เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
เป็นโบสถ์สวยที่มีสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 9 อันมีชื่อเสียง เพราะหน้าต่างในโบสถ์ประดับด้วยกระจกสีฝีมือศิลปินที่มีชื่อเสียงมากของยุโรปชื่อ MARC CHAGALL รังสรรค์งานศิลปะชิ้นเยี่ยมของโลกไว้ที่โบสถ์นี้
เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์สำคัญๆจำนวนมาก ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก
บ่อหมีนี้สัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น เพราะว่ามีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยผู้ครองเบิร์นในยุคนั้นได้ออกล่าสัตว์ สัตว์ตัวแรกที่ล่าได้ คือ หมี จึงได้ตั้งชื่อเมืองนี้ว่า เบิร์น เบิร์นสามารถอนุรักษ์สัญลักษณ์ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาเป็นไปของเมืองได้ดี บ่อเลี้ยงหมีที่ว่านี่ เป็นหน้า เป็นตา ของเมือง เบิร์น เพราะว่าก่อนที่แขกต่างเมืองจากประเทศไหนๆ เมื่อมาถึงเมืองนี้ ก็ต้องแวะเข้ามาชม เจ้าหมีก่อน เพราะว่าบ่อหมีตั้งอยู่ก่อนเข้าเมือง
เป็นย่านเมืองเก่าของกรุงเบิร์น ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านเสื้อผ้าบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยว
เป็นถนนที่มีระดับสูงที่สุดของเมืองนี้ และเป็นทางผ่านของนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม ที่นี่เต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ
หอนาฬิกาแห่งนี้มีความโดดเด่นในสถาปัตยกรรมการสร้างด้วยความสวยงาม หน้าปัดทำด้วยทองแดงขนาดใหญ่และยังมีหน้าปัดขนาดเล็กอีกหนึ่งเรือนอยู่ด้านล่างภายในหน้าปัดนาฬิกาขนาดเล็กจะ แสดงเวลา วัน เดือน ปี และจักรราศี สร้างเพื่อเป็นประตูเมือง ไฮไลท์ที่ต้องรอชมทุกๆ 5 นาทีก่อนจะครบรอบชั่วโมงคือจะมีตุ๊กกาออกมาเต้นระบำ
เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม และเป็นประตูสู่เทือกเขาแอลป์ มีนาฬิกาดอกไม้ริมทะเลสาบและน้ำพุเป็นสัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ยังเป็นเมืองคมนาคมหลักของทวีปยุโรปอีกด้วย
เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทะเลสาบเจนีวา น้ำพุแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปโดยปริยาย เจ็ตโดมีความสูงกว่า 140 เมตร พุ่งสู่อากาศด้วยความเร็วกว่า 200 กม / ชม. ว่ากันว่าละอองน้ำที่กระจายไปโดยรอบน้ำพุนั้นมีมากกว่า 500 ลิตรต่อวินาทีเลยทีเดียว
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเจนีวาที่ตั้งอยู่ในเขตสวนอิงลิชการ์เดน ดอกไม้รอบๆก็จะเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆตามเทศกาลและฤดูกาล มีชนิด 2 เข็ม และ 3เข็ม ขนาดตั้งแต่ 100-1,000 ซ.ม.หรือมากกว่า และหน้าปัดนาฬิกามีความชันได้ไม่จำกัดองศา สามารถใช้กระแสไฟฟ้าหรือพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ไฟฟ้าดับยังสามารถใช้งานได้ นาฬิกาดอกไม้นี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมีชื่อเสียงของเมืองเจนีวาในเรื่องของอุตสาหกรรมนาฬิกานั่นเอง
เป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา มีความสวยงามโดยธรรมชาติ กับทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศ
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่หญ้ากว้างขวางและต้นไม้อายุเก่าแก่ ตั้งอยู่ในเมืองโลซานน์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริเวณกลางสวนมีศาลาไทย ที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยในต่างแดนแห่งนี้ และยังมีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา ที่ถือเป็นอีกจุดแลนมาร์คของสวน
เป็นศาลาไทยที่ตั้งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะ Parc du Denantou ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีเปิด
เป็นเส้นทางผ่านภูเขาทางตะวันตกของเทือกเขาแอลป์ของสวิสซึ่งเชื่อมระหว่าง Aigle, Le Sépey และ Les Diablerets ในเขต Vaud กับ Gstaad และเป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นไปสู่เขากลาเซียร์ 300 โดยเป็นที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน
เป็นยอดเขาอันสวยงามที่เปรียบเสมือนสวรรค์บนดิน ด้วยระดับความสูง 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวอันสุดงดงามของเทือกเขาแอลป์แบบพาโรนาม่า บนกลาเซียร์ 3000 นี้ยังมีร้านอาหารสุดหรู Botta ที่ออกแบบโดยสถาปนิกรางวัลดีเด่น Mario Botta คอยพร้อมไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเมื่อยามหิวกระหายอีกด้วย
เป็นสะพานแขวนเชื่อมสองยอดเขาด้วยความสูง 3,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตัวสะพานมีความยาว 107 เมตร กว้างแค่ 78 เซนติเมตร อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 เมตร เมื่อยืนชมวิวบนสะพาน สามารถมองเห็นภูเขาที่รายรอบจะสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา สะพานแขวนแห่งนี้เป็นที่แรกของโลก ที่สร้างสะพานเชื่อมต่อกันระหว่างของ 2 ภูเขา สามารถรับน้ำหนักคนที่เดินขึ้นสะพานพร้อมกัน 300 คน แต่จำกัดให้ผู้เดินข้ามสะพานได้พร้อมกันไม่เกิน 150 คน
เป็นเมืองเล็กๆ แสนน่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบแสนสวยที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ริมจุดตะวันออกของทะเลสาบเจเนวา ซึ่งเป็นปราสาทที่ล้อมด้วยน้ำ หรือเรียกได้ว่าเป็นเกาะเล็กซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งสวิสและยุโรป ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคอยเก็บค่าผ่านทางของเรือที่ล่องผ่านทะเลสาบเจนีวา ภายหลังปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นสถานที่ที่ทำให้ Lord Byron เกิดแรงบันดาลใจในการประพันธ์บทกวีโรแมนติกเรื่อง "The Prisoner of Chillon" ซึ่งมาจากชีวิตจริงของ ฟรองซัว เดอ โบนีวาร์ นักเทศน์จากเจนีวา ที่ถูกจองจำอยู่ในปราสาทแห่งนี้และภายหลังได้ถูกปล่อยตัว
เมือนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ความสูง 1,620 เมตรจากระดับน้ำทะเล และสามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน เป็นเมืองเล็กๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของหมู่บ้านสวิสโบราณ เป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับสกีที่ติดอันดับต้นๆ ในเรื่องความสวยงาม และในเรื่องราคาค่าครองชีพที่แพงทั้งๆ ที่เป็นเมืองเล็ก
อิสระให้ท่านเดินเล่น พักผ่อน ช้อปปิ้งภายในเมืองเซอร์แมทกันได้ตามอัธยาศัย
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขต Vaud บนชายฝั่งทางเหนือของทะเลสาบเจนีวาโดยอยู่ใกล้ๆ กับเมืองโลซานน์ นักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่เคยมาเยือนต่างก็ขนานนามให้เมืองเวเว่ย์ เป็น "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส (Pearls of the Swiss Riviera)"
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
เป็นเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในสี่รางรถไฟในโลกที่ยังใช้งานระบบไฟแบบโบราณ มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา
มีความหมายว่า สาวน้อย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ยอดเขาจุงเฟรา มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร และเป็นที่นิยมของนักสกีมาเล่นกีฬาที่ท้าทายที่นี่
เป็นถ้ำน้ำแข็งบนยอดเขาจุงเฟรา ที่ขุดเจาะลงไปใต้ธารน้ําแข็งถึง 30 เมตร ซึ่งว่ากันว่าน้ำแข็งที่อยู่ในไอซ์พาเลซนี้ไม่เคยมีวันละลาย ภายในมีการตกแต่งติดไฟสีสันสวยงามและมีตุ๊กตาแกะสลักน้ําแข็งให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่ด้วย
เป็นลานหอดูดาวซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่ได้รับการตั้งชื่อตามสฟิงซ์ซึ่งเป็นยอดหินที่ตั้งอยู่ จากตรงนี้นักท่อเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเทือกเขาอันงดงงามได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส
เป็นธารน้ำแข็งที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” มีความยาวถึง 22 กิโลเมตร ซึ่งยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย วันที่อากาศดีจากบนยอดเขาจุงเฟราจะสามารถเห็นวิวธารน้ำแข็งนี้ได้อย่างชัดเจน
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
ล่องเรือชมทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ ตัวทะเลสาบมีรูปร่างที่โค้งงอแบบซับซ้อน รอบๆ ทะเลสาบมีเส้นทางการเดินป่ามากมาย รวมทั้งเส้นทางขี่จักรยานพื้นราบ และเส้นทางจักรยานภูเขา
หนึ่งจุดชมวิวสวยๆ ที่ได้รับการยกย่องเป็น ราชินีแห่งภูเขา เพราะสามารถมองเห็นยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ที่ระดับความสูง 1,797 เมตร (5,896 ft)
เป็นรถไฟที่นำพานักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดเขาริกิ หนึ่งในภูเขาขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ข้างบนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบด้าน 360 องศา
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิน และเป็นอนุสาวรีย์สำหรับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น สำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในฝรั่งเศส
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่าง แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิม
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย