เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
สนามบอลของเมืองมิวนิค ซึ่งเป็นฐานทัพของทีมฟุตบอลประจำเมืองชื่อบาเยิร์นมิวนิค มีฉายาว่าห่วงยางเพราะทรงของสนามจากด้านนอก
ที่นี่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของการนัดพบในนครมิวนิค มีศาลาว่าการของเมืองแห่งใหม่ เป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ Mariensaule รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเขาสูงศาลาว่าการเมืองใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ หอระฆัง Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ
เป็นเมืองที่ตั้งของปราสาทแห่งเทพนิยายนอยชวานสไตน์ อยู่ใกล้เมืองฟุสเซ่นทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนี
เป็นสะพานไกล้ปรสาทนอยชไวน์สไตน์ ในบาวาเรีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอกนิยมของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เพื่อไปถ่ายภาพวิว ซึ่งใช้ในการข้ามเหวที่ลึก และห่างจากตัวเมืองออกไป 30นาที
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางแคว้นบาวาเรียตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งจะติดกับชายแดนออสเตรีย เมืองฟุสเซ่นนั้น เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงามของบ้านเรือนและโรงแรมที่พักซึ่งแต่ล่ะแห่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นเมืองพักตากอากาศเล็กๆ ในแนวหุบเขาของเยอรมันใต้ มีบ้านเมืองสวยแบบบาวาเรียแท้ ตามผนังของตึกต่างๆ ยังเป็นรูปเขียนเรื่องราวในคริสต์ศาสนาที่น่าชมยิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวและยังเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ลานสเก็ตน้ำแข็ง และลู่แข่งสกีโอลิมปิก
เป็นรถไฟ Cogwheel Train ที่พาขึ้นชมยอดเขาซุกสปิตซ์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน ระหว่างทางจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทาง
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ด้วยความสูง 2,962 เมตร ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ในวันที่อากาศดีสามารถเห็นยอดเขาต่าง ๆ ในเทือกเขาแอลป์ได้ชัดเจน และยอดเขามากกว่า 400 ยอด เห็นวิวได้ถึง 4 ประเทศคือออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลีและเยอรมนี ถือว่าเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งของการเล่นกีฬาฤดูหนาวของเยอรมัน โดยเฉพาะการเล่นสกี
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของออสเตรีย มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ได้ชื่อว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบารอค ดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือเก่ามาแต่โบราณ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำ The sound of Music และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองชายแดนก่อนจะข้ามไปบาวาเรียของเยอรมณี เรียกว่าเป็นระยะทางแค่ปาหินไปถึง
ป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเมืองซาลล์บวร์ก เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในเป็นพระราชวังเดิม ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน ประกอบไปด้วยรูปปั้นและน้ำพุ เป็นสวนแบบบารอค เป็นหนึ่งในฉากคลาสสิค หนังเรื่อง The sound of music ภายในมีวังมิราเบลอยู่ด้วย หลังจากโดนไฟไหม้ ปัจจุบันปรับเป็นสถานที่ราชการ และนิยมใช้ในการจัดงานแต่ง และ จัดคอนเสิร์ต
เป็นถนนการค้าชื่อดังที่สุดของซาลซ์บูร์ก ที่เป็นที่รู้จักด้วยอาคารบ้านเรือนหน้าแคบจากสมัยกลาง รวมถึงบ้านเกิดและพิพิธภัณฑ์โมสาร์ท ซึ่งถนนช้อปปิ้งนี้เป็นย่านการค้าสำคัญของเมืองมาตั้งแต่ยุคกลาง ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว จุดเด่นของร้านค้าบนถนนเส้นนี้คือป้ายเหล็กที่แสดงสัญลักษณ์ของร้านที่แขวนไว้เหนือทางเข้าแต่ละร้านจะมีรูปแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นบ้านเกิดของโมสาร์ทจริงๆ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจได้สัมผัสโลกของศิลปินเอกพร้อมทั้งสัมผัสรูปปั้นโมสาร์ทแบบใกล้ชิด
เป็นจตุรัสย่านกลางเมืองอยู่ใกล้กับมหาวิหารแห่งเมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg Cathedral) มีน้ำพุสไตล์บาร็อคเป็นจุดเด่นของจตุรัสนี้
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เป็นเขตชุมชนโบราณของพวกเคลติก ชนพื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรป ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก้
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหยดน้ำแห่งแคว้นโบฮีเมีย อยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ก ใกล้ชายแดนออสเตรีย มีจุดเด่นคือมีลำธารตัดผ่านเล็กๆ ที่คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว s ทำให้ภูมิทัศน์ตัวเมืองดูเหมือนหยดน้ำที่นี่ ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
เป็นปราสาทที่เป็นแลนมาร์คของเมืองเชสกี้ครุมลอฟ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเช็ก รองจากปราสาทปราก ที่นี่มีหอคอยทรงกลมไว้สำหรับชมวิว มีอายุมากกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของชนชั้นสูง จนปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองไป
เป็นเมืองหลวงเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Vltava เมืองนี้มีภูมิอากาศแบบมหาสมุทรที่ค่อนข้างอบอุ่นในฤดูร้อนและฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็น ปรากเป็นศูนย์กลางทางการเมืองวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของยุโรปกลางพร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในปี 2017 ปรากได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองในยุโรปที่มีนักท่อเที่ยวมากเป็นอันดับห้า รองจากลอนดอน ปารีส โรม และอิสตันบูล
สะพานเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ สร้างในสไตล์โกธิกที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอม่อค้ำยัน 16 ตอ จุดเด่นของสะพานนี้ก็คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานราว 30 องค์
เป็นจัตุรัสที่แวดล้อมด้วยสถาปัตยกรรมบารอค กอธิค และรอคโคโคที่อลังการ จัตุรัสเมืองเก่าเป็นอีกย่านที่น่านั่งชิลล์พักผ่อน มีคาเฟ่หลายร้านให้เลือก
หอนาฬิกาดาราศาสตร์นี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสเมืองเก่ากลางกรุงปราก นาฬิกาโบราณคู่บ้านคู่เมืองของกรุงปร๊าก เป็นนาฬิกาที่สามารถแสดงข้อมูลทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ หรือกลุ่มดาวจักรราศี
โบสถ์ประจำนิกายคาทอลิก สไตล์โกธิคด้วยยอดแหลมคู่ เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งแห่งปราก เป็นโบสถ์แบบกอธิค ซึ่งมีหอคอยคู่ของโบสถ์สูง 80 เมตร ตั้งเด่นเป็นสง่าที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
เป็นปราสาทอันสุดอลังการที่สร้างอยู่บนเนินเขา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปราสาทมีการบูรณะเป็นระยะ ภายในกำแพงที่ล้อมปราสาทประกอบด้วยพระราชวัง โบสถ์ วิหาร วัด ถนน อุทยาน และหอคอย บริเวณหน้าปราสาทมีทหารรักษาการณ์แต่งเครื่องแบบงามสง่ายืนเฝ้าอยู่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในโลก
มหาวิหารเซนต์วิตุส เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก การก่อสร้างในช่วงแรกๆ ยังไม่สมบูรณ์ มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายร้อยปี ภายในมหาวิหารประดับกระจกสีอันวิจิตรงดงาม เป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่น่าสนใจก็คือบริเวณแท่นบูชาของเซนต์เวนเซสลาส ที่ตกแต่งด้วยภาพวาดเทคนิคเฟรสโกและอัญมณีมีค่าถึง 1,345 ชิ้น
เป็นชื่อย่านถนนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ของปราสาทปราก โดยชื่อมาจากตำนานในการผลิตทองเมื่อศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันมีร้านค้าของที่ระลึกจำนวนมาก และมีพิพิธภัณฑ์ของอาวุธในอดีตอีกด้วย ภายในหมู่บ้านแห่งนี้หน้าบ้านแต่ละหลังจะใช้สัญลักษณ์ต่างๆ แทนเลขที่บ้าน
เป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงเดียวในโลกที่อยู่ติดชายแดน ไม่ใช่แค่นั้น เป็นเมืองที่อยู่ติดชายแดนที่ติดสองประเทศเพื่อนบ้าน ณ สามเหลี่ยนชายแดนฮังการี ออสเตรีย และประเทศตัวเองอย่างสโลวาเกียด้วย
เป็นปราสาทเก่าแก่ประจำเมืองที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำดานูบบนเนินเขาร็อกกี้ฮิลล์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเมืองบราติสลาวา เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหอคอยสูง 80 เมตร อยู่ทั้ง 4 ด้าน ด้านบนปราสาทเป็นจุดชมทัศนีย์ภาพของเมืองที่สวยงามมาก
กรุงบูดาเปสต์ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี และเป็นศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่งของประเทศ เป็นเมืองเดี่ยวที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบ และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของยุโรป
เป็นสะพานแขวนในเมืองบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ที่ทอดข้ามสะพานดานูบเพื่อเชื่อมต่อตัวเมืองระหว่างฝั่งตะวันตกกับตะวันออกไว้ด้วยกัน สะพานนี้ออกแบบโดยวิศวกรชาวอังกฤษ William Tierney Clark และสร้างโดย Adam Clark วิศวกรชาวสก็อตซึ่งเป็นสะพานถาวรแห่งแรกที่ข้ามแม่น้ำดานูบในฮังการีโดยเปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1849 และถูกใช้านมาจนถึงปัจจุบัน
เป็นเนินเขาที่มีปราสาทที่สวยงามตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังมีบ้านสไตล์บาร็อค อนุสาวรีย์ฮับส์บูร์ก ร้านกาแฟ รวมถึงรุสซวอร์มของต้นศตวรรษที่ 19 การมาที่นี่สามารถเดินทางขึ้นไปด้วยรถ หรือใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าแบบรางในเมืองบูดาเปสต์
เป็นอนุสรณ์สถานที่มีความสำคัญ และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือยูเนสโกเมื่อปี 1987 และเคยได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่สูงที่สุดในยุโรป มีทั้งสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและบาโรก รวมถึงแบบโมเดิร์นหรือแบบสมัยใหม่ผสานกันอย่างลงตัว
เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างไว้เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในคราวที่ถูกพวกมองโกลเข้ามารุกราน และที่แห่งนี้ยังจุดชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองที่สวยที่สุด สามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้แบบพาโนรามา
เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุ 700 ปี ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โบถส์แห่งนี้ตั้งชื่อตามพระนามของกษัตริย์แมทธิอัส กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฮังการี มีหลังคาสลับสีอันสวยงามตามสไตล์นีโอ-โกธิค ส่วนด้านโบสถ์ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสี และกระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่งดงามเกินคำบรรยาย
เป็นจตุรัสที่สำคัญที่สุดในเมืองบูดาเปสต์ ที่มีอนุสาวรีย์แห่งสหัสวรรษ (Millennium Memorial) ตั้งตระหง่านอยู่กลางลาน เป็นจตุรัสขนาดใหญ่ที่มีรูปปั้นของนักรบ หัวหน้าเผ่า และผู้นำประเทศที่สำคัญ ทั้งยังเป็นจตุรัสที่ใช้จัดกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญมากมาย รำลึกถึงการสร้างชาติ และการรอดพ้นจากการปกครองแบบคอมมิวนิสต์
เป็นโรงละครโอเปร่ายุคเรเนสซองค์ ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงบูดาเปสต์ ออกแบบโดย Miklós Ybl ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญทางด้านสถาปัตยกรรมฮังการีในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยได้รับทุนสนับสนุนจากเมืองบูดาเปสต์และจักรพรรดิฟรานซ์โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย - ฮังการี ที่นี่ยังได้รับการยกย่องให้เป็นอาคารที่สวยที่สุดในบูดาเปสต์อีกด้วย
เป็นโบสถ์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าบนพื้นที่เขตเมืองบูดาเปสต์ ลักษณะโครงสร้างของโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตรงกลางเป็นโดมที่สวยงามขนาบด้วยหอระฆังที่มีความใหญ่โตทั้งสองด้าน โดยหอระฆังด้านหนึ่งบรรจุระฆังขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการีน้ำหนักเก้าตัน ภายในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เก็บรักษาพระหัตถ์ด้านขวาของกษัตริย์สตีเฟนซึ่งยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ทุกประการ
ล่องเรือชมแม่น้ำดานูบ แม่น้ำที่ยาวที่สุดในสหภาพยุโรป และยาวเป็นอันดับสองของทวีปยุโรป (รองจากแม่น้ำโวลก้า) มีต้นกำเนิดที่แถบป่าดำ ในประเทศเยอรมนี เกิดจากแม่น้ำเล็กๆ สองสาย คือ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมือง Donaueschingen
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชม ถือว่าป็นสัญลักษณ์ของฮังการี อาคารรัฐสภานี้ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค มีหลังคาสีแดง และรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร
เป็นเอาท์เลตภายใต้ยี่ห้อ MacArthurGlen Group ซึ่งเริ่มในอเมริกาเหนือ ถนัดเรื่องการเปิดเอาท์เลตซึ่งขยายมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2546 ภายในเอาท์เลตแห่งนี้จะมีร้านสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ นับร้อยแบรนด์ที่ขายในราคาพิเศษ
เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็นชื่อเขตการปกครองในออสเตรียด้วย เวียนนาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง
เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของมหานครเวียนนา ถูกสร้างขึ้นให้หรูหราเทียบเท่ากับพระราชวังแวร์ซาย มีห้องมากกว่าถึง 1,400 ห้อง ความโดดเด่น ก็คือ สถาปัตยกรรมแบบร๊อกโคโค่ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองอร่าม “เหลืองเทเรซ่า”แม้จะได้ชื่อว่าเลียนแบบมาจากฝรั่งเศส แต่ความอลังการก็สามารถสร้างความตื่นตาให้กับผู้เข้าชม จนได้รับการประกาศจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกในปี1996
เป็นถนนสายช้อปปิ้งประจำกรุงเวียนนา เมื่อก่อนเป็นถนนสายหลักจากตัวเมืองถึงกำแพงเมือง ชื่อ Strata Carinthianorum แต่ตอนนี้ได้ถูกออกแบบใหม่ตั้งชื่อใหม่ และเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินที่เอาไว้ให้คนเดินช้อปปิ้ง ที่มีร้านค้า ร้านแบรนด์เนมต่างๆ ตลอดสองข้างทาง
เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเวียนนา ซึ่งมีชื่อที่นิยมเรียกกัน Stephansdom เป็นภาษาเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์หลายๆอย่างเกิดขึ้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตรงกลางเป็นโดมที่สวยงามขนาบด้วยหอระฆังที่มีความใหญ่โตทั้งสองด้าน โดยหอระฆังด้านหนึ่งบรรจุระฆังขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการี สามารถชมวิวของเมืองบูดาเปสต์ได้แบบโดยรอบ
เป็นถนนวงแหวนรอบกรุงเวียนนา ที่รายล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จัดวางได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พระราชวังฮอฟบรูก์ กลุ่มอาคารพระราชวังของจักรพรรดิ อิมพิเรียลอพาร์ตเมนท์ หอศิลป์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติ
เป็นโรงละครโอเปร่าที่สร้างขึ้นในระหว่างปี 1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี 1955
เป็นสถานที่ทำการรัฐบาลของออสเตรีย ตั้งอยู่บนถนนริงสราเช่ส์ในย่าน Innere Stadt ใกล้กับพระราชวังฮอฟเบิร์ก อาคารนี้สร้างเสร็จในปี 1883 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13,500 ตารางเมตร ทำให้เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเวียนนา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของรัฐ โดยเฉพาะพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีแห่งออสเตรียและสุนทรพจน์ของรัฐในวันชาติทุกวันที่ 26 ตุลาคม
เป็นท่าอากาศยานหลักของกรุงเวียนนนา เมืองหลวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเขตเวทชาท โดยอยู่ประมาณ 18 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยบริหารจุดหมายปลายทางการบินในแถบยุโรป รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลสู่เอเชีย อเมริกาเหนือ และแอฟริกา
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย