เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของเมืองหลวงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ที่เขตปาลาม โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองนิวเดลีทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 16 กิโลเมตร
เป็นอดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า "ฮินดูสถาน" (Hindustan) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา (Yomuna) ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลัคเนา (Lucknow) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 363 กิโลเมตร (226 ไมล์) และ 200 กิโลเมตร (124 ไมล์) ทางทิศใต้ของกรุงนิวเดลี
ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ เจ้าชายขุร์รัม ชึ่งต่อมาคือสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ สมเด็จพระจักรพรรดิชะฮันคีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล ตามตำนานกล่าวว่า พระองค์ได้พบกับอรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตรีของรัฐมนตรี พิธีเสกสมรสถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี เมื่อพ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย
เป็นป้อมอนุสรณ์สถานสำคัญ และมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ที่เมืองอัครา รัฐอุตตร ประเทศ ประเทศอินเดีย โดยอยู่ห่างจากอีกหนึ่งอนุสรณ์สถานสำคัญที่อยู่ใกล้เคียง คือทัชมาฮาล เป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ป้อมอัครานั้นเสมือนเป็นเมืองขนาดเล็กๆ ที่ห้อมล้อมด้วยป้อมปราการอันใหญ่โต
เป็นเมืองหลวงของรัฐราชาสถาน รอบนอกมีกำแพงสูงใหญ่พร้อมประตูเมืองทั้งเจ็ดรายรอบ เดิมเป็นสีขาว สีเทา แต่ปัจจุบันสีชมพู เพื่อเป็นการต้อนรับเจ้าชาย Albert
ซึ่งเชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 หรือพันกว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นแคว้นราชาสถานเป็นแคว้นที่ร่ำรวยมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางสายสำคัญในการเดินทางไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งพอเดินทางผ่านกันบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดการค้าขายขึ้น พอรวยแล้วก็เริ่มมีการลงทุนในการสร้างปราสาทราชวังและป้อมปราการ แต่ด้วยความที่ภูมิประเทศของที่นี่เป็นทะเลทราย ที่มีความแห้งแล้งมาก น้ำฝนที่ตกเพียงปีละไม่กี่ครั้งก็จะซึมหายผ่านทรายไปอย่างรวดเร็วแบบที่คนไทยซึ่งเติบโตมากับสายน้ำอย่างเราๆ จินตนาการไม่ถูก
ฮาวามาฮาล แปลว่าพระราชวังแห่งสายลม เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปี 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้นและมีลักษณะคล้ายรังผึ้งสร้างจากหินทรายสีแดงสดฉลุหินให้เป็นช่องหน้าต่างลวดลายเล็กๆ ละเอียดยิบที่มีช่องหน้าต่างถึง 953 บาน
ป้อมแห่งนี้อยู่ที่เมืองอาเมร์ ตรงบริเวณชานเมืองชัยปุระ ห่างจากเมืองชัยปุระ 11 กิโลเมตร ตั้งโดดเด่นอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบ สร้างโดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 ป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมซึ่งผสมผสานกันระหว่างศิลปะฮินดูและศิลปะราชปุตอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถมองเห็นได้จากระยะทางไกล เนื่องจากมีขนาดกำแพงปราการที่ใหญ่และแน่นหนา พร้อมประตูทางเข้าหลายแห่ง ถนนที่ปูด้วยหินหลายสาย ซึ่งเมื่ออยู่บนป้อมแล้วสามารถมองเห็นทะเลสาบเมาตาได้อย่างชัดเจน
เดิมเป็นพระราชวังของมหาราชใจสิงห์ (Jai Singh) พระราชวังถูกสร้างขยายออกในสมัยหลัง ปัจจุบัน ได้รวบเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ประกอบด้วย 4 ส่วนที่น่าสนใจคือ ส่วนแรกคือส่วนของพระราชวังส่วนที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ซึ่งมีการตัดเย็บอย่างวิจิตร ส่วนที่สามเป็นส่วนของอาวุธ และชุดศึกสงคราม ที่จัดแสดงไว้อย่างน่าทึ่งมากมายหลายหลาก
จัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองชัยปุระ โดยได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก
เมืองเดลีเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอินเดีย ประมาณการณ์ว่าก่อสร้างเมื่อ 5000 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบในปัจจุบันมีอายุประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล มีเมืองโบราณหลายแห่งถูกขุดพบในเขตการปกครองเดลีในปัจจุบัน พื้นที่เขตเดลีเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรอินเดียโบราณถึง 7 อาณาจักร
เป็นอนุสรณ์สถานของเหล่าทหารหาญที่เสียชีวิตจากการร่วมรบกับอังกฤษในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกานิสถาน ประตูชัยแห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลลี โดยซุ้มประตูแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมคล้ายประตูชัยของกรุงปารีสและนครเวียงจันทน์ ซึ่งมีความสูง 42 เมตร สร้างขึ้นจากหินทรายเมื่อปีคริสต์ศักราชที่ 1931 บนพื้นผิวของประตูชัยแห่งนี้จะปรากฏรายนามของทหารที่เสียชีวิตถูกแกะสลักไว้ และบริเวณใต้โค้งประตูจะปรากฏคบเพลิงที่ไฟไม่เคยมอดดับเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามอินเดีย-ปากีสถาน เมื่อปีคริสต์ศักราชที่ 1971
เป็นวัดฮินดูขนาดใหญ่วัดหนึ่งในนิวเดลี ที่สร้างเพื่ออุทิศให้กับเทพลักษมีนารายัน ซึ่งเทพดังกล่าวมักจะหมายถึงพระนารายณ์ดำรงตำแหน่งใน Trimurti หรือที่เรียกว่า Narayan วัดนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Jugal Kishore Birla ในปี 1933 และสถาปนาโดยมหาตมะคานธี พื้นที่วัดตกแต่งด้วยศาล น้ำพุ สวนขนาดใหญ่ และตัวอาคารวัดที่มีประติมากรรมของศาสนาฮินดูที่โดดเด่น
เป็นวัดฮินดูที่ตั้งอยู่ทาตะวันออกของเมืองนิวเดลลี วัดนี้แสดงวัฒนธรรมฮินดูและอินเดียที่นำเสนอเรื่องราวทางจิตวิญญาณและสถาปัตยกรรมของชาวอินเดียมาหลายพันปี ตัววัดเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ปี 2005 โดย Pramukh Swami Maharaj ศาลเจ้าหลักคือจุดโฟกัสและอยู่ที่ตำแหน่งศูนย์กลางของอาคารทั้งหมด มีห้องโถงนิทรรศการหลายแห่งที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของ Swaminarayan นักออกแบบชื่อดังคนหนึ่งของอินเดีย
เป็นเมืองหลวงของรัฐทางเหนือสุดของอินเดีย คือรัฐชัมมูและกัศมีร์ ตั้งอยู่ในหุบเขาแคชเมียร์ บนฝั่งแม่น้ำเฌลัม สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,600 เมตร เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของอินเดียที่ไม่ได้นับถือศาสนาฮินดู
เป็นเส้นทางเคเบิ้ลคาร์ที่จะนำขึ้นไปยังสถานีกงโดรีบนเขาอัฟฟาร์วัต ซึ่งถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดและสูงที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย เมื่อเดินทางถึงที่หมายสิ่งที่ท่านจะได้พบคือบรรยากาศและทัศนียภาพแบบพาโนรามาอันสวยงามบนเขาอัฟฟาร์วัต ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสก็จะสามารถมองเห็นยอดเขานันกา พาร์บัต (Nanga Parbat) ของเทือกเขาหิมาลัย
เทือกเขากุลมาร์คถือเป็นสถานที่มีทัศนียภาพสวยงามแห่งหนึ่งในโลก ในขณะขับรถสู่เทือกเขากุลมาร์คสองข้างทางจะเป็นทุ่งนาข้าวสลับกับพันธุ์ไม้ป่าและฝูงแกะตามเทือกเขาโดยเทือกเขาหิมาลัยนี้จะมีหิมะปกคลุมสลับกันไป อยู่ห่างจากเมืองศรีนาคา 57 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) เทือกเขากุลมาร์คเป็นพื้นที่ราบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในโลก เป็นภูเขาที่สวยงามแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ และสถานที่เล่นกีฬาสกีน้ำแข็งในฤดูหนาวจนไม่คิดว่านี้เป็นประเทศอินเดีย
เป็นสวนในศรีนาการ์ที่เชื่อมโยงผ่านช่องทางไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบดาล บนฝั่งขวาของธนาคารซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองศรีนาคา สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Mughal Emperor Jahangir สำหรับ Nur Jahan ภรรยาของเขาในปี 1619 ที่นี่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นจุดสูงสุดของการทำสวนของ Mughal ตอนนี้มันเป็นสวนสาธารณะ มันถูกเรียกว่า "Crown of Srinagar"
เป็นสวนที่สร้างขึ้นบนฝั่งตะวันออกของทะเลสาบดาล ตั้งอยู่ในเมืองศรีนาคา เป็นสวนโมกุลที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาแคชเมียร์ ‘Nishat Bagh’ เป็นภาษาอูรดูซึ่งหมายถึง "Garden of Joy" "Garden of Gladness" และ "Garden of Delight" หรือสวนแห่งความสุขตามภาษาไทย
มีอีกชื่อว่าหุบเขาแกะ เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะที่ตั้งอยู่ในหุบเขาอันสลับซับซ้อน อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,130 เมตร ด้วยความงามของทุ่งหญ้าและป่าสน สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเป็นโลเคชั่นยอดฮิตที่ภาพยนตร์หลายเรื่องนิยมมาถ่ายทำ และมีความสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ พาฮาลแกม ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งอินเดีย” อีกด้วย
โซนา” แปลว่าทอง “มาร์ค” แปลว่าเส้นทาง… ในอดีตเส้นทางนี้เป็นเส้นทางค้าขายในตำนานหรือที่เรียกว่า เส้นทางสายไหมเนื่องจากภูมิประเทศที่สวยงามอีกทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดสองข้างทางการเดินทางจะได้เห็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะรูปร่างแปลกตา สลับกับป่าต้นวอลนัตขนาดใหญ่ที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทางเส้นทางนี้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,690 เมตร เรียกว่าสวยงามมากตลอดเส้นทางจากศรีนาคา
เรือชิคารา เป็นพาหนะหลักสำหรับผู้ที่พักบ้านเรือในทะเลสาบดาล ตลอดแนวริมฝั่งทะเลสาบที่ติดกับถนน Boulevard มีท่าจอดเรือข้ามฟากอยู่เป็นระยะๆ ค่าเรือข้ามไปยังบ้านเรือในทะเลสาบอยู่ระหว่าง 20 - 50 รูปี ขึ้นอยู่กับระยะทาง เรือลำนี้ยังให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่องชมวิวทะเลสาบดาล ซึ่งถือเป็นที่เที่ยวและกิจกรรมสำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเยือนแคชเมียร์
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองศรีนาคา เมืองหลวงของดินแดนจัมมูและแคชเมียร์ ตั้งอยู่ในเขตบัดกามึ่งอยู่ห่างจากเมืองศรีนาคาไปทาใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร ท่าอากาศยานนี้มีกองทัพอากาศอินเดียเป็นผู้ดูแลหลัก
เป็นท่าอากาศยานหลักของเมืองหลวงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ที่เขตปาลาม โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองนิวเดลีทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 16 กิโลเมตร
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย