มุกเดน” เมืองที่ในอดีตเคยอยู่ใต้การปกครองของรัสเซียจนถึงปี 1931 จึงตกเป็นของญี่ปุ่น และกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของรัสเซียอีกครั้งในปี 1945
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองเสิ่นหยางซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหลียวหนิง ตั้งอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตรไปทางใต้ของใจกลางเมือง ท่าอากาศยานนี้เป็นฐานปฏิบัติการหลักของสายการบิน China Southern Airlines
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี