เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สำคัญทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลวงของแคว้นลิกูเรีย และบริเวณเมืองมีความหนาแน่นประชากรราว 900,000 คน นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Superba อันเนื่องมาจากความรุ่งเรืองในอดีต
เป็นพิพิธภัณฑ์ทางการเดินทางทะเล การเข้าเข้าพิพิธภัณฑ์ + ดูด้านในเรือดำน้ำ ผู้ใหญ่คนละ 16 ยูโร ตั๋วมีหลายแบบให้เลือก ดูราคาตั๋วได้ที่นี่ ด้านนอกอาคารออกแนวโมเดิล ข้างในชั้นแรกก็จะเป็นประวัติของที่นี่ มีเสื้อเกาะและหมวก ปืนใหญ่ สถานที่ใหญ่พอควร เค้าจะทำลูกศรให้เดิน เพื่อจะได้ดูทั่วๆ ไม่วกไปวนมา ห้องนี้จะเป็นเรือจำลองชนิดต่างๆ และก็แผนที่เก่า ทำดีมากเลย คนสมัยก่อนเค้าเจ๋งจริง เห็นแล้วแอบทึงในความสามารถคนอิตาเลี่ยนสมัยโบราณ
พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเจนัว จุดประสงค์ของการสร้างนั้นมีเป้าหมายที่แยบยลคือให้เป็นศูนย์กลางทางการเมืองที่ไม่อิงกับ ‘ผู้ทรงอำนาจทางการรบ’ หรืออีกนัยหนึ่งคือ โป๊ป ที่มีอำนาจสูงส่งในทางปกครองและเก็บภาษี พ่วงเกินมาจากเรื่องศาสนา Palazzo San Giorgio จึงเป็นเครื่องหมายแบ่งแยกและคะคานกับ Cattedrale di San Lorenzo อันเป็นมหาวิหารแห่งเจโนว่า ที่ Pope Gelasuis II เป็นผู้ประกอบพิธีเปิดเมื่อร้อยปีก่อนหน้า
เป็นประตูสู่เมืองฝั่งตะวันออกของเจนัวที่จะพาท่านไปสู่บ้านของโคลัมบัส เจนนิวาในอดีตมีความรุ่งเรืองถึงขีดสุด จนคราวตกต่ำที่สลับสับเปลี่ยนในช่วงเวลาผันผวน ทำให้มีหลายอย่างเกิดขึ้นที่ Genova และทิ้งร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์ ย้อนกลับไปช่วงสองร้อยกว่าปีหลังการเป็นรัฐอิสระ Genova เจริญรุดหน้าด้านการค้า นำมาซึ่งความมั่งคั่งและความก้าวหน้าทางศิลปะและวิทยาการ ที่ปรากฏเป็นเครื่องสะท้อนความวิไลและให้เห็นภาพการเมืองและการปกครองสมัยนั้น
เป็นพระราชวังสไตล์เวนิสโกธิค เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 แต่เกิดเพลิงไหม้และได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมในระหว่างศตวรรษที่ 14 และ 15 ภายในพระราชวังงดงามด้วยการประดับทองคำและภาพจิตรกรรมมากมายโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นพระราชวังขนาดไม่ใหญ่ที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 มีความสวยงามและมีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งในสไตล์ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาตามแบบฉบับของเหล่าขุนนางเจนัว เนื่องจากที่นี่เป็นที่พำนักของเหล่าขุนนางและที่รองรับคณะทูตและคนชั้นสูงจากแคว้นอื่นๆ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
เมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดของเจนัว ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น สวรรค์แห่งเมืองท่า สำหรับนักท่องเที่ยวก็ว่าได้ เมืองปอร์โตฟิโน เป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนน่ารัก ภายในตัวเมืองประกอบไปด้วยด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ซึ่งตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มี เรือยอร์ช จอดเต็มไปหมด
ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเจนัว หนึ่งในเขตดินแดนแห่งลิกูเรียขนาบข้างด้วยทะเลกับภูเขาลิกูเรีย เป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงมานานในเรื่องของอากาศที่เย็นสบายจลอดทั้งปี มีชายหาดที่สวยงาม
เป็นแคว้นหนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี มีอาณาเขตส่วนใหญ่ติดต่อกับทะเล ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นแคว้นที่มีพื้นที่น้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 3 มีเมืองหลวงชื่อ เจนัว แคว้นลิกูเรียเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะมีชายหาดที่สวยงาม เมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามและอาหารที่อร่อย
เป็นหมู่บ้านมรดกโลกห้าเเห่ง มีอายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงและน่าสนใจในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัย และเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ชอบการชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของตึกรามบ้านช่องที่ถูกฉาบไว้ด้วยสีสันสะดุดตา
มอนเตรอสโซ เป็นชุมชนแรกที่ก่อตั้งขึ้นในบรรดา 5 หมู่บ้าน และเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และขึ้นชื่อที่สุด เนื่องจากเป็นเพียงหมู่บ้านเดียวที่มีชายหาดให้นักท่องเที่ยวลงไปนั่งเล่นพักผ่อนได้จริง แน่นอนว่าจะคึกคักมากในช่วงหน้าร้อน มอนเตรอสโซแบ่งหมู่บ้านออกเป็น 2 ด้าน หากนับจากสถานีรถไฟ ด้านทิศเหนือเป็นส่วนของบ้านตากอากาศ ร้านรวงเสียส่วนใหญ่ ส่วนทิศใต้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน
เวอร์นาสซา เป็นหมู่บ้านที่ก่อตั้งขึ้นมาพร้อมๆ กับมอนเตรอสโซ เป็นหมู่บ้านที่คงเหลือความเป็นหมู่บ้านชาวประมงสูงสุดในบรรดาทั้ง 5 หมู่บ้าน ว่ากันว่าที่หมู่บ้านนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด และถ้าเดินออกไปทางอ่าว มองย้อนกลับเข้ามาทางด้านซ้ายจะได้เห็นโบสถ์ซานต้ามาร์เกห์ริต้า ซึ่งเป็นหอคอยสีเหลืองรับกับวิวของภูเขาด้านหลังที่เป็นไร่องุ่นสำหรับทำไวน์ พร้อมกับวิวของหมู่บ้านตรงกลาง และเรือประมงที่จอดอยู่ในอ่าวเป็นภาพที่เรียกได้ว่าดังที่สุดของชิงเคว เตเร่
ขอบอกเมืองนี้อยู่บนเขา จะเที่ยวเมืองนี้ต้องเดินขึ้น 375 ขั้น เมืองบนเขาใครพักที่นี่น่ะเดินทางขึ้นชัน มีความเด่นไร่องุ่น
อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338
เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์
เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา (Emilia-Romagna) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 20 แคว้นและเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของประเทศอิตาลี มีทั้งมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีชื่อเสียงที่เกิดและเคยอาศัยอยู่ที่นี่ เช่น เอ็นโซเฟอร์รารี และลูเซียโนปาวารอตติ
พิพิธภัณฑ์ MEF แห่งนี้เป็นที่จัดแสดงยนตรกรรมที่มีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Ferrari ส่วนใหญ่เป็นรถสปอร์ตที่ Enzo Ferrari ออกแบบและผลิตขึ้นมาตลอดช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ พร้อมกับมีวีดีโอบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ม้าลำพองอย่างละเอียดทุกแง่มุม
เป็นเมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลสาบกราด้าซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี บริเวณรอบๆ ทะเลสาบจะมีบ้านพักต่างอากาศของเศรษฐีชาวอิตาเลี่ยนอยู่เป็นจำนวนมาก ในเมืองล้วนถูกล้อมรอบด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามดัดแปลงมาเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ ร้าน ไอศกรีม และโรงแรมขนาดเล็กต่างก็แต่งแต้มสีสันได้สวยงามกลมกลืน เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือนเมืองแห่งนี้
เป็นอุทยานที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เมื่อปี 2009 มีลักษณะภูมิประเทศเป็นหน้าผาสูง สลับกับหุบเหวลึก โดยภูมิประเทศของเทือกเขาโดโลไมท์เคยเป็นแนวปะการังมาก่อนเมื่อ 500 ล้านปีที่แล้ว ตัวเทือกเขานั้นเป็นเทือกเขาหินปูนเป็นแนวต่อๆ กันกินพื้นที่กว้างใหญ่จนเกิดหุบเขาสีเขียวและทะเลสาบมากมายโดยในฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมยอดเห็นเป็นสีขาวโพลนไปหมด
เป็นทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,496 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์
ทะเลสาบลาโก ดิ มิซูลิน่า (Lake Misurina) ทะเลสาบแสนสวยทีหลบซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ถือเป็นเขตสำคัญอีกเขตหนึ่งของ “โดโลไมท์” ที่งดงามเหมาะแก่การเก็บภาพและเยี่ยมชม
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่แทรกตัวอยุ่ในหุบเขาส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Puez-Odle โดยมีชื่อเสียงจากทิวทัศน์หุบเขาซึ่งได้ชื่อว่างดงามที่สุดในแคว้นทิโรลใต้ มีจุดชมวิวที่มองเห็น Odle Group หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Geisler Group ซึ่งเป็นกลุ่มยอดเขาแหลมเหมือนฟันฉลาม
เบลลาจิโอคือเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลสาบโคโม่ (The Pearl of Lake Como) ซึ่งเป็นเมืองที่มีถนนกรวดคดเคี้ยวไปมาพาดผ่านบ้านเรือนแสนสวย สวนอิตาเลียนดั้งเดิม จตุรัสคึกคัก และชุมชนชาวประมงแบบดั้งเดิม ทางตอนเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ อันเปรียบเสมือนป้อมปราการทางธรรมชาติ ที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนแห่งนี้
ล่องเรือทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโคโม่ ในแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศอิตาลีตรงบริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ มีพื้นที่ทั้งหมด 146 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม และเป็นอีกทะเลสาบท่องเที่ยวที่สวยงามของอิตาลี
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆ ดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าแบบอาคารกระจกเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย มมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองจากที่นี่ก็ได้
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย