เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศบรูไน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการบิน Royal Brunei Airlines เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1953 และรันเวย์นั้นสร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานทัลลามารีน ตั้งอยู่ที่เมืองทัลลามารีน ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นท่าอากาศยานหลักอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นรองจากท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ และยังเป็นฐานบริการของควอนตัส และสายการบินลูกอย่างเจ็ตสตาร์แอร์เวย์ รวมถึงไทเกอร์แอร์เวย์ออสเตรเลียซึ่งจะเริ่มเปิดฐานบริการที่เมลเบิร์นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550
เป็นถนนที่ตัดเลียบชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น ชายฝั่งดังกล่าวโดยส่วนใหญ่จะเป็นหน้าผา กระแสลม และคลื่นที่ซัดซ่าอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นตัวกัดเซาะหน้าผาให้แตกและบางครั้งก็ถล่มคลื่นลมกัดเซาะเป็นเวลานับล้านๆ ปี จนปัจจุบันแผ่นดินบางส่วนกลายเป็นเกาะหินโดดเด่นอยู่กลางทะเล มีรูปทรงแปลกๆ ที่ดูสวยงามและดูน่ากลัว
อะพอลโลเบย์ เป็นอีกเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่สวยงามอีกเมืองและมีน้ำทะเลสีน้ำเงินตัดกับป่าอันเขียวขจีทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์สวยงาม
เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงทางด้านทัศนียภาพทางชายฝังที่สวยงาม ที่มีความยาวกว่า 32 กิโลเมตร นอกจากนี้ในเขตอุทยานแห่งชาติพอร์ตแคมป์เบลล์ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของหน้าผาหินปูนขรุขระสูงชัน ที่ถูกคลื่นซัดเป็นระยะเวลายาวนานหลายพันปี ทำให้เกิดการสึกกร่อนจนเกิดเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติอันสวยงาม
เป็นแท่งหินปูนที่ถูกธรรมชาติสลักให้มีรูปทรงแปลกๆ แตกต่างกันไปอย่างน่าอัศจรรย์ เรียงรายกระจายอยู่บริเวณชายหาด มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวเดินชมและถ่ายรูปกันแบบจุใจและใกล้ชิด
ขบวนรถจักรไอน้ำโบราณตามแบบฉบับชาวออสซี่ เจ้าพัฟฟิ่ง บิลลี่ นี้เป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำรุ่นเก่าที่เลิกใช้นานแล้ว ทางรัฐก็เลยเอามาเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคนั่งรถไฟโบราณซึ่งจะได้นั่งบนรางรถไฟแบบเก่าไปด้วย ซึ่งแต่เดิมเคยใช้เป็นเส้นทางในการขนถ่ายลำเลียงถ่านหินระหว่างเมือง และปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงนำมาใช้ในงานการท่องเที่ยว นำท่านนั่ง รถไฟจักรไอน้ำโบราณ เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามตามแนวเขาตลอดเส้นทางวิ่งของรถไฟ
ที่นี่เป็นสวนสัตว์ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย บริหารงานโดยครอบครัวตระกูล Maru ตั้งอยู่บน Bass Highway ใน Grantville อยู่ห่างจากเมลเบิร์นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 120 กิโลเมตร ภายในมีสัตว์พื้นเมืองนานาชนิด อาทิเช่น โคอาล่า, จิงโจ้, วอมแบท ฯลฯ ที่นี่นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปคู่กับโคอาล่าตัวน้อยอย่างใกล้ชิด หรือสนุกสนานกับการให้อาหารจิงโจ้ด้วยตัวเอง
เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น การเดินพาเหรดของ นกเพนกวินบนเกาะฟิลลิปตั้งอยู่ห่างจากเมลเบิร์น ด้วยการ ขับรถสบาย ๆ เพียงสองชั่วโมง (หรือ 140 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น) เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น การเดินพาเหรดของ นกเพนกวินบนเกาะฟิลลิป (Phillip Island Penguin Parade) และ the Seals Rocks Sea Life Centre.
เขตอนุรักษ์นกเพนกวินแห่งทะเลใต้ มีอาคารนิทรรศการรูปภาพ และเรื่องราวเกี่ยวกับสายพันธุ์ของเพนกวินในทวีปต่างๆ เพนกวินที่เกาะฟิลลิป ถือได้ว่าเป็นเพนกวินที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เชิญพบกับความอัฒจรรย์บริเวณชายหาดซัมเมอร์แลนด์ เพื่อรอชมพาเหรดเพนกวิน ทุก ๆ เย็น เพนกวินจะเดินพาเหรดขึ้นจากทะเลหลังกลับจากออกหาอาหารตั้งแต่เช้า เป็นวิถีธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกวัน สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน
อิสระเต็มวันเมืองเมลเบิร์น ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ มากมาย อาทิ สวนฟิตซรอย ศูนย์ศิลปะเมลเบิร์น ตลาดควีนวิคตอเรีย ชมวิวแบบพาโนรามาจากชั้นบนสุดของ Eureka Tower และอื่นๆอีกมามายให้ท่านสัมผัสกับกิจกรรมต่างๆ ตามอัธยาศัย
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เนื่องจากความปลอดภัยสูง และค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ
สวนฟิตซรอย เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เนื่องจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้วยังมีกระท่อมกัปตันคุ้ก ซึ่งเป็นนักสำรวจชาวอังกฤษคนสำคัญของโลก ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียและซีกขั้วโลกใต้ กระท่อมนี้ได้ถูกย้ายมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนครเมลเบิร์นในวาระครบรอบ 100 ปี บ้านหลังนี้แต่เดิมนั้นอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่ทางออสเตรเลียได้ขอซื้อมา เพื่อนำมาตั้งไว้ในสวนฟิตซรอย ลักษณะตัวบ้านค่อนข้างที่จะเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ.1755 โดยมีการรื้อบ้านเป็นส่วนๆ แล้วส่งลงเรือมาประกอบใหม่ ในปี ค.ศ.1934 ด้านในมีนิทรรศการเกี่ยวกับกัปตันคุก และตกแต่งให้เก่าตรงกับสมัยนั้น
วิหารที่สูงที่สุดของออสเตรเลียซึ่งเด่นเป็นสง่าที่ปลายของย่านกลางเมืองเมลเบิร์นแห่งนี้เป็นสถานที่สันโดษและตัวอย่างที่ชัดเจนของศิลปะและฝีมือช่างของโลกเก่า วิหารเซนต์แพทริกเสร็จสมบูรณ์ในปี 1939 หลังจากการก่อสร้างที่ยาวนานกว่า 70 ปี ได้รับการกล่าวว่าที่นี่เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมโกธิคที่ได้รับการฟื้นฟูที่เด่นชัด ดึงดูดผู้เยี่ยมชมที่มาชมความงามจากทุกความเชื่อและศาสนา
ที่นี่เป็นอาคารคอมเพล็กซ์ครบวงจร ที่มีลักษณะเป็นอาคารโรงละคร มีสัญลักษณ์อันโดดเด่นเป็นเสาสูง รูปทรงยอดแหลมคล้ายหอไอเฟล ภายในประกอบด้วยโรงละครรัฐ พิพิธภัณฑ์ศิลปะการแสดง และ หอศิลป์ของจอร์จ อดัมส์ รวมถึงโรงละครขนาดเล็กจำนวนมากและพื้นที่จัดแสดงภาพศิลปะต่างๆ
ถนนคนเดินที่มีร้านค้าและร้านอาหารจีนมากมาย ตั้งอยู่ในเมืองเมลเบิร์น
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานทัลลามารีน ตั้งอยู่ที่เมืองทัลลามารีน ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นท่าอากาศยานหลักอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นรองจากท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ และยังเป็นฐานบริการของควอนตัส และสายการบินลูกอย่างเจ็ตสตาร์แอร์เวย์ รวมถึงไทเกอร์แอร์เวย์ออสเตรเลียซึ่งจะเริ่มเปิดฐานบริการที่เมลเบิร์นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550
เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศบรูไน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการบิน Royal Brunei Airlines เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1953 และรันเวย์นั้นสร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นมัสยิดประจำเมืองหลวงของประเทศบรูไน มัสยิดแห่งนี้ถือว่าเป็นมัสยิดที่สวยสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สถาปัตยกรรมที่ใช้ได้ระบุว่าเป็นแบบอิสลามมิกซ์อาร์ต สไตล์อิตาลี โดยสถาปนิกชาวอิตาลี วัสดุทุกชิ้นเป็นวัสดุที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นหินอ่อนสีขาวพราวกระจ่างจากอิตาลี หินแกรนิตเนื้อแข็งชั้นเยี่ยมจากเซี่ยงไฮ้ โคมระย้าคริสตัลจากอังกฤษ พรมเส้นใยพิเศษจากซาอุดิอารเบีย และที่สำคัญยอดโดมใช้แผ่นทองคำแท้ถึง 3.3 ล้านแผ่น ความสูงของมัสยิด 52 เมตร เรียกว่าสูงพอที่จะให้คนในเมืองเห็นโดมทองคำนี้อย่างทั่วถึง
ล่องเรือชมหมู่บ้านกลางน้ำกัมปงไอเยอร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบรูไน ว่ากันว่ามีคนอาศัยอยู่กันมาอย่างยาวนานกว่า 1,300 ปี เสน่ห์ของกัมปงไอเยอร์คือ ศิลปะการสร้างบ้านเรืองแบบพื้นนับพันหลัง ปลูกสร้างอยู่บนเสาค้ำยันและเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน หมู่บ้านกลางน้ำนี้มีทั้งบ้านพักอาศัย มัสยิด โรงเรียน สถานีอนามัย สถานีตำรวจ ร้านค้า ร้านอาหาร และอื่นๆ อย่างครบครัน กัมปงไอเยอร์นี้นับเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมริมน้ำของประเทศนี้อย่างชัดเจนที่สุด
ลิงโพรบอสซิส (Proboscis Monkey) หรือที่เรียกกันว่า ลิงจมูกยาว เป็นลิงที่มีมีจมูกใหญ่และยื่นยาวประหลาดกว่าลิงชนิดอื่น เป็นลิงที่พบได้เฉพาะในประเทศบนเกาะบอร์เนียวเท่านั้น โดยจะอาศัยอยู่ในป่าชายเลนหรือป่าติดริมแม่น้ำ
เป็นพระราชวังที่ประทับขององค์สุลต่านประมุขของประเทศบรูไน รวมทั้งเป็นที่ทำการทำเนียบรัฐบาล พระราชวัง Istana ออกแบบโดยผสมผสานศิลปะแบบมาเลย์และบรูไนเข้าด้วยกัน มีโดมทองคำสูงโปร่งเป็นลักษณะเด่น ประกอบด้วยห้องหับต่างๆถึง 1,788 ห้อง มีโรงรถขนาดใหญ่มีช่องจอดรถกว่า 350 คัน
พิพิธภัณฑ์นี้เคยได้รับการโหวตจากประเทศในอาเชี่ยน่วงหนึ่งว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าชมที่สุด เป็นที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน อาทิ เครื่องทรงทองคำ ในวันขึ้นครองราชย์และเครื่องบรรณาการจากผู้นำประเทศต่าง ๆ ชมมงกุฏทองคำ บัลลังก์ทองคำ เครื่องทรงทองคำ รวมทั้งเครื่องราชย์มากมายที่พระองค์ได้รับ
มัสยิด โอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque สุเหร่าที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก ได้ชื่อตามพระนามของสุลต่านแห่งบรูไนองค์ที่ 28 สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1958 ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ริมแม่น้ำเคดายัน เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวมุสลิมในบรูไน รอบๆ สุเหร่าเป็นสระขุดกว้างใหญ่ มีภาพของสุเหร่าสะท้อนบนพื้นน้ำสวยงามจับตาอย่างยิ่ง (สุเหร่าไม่อนุญาตให้คนที่ไม่ได้เป็นมุสลิมเข้า) ความงามของมัสยิดนี้ได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็น มินิทัชมาฮาล
เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศบรูไน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสายการบิน Royal Brunei Airlines เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1953 และรันเวย์นั้นสร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย