เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ในเขต Vantaa ที่นี่เป็นที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในประเทศฟินแลนด์
เป็นท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ในเมืองวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศลิทัวเนีย มีจำนวนประชากรมากกว่า 540,000 คน ในปี พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ยังมีฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางการบริหารของเทศบาลนครวิลนีอุส (Vilnius city municipality) และเทศบาลเขตวิลนีอุส (Vilnius district municipality) รวมทั้งเป็นที่ตั้งเทศมณฑลวิลนีอุสด้วย
ถือว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในวิลนีอุส โบสถ์แบบโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า เดิมในช่วงศตวรรษที่ 14 เคยเป็นโบสถ์ไม้ และต่อมาในปี ค.ศ. 1495-1500 มีพระฟรานซิสกันได้สร้างโบสถ์ที่ทำจากหินขึ้นมาแทนที่ และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1581 หลังจากนั้น ได้มีการต่อเติมหอระฆังแบบนีโอโกธิกขึ้นมาในปี 1874 นอกจากนี้โบสถ์เซนต์แอนแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย
เป็นประตูเมืองหลักในวิลนีอุสซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย และเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ทางศาสนาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ถูกสร้างขึ้นระหว่าง 1503 จนถึงปี 1522 เป็นส่วนหนึ่งของป้อมปราการป้องกันสำหรับเมืองวิลนีอุสในยุคนั้นซึ่งมีอยู่สิบประตู แต่ว่าถูกคณะรัฐบาลปฏิวัติในช่วงประมาณช่วงปลายศตวรรษที่ 18 สั่งทำลายทิ้งทั้งหมดจนเหลือที่นี่เพียงแห่งเดียว
จุดหมายปลายางด้านการท่องเที่ยวที่เราอยากให้คุณมีโอกาสมาเยือนสักครั้ง ในอดีตเมืองเล็กๆแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของลิทัว เนีย ซึ่งปัจจุบันลิทัวเนียมีเมืองหลวงใหม่ชื่อวิลนีอุส (Vilnius) เมืองทราไก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองวิลนีอุส โดยอยู่ห่างไปประมาณ 28 กิโลเมตร ปัจจุบันเมืองเล็กๆที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้ กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของท่องเที่ยว
ปราสาททราไก ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆใน ทะเลสาบเกรฟ ซึ่งหลายคนที่เคยมาเยือนต่างก็เรียกขานปราสาทแห่งนี้ว่า "Little Marienburg " เป็นปราสาทหินที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยดยุควีเตาตาส เจ้าผู้ครองแคว้นทราไกในสมัยอดีต ปัจจุบันเป็นปราสาทแห่งนี้ถือ ว่าเป็นปราสาทที่มีความสำคัญทางด้านการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่ดีมากแห่งหนึ่ง
เมืองเคานัส (Kaunas) เคานัสเคยเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของประเทศลิทัวเนีย ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตั้งอยู่ตรงที่บรรจบกันของแม่น้ำเนริส และแม่น้ำเนมาน เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศลิทัวเนีย และเป็นเมืองหลวงของเทศมณฑลเคานัส เคานัสเคยเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของประเทศลิทัวเนีย
เป็นศาลาว่าการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเคานัสของประเทศลิธัวเนีย ถูกตั้งมาแต่ศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและดูแลเรื่อยมา
วิหารเคานัส ที่มีการสร้างแบบผสมผสานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15
เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในประเทศลัตเวีย มีประชากรในปี พศ2549 ไม่ถึง หนึ่งพันคน แต่ก็มีปราสาท ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเป็นของตนเอง
รูนดาเลพาเลซ ซึ่งเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของลัตเวีย ก่อสร้างสไตล์บาร็อค และร็อคโคโค ในศตวรรษที่ 18 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน เป็นคนเดียวกันกับผู้สร้างพระราชวังฤดูหนาวในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย พระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นพระราชวังฤดูร้อนของท่านดุ๊กแห่งคอร์แลนด์ เอิรน์ โจฮันน์ ไบรอน
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในกลุ่มรัฐบอลติก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรม การศึกษา การเมืองการปกครอง ธุรกรรม พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้ ที่สำคัญ ย่านเมืองเก่าหรือศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเมืองริกา ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ ทั้งที่เป็นอาคารไม้สไตล์นีโอคลาสสิกและอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว นอกจากนี้ ริกายังได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรป ประจำปี 2014 อีกด้วย
เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในเมืองริก้า ที่นี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของเมืองที่เป็นจุดบรรจบของถนนเจ็ดสาย เกิดขึ้นในช่วงประมาณปลายศตวรรษที่ 19 โดยอาคารหลายหลังบริเวณนี้ถูกรื้อออกเพื่อเป็นลานว่างสำหรับเป็นทางเข้าของมหาวิหารริก้าในช่วงนั้น จัตุรัวนี้รายล้อมไปด้วยอนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรมหลายแห่ง โดยเฉพาะมหาวิหารริก้าที่ถือเป็นแลนมาร์คหลักของที่นี่
วิหาร Dome Cathedral ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1211 โดยบาทหลวง บิชอป Albert และโบสถ์นี้ก็ได้ถูกซ่อมแซมบรุณะอีกหลายครั้ง สไตล์ของมหาวิหารจะผสมกันระหว่างโกธิคกับบารอค สามารถขึ้นไปดูชมวิวมุมสูงบนยอดโดมได้ด้วย แต่ต้องเสียค่าเข้า
อนุสาวรีย์อิสรภาพ (Freedom Monument) อนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองริก้า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1935 ในช่วงของการเรียกร้องอิสรภาพของประเทศลัตเวียระหว่างปี ค.ศ. 1918-1940 โดยมีชื่อเรียกหญิงสาวคนนี้ว่า “Milda” โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ออกแบบโดย Ernests Shtalbergs มีความสูงประมาณ 42 เมตร ด้านบนประดับด้วยรูปปั้นของหญิงสาวที่ถือดาว 3 ดวง สื่อถึงภูมิภาคทั้งสามของประเทศลัตเวีย คือ Kurzeme, Vidzeme และ Latgale
สร้างขึ้นในปี 1330 เพื่อเป็นที่อยู่ของ Livonian Order เคยถูกทำลายไปในศตวรรษที่ 15 โดยชาวเมืองและได้รับการสร้างขึ้นใหม่โดยชาวเมืองเช่นกันปัจจุบันนอกจากเป็นที่อยู่ของประธานาธิบดีของลัทเวียยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ด้วย
ซิกุลด้า เป็นเมืองเล็กๆ อันแสนสงบที่มีประชากรไม่ถึงสองหมื่นคนและไม่ห่างไกลจากนครริก้า
สร้างขึ้นในปีค.ศ.1214 โดยอาร์คบิช็อปแห่งริก้า เป็นปราสาทก่ออิฐแบบโกธิค ซึ่งถูกสร้างต่อเติมและบูรณะมาหลายสมัยจนเป็นลักษณะของป้อมปราสาทที่สวยงาม แต่ในปี ค.ศ.1776ปราสาทได้เสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์ไฟไหม้และไม่ได้รับการบูรณะจนกระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้รับการซ่อมแซมและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในที่สุด
เป็นเมืองตากอากาศในประเทศเอสโตเนียซึ่งอยู่ติดกับอ่าวแปร์นู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเพราะชายหาดที่ลากยาวและรีสอร์ทมากมายที่มาเปิดให้บริการ เมืองนี้พึ่งได้เอกราชและเป็นส่วนหนึ่งของเอสโตเนียอย่างเป็นทางการหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 3,000 ปี เคยถูกยึดครองโดยเดนมาร์ก สวีเดน และรัสเซีย ภายหลังได้อิสรภาพจากสหภาพโซเวียต ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก นำท่านเที่ยวชมเขตโอลด์ทาวน์ของเมืองทาลลินน์ที่โอบล้อมด้วยกำแพงเมืองและป้อมปราการในยุคกลาง ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุคอัศวิน
เป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่ตั้งกระจายอยู่ตามเมืองปาร์นู ถูกสร้างด้วยสไตล์เอสโตเนียแบบดั้งเดิมที่ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไป
ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 3,000 ปี เคยถูกยึดครองโดยเดนมาร์ก สวีเดน และรัสเซีย ภายหลังได้อิสรภาพจากสหภาพโซเวียต ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก นำท่านเที่ยวชมเขตโอลด์ทาวน์ของเมืองทาลลินน์ที่โอบล้อมด้วยกำแพงเมืองและป้อมปราการในยุคกลาง ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุคอัศวิน
เป็นที่ตั้งของปราสาททูมเปีย ปัจจุบันได้ใช้เป็นอาคารรัฐสภาและหน่วยงานราชการ, โบสถ์อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้ (Alexander Nevsky Cathedral) โบสถ์รัสเซียนออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอสโทเนีย เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก แล้วเดินลัดเลาะแนวกำแพงเมืองสู่จตุรัสกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของศาลากลางรายล้อมด้วยอาคารที่ต่างยุคสมัยกันตั้งแต่ศตวรรษที่ 15-17
เป็นมหาวิหารใหญ่ที่มียอดโดมใหญ่ที่สุดในเมืองทาลลินน์ เป็นโมหาวิหารคริสต์ออร์โธด็อกซ์ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1900 ในช่วงที่เอสโตเนียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิซาร์แห่งรัสเซีย สถาปนิกผู้ออกแบบโบสถ์แห่งนี้ก็คือ Mikhail Preobrazhenski จากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ยาโรสลาวิทซ์ เนฟสกี้ ด้านบนมีหอระฆังใหญ่ มีระฆัง 11 อัน รวมถึงอันที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซึ่งมีน้ำหนักถึง 15 ตัน
เป็นเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ที่ให้บริการข้ามช่องแคบคุ๊ก เพื่อเชื่อมต่อประเทศนิวซีแลนด์ระหว่างเกาะทางเหนือ(เมืองเวลลิงตัน) กับเกาะทางใต้(เมืองพิคตัน) บนเรือเฟอร์รี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งห้องดูทีวี ร้านอาหาร ห้องเด็กเล่น และอื่นๆ โดยระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวทะเลอันสวยงามของนิวซีแลนด์
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
เป็นถนนที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศฟินน์แลนด์ และยังเป้นถนนสายหลักที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ ชื่อของถนนนั้นได้มาจากชื่อของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ชื่อ Carl Gustaf Emil Mannerheim ผู้นำขบวนพาเรดที่เดินบนถนนนั้นเพื่อฉลองจุดจบของสงครามกลางเมืองของประเทศ เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมมากมายและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาทิเช่น ห้าง STOCKMANN, FORUM, SOKO
เป็นจตุรัสใหญ่กลางเมืองเฮลซิงกิ ที่นี่มักจะเป็นสถานที่ใช้จัดเทศกาลหรือกิจกรรมต่างๆ และจุดนี้เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ
เป็นอนุสาวรีย์ที่เป็นสัญลักษณ์ของจัตุรัสซีเนทของกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ อนุสาวรีย์นี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1894 ตัวอนุสาวรีย์ประกอบด้วยรูปปั้นอเล็กซานเดอร์บนแท่นที่ล้อมรอบด้วยตัวเลขที่แสดงถึงกฎหมาย วัฒนธรรมและเรื่องราวชนชั้นกรรมกร ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองและสิ่งเตือนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของฟินแลนด์กับจักรวรรดิรัสเซียในอดีต
ซึ่งในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส เป็นมหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ตั้งเด่นตระหง่านอยู่จนเรียกว่าเป็นจุดแลนด์มาร์กของเฮลซิงก็ว่าได้ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันอย่างเป็นจำนวนมาก มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) สีขาวบริสุทธิ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ใจกลางจัตุรัสโดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทางทิศตะวันออกเป็นทำเนียบรัฐบาล งดงามด้วยเสาหินสไตล์คอรินเทียน และ ทิศตะวันตกเป็นอาคารหลักของมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ซึ่งก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไอออนิกที่ไม่ควรพลาดชม
เป็นโบสถ์นิกายออร์ธอดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ออกแบบโดย Aleksei Gornostajev สร้างตามสไตล์โบสถ์เก่าแก่ใกล้กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียในศตวรรษที่ 16 หลังคาทรงโดมทองและสร้างด้วยอิฐสีน้ำตาลแดง แสดงถึงความมีอิทธิพลของรัสเซียต่อประวิติศาสตร์ฟินแลนด์ได้เป็นอย่างดี
เป็นท่าอากาศยานหลักประจำเมืองเฮลซิงกิ ตั้งอยู่ในเขตวานตา ห่างจากเมืองเฮลซิงกิขึ้นไปทางเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฟินแลนด์และเป็นอันดับที่สี่ในประเทศแถบนอร์ดิกในแง่ของจำนวนผู้โดยสาร
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย