เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
นูเรมเบิร์กได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูน ทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง ในหน้าหนาวต้องที่นี่เลย
เดรสเดน มาจากภาษาซอร์เบียโบราณว่า Drežďany แปลว่าชนเผ่าแห่งป่าริมแม่น้ำ ทั้งนี้เพราะเมืองเดรสเดนตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเอลเบอ เป็นเมืองหลวงของรัฐซัคเซิน แต่เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐรองจากไลพ์ซิจ นอกจากนี้ บริเวณเมืองเก่าย่านใจกลางเมืองเดรสเดินยังได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมอีกด้วย
เป็นสถานที่อันโดดเด่นทางด้าน สถาปัตยกรรม และดนตรี ตั้งอยู่ ณ บริเวณจัตุรัสเธียเตอร์ใกล้กับพระราชวังสวิงเกอร์ เป็นโรงโอเปร่าที่ออกแบบในสไตล์บารอค บริเวณอาคารหลังใหม่ด้านหน้าโรงโอเปร่าจะมีรูปปั้นของกษัตริย์โจฮานทงอยู่บนหลังม้า
สวนสวิงเกอร์ (Zwinger) สวนสวยประจำวัง สวนสไตล์ยุโรปที่ได้วิวภูเขาที่สวยงามร่มรื่น
เป็นเมืองหลวงและรัฐหนึ่งในสิบหกรัฐสหพันธ์ของประเทศเยอรมนี มีประชากร 3.4 ล้านคนในเขตเมือง และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และวิทยาการ เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการคมนาคมทางอากาศและทางรางของทวีป
กำแพงเบอร์ลินสัญลักษณ์การพ่ายสงครามโลกครั้งที่สองของเยอรมนี จนต้องเกิดการแบ่งประเทศระหว่างเยอรมันตะวันตก กับตะวันออก และได้รับการขนานนามว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งสงครามเย็น
เป็นชื่อที่ฝ่านพันธมิตรตั้งให้กับทางผ่านกำแพงเบอร์ลิน ในช่วงสงครามเย็น
พระราชวังชาล็อตเทนเบิร์ก เป็นพระราชวังอันสวยงาม เดิมเป็นที่ประทับฤดูร้อนในสมเด็จพระราชินีโซเฟียชาล็อต ต่อมาเมื่อพระราชินี คือพระนางโซเฟีย ชาล็อตได้สวรรคตลง จึงเปลี่ยนชื่อพระราชวังตามชื่อของพระนางเพื่อเป็นการรำลึกถึง นางฟ้าบนยอดปราสาทหมุนได้ ตามแรงลม ดังนั้นแต่ละวันเธอจะหันหน้าไปคนละทิศคนละทางกัน เชื่อว่าถ้าเธอหันหน้ามาทางทิศที่เราอยู่จะ โชคดี
อนุสรณ์สถานถึงจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 หรือเรียกว่า "โบสถ์หัก" โบสถ์เก่าแก่ที่ถูกสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 ต่อมาได้รับความเสียหายจากการโจมตีโดยการทิ้งระเบิด โบสถ์ไกเซอร์-วิลเฮล์ม ถูกสร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่นๆของโบสถ์คือ หอนาฬิกา ที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนซากปรักหักพังของโบสถ์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 ซึ่งหอนาฬิกาแห่งนี้สามารถเรืองแสงได้อีกด้วย
ประตูชัยบราเดนเบิร์ก เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลิน ก่อสร้างตามศิลปะแบบโรมัน สถานที่แห่งนี้ถือเป็นเครื่องหมายแห่งความสงบสุข และมีความสำคัญโดยเป็นจุดแบ่งกรุงเบอร์ลินออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ตะวันออกและตะวันตก ก่อนจะรวมกันใหม่ในภายหลัง
เป็นเมืองหลวงของรัฐบรันเดนบูร์กทางด้านตะวันออกของประเทศเยอรมนี เป็นส่วนหนึ่งของเขตนครเบอร์ลิน พอทสดัมเป็นที่รู้จักจากการเป็นที่ประทับของกษัตริย์ปรัสเซียหลายพระองค์ ส่วนตัวเมืองประกอบไปทะเลสาบเชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมาก และมีภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสวนและพระราชวังพระราชวังซ็องซูซี ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี
เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำแร่ และเป็นเมืองแห่งสปาชั้นดี ที่ในอดีตราชวงศ์ต่างๆ ในยุโรปและรัสเซีย รวมถึงชนชั้นสูงทั้งหลายจะต้องมาที่เมืองนี้ แม้แต่ Beethoven และ Mozart ก็เคยมาเยือนเมืองนี้ด้วย ทำให้เมืองคาร์โลวี วารี เป็นเมืองสปาที่ใหญ่ระดับโลกและมีชื่อเสียงมากที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก และด้วยความสวยงามของอาคารสถานที่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ทำให้ภาพยนต์หลายเรื่องมาถ่ายทำที่นี่
เป็นเมืองหลวงเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Vltava เมืองนี้มีภูมิอากาศแบบมหาสมุทรที่ค่อนข้างอบอุ่นในฤดูร้อนและฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็น ปรากเป็นศูนย์กลางทางการเมืองวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของยุโรปกลางพร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในปี 2017 ปรากได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองในยุโรปที่มีนักท่อเที่ยวมากเป็นอันดับห้า รองจากลอนดอน ปารีส โรม และอิสตันบูล
สะพานเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ สร้างในสไตล์โกธิกที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอม่อค้ำยัน 16 ตอ จุดเด่นของสะพานนี้ก็คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานราว 30 องค์
สถานที่นัดพบของชาวปราก บริเวณโดยรอบล้วนเป็นอาคารและวิหารเก่าแก่อายุกว่า 600-700 ปี ที่มีความงดงามโดดเด่นจน ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้ป็นมรดกโลก
เป็นอนุสาวรีย์ของนักปฏิรูปศาสนา ผู้เป็นวีรบุรุษของชาวเช็ก ผู้ต่อต้านความเหลวแหลกฟุ้งเฟ้อของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก เช่น การที่บาทหลวงชั้นผู้ใหญ่แอบมีภรรยาลับ จนเขาถูกตัดสินประหารชีวิต โดยการเผาทั้งเป็น จึงทำให้ผู้คนลุกฮือต่อต้านอำนาจพวกคาทอลิก มีการจับบาทหลวงโยนลงมาจากหอคอยจนเกิดสงคราม
หอนาฬิกาดาราศาสตร์นี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสเมืองเก่ากลางกรุงปราก นาฬิกาโบราณคู่บ้านคู่เมืองของกรุงปร๊าก เป็นนาฬิกาที่สามารถแสดงข้อมูลทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ หรือกลุ่มดาวจักรราศี
เป็นปราสาทอันสุดอลังการที่สร้างอยู่บนเนินเขา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปราสาทมีการบูรณะเป็นระยะ ภายในกำแพงที่ล้อมปราสาทประกอบด้วยพระราชวัง โบสถ์ วิหาร วัด ถนน อุทยาน และหอคอย บริเวณหน้าปราสาทมีทหารรักษาการณ์แต่งเครื่องแบบงามสง่ายืนเฝ้าอยู่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในโลก
มหาวิหารเซนต์วิตุส เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก การก่อสร้างในช่วงแรกๆ ยังไม่สมบูรณ์ มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายร้อยปี ภายในมหาวิหารประดับกระจกสีอันวิจิตรงดงาม เป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่น่าสนใจก็คือบริเวณแท่นบูชาของเซนต์เวนเซสลาส ที่ตกแต่งด้วยภาพวาดเทคนิคเฟรสโกและอัญมณีมีค่าถึง 1,345 ชิ้น
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหยดน้ำแห่งแคว้นโบฮีเมีย อยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ก ใกล้ชายแดนออสเตรีย มีจุดเด่นคือมีลำธารตัดผ่านเล็กๆ ที่คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว s ทำให้ภูมิทัศน์ตัวเมืองดูเหมือนหยดน้ำที่นี่ ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
เป็นปราสาทที่เป็นแลนมาร์คของเมืองเชสกี้ครุมลอฟ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเช็ก รองจากปราสาทปราก ที่นี่มีหอคอยทรงกลมไว้สำหรับชมวิว มีอายุมากกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของชนชั้นสูง จนปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองไป
เมืองใหญ่ที่สุดในเขตโบฮีเมียใต้นี้เป็นแหล่งกำเนิดเบียร์ Budweiser ขึ้นชื่อในเรื่องของโรงเบียร์ สถาปัตยกรรมยุคกลาง และพิพิธภัณฑ์ จัตุรัสที่มีสถาปัตยกรรมน่าทึ่ง โรงงานเบียร์ พิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่ริมทางต่างรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ในเชสเกบุดเยยอวีตเซ คือเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้น Jihočeský kraj และเป็นเมืองศูนย์กลางการเมืองการปกครอง รวมทั้งการค้าทางภาคใต้ทั้งหมด เบียร์ดังอย่าง Budweiser ก็มีต้นกำเนิดที่เมืองนี้
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เป็นเขตชุมชนโบราณของพวกเคลติก ชนพื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรป ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก้
เป็นทะเลสาบสุดสวยท่ามกลางหุบเขาอันงดงามของพื้นที่ราบสูงออสเตรีย ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดปี มีจุดที่มีความลึกที่สุดอยู่ที่ 125 เมตร
เป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงเดียวในโลกที่อยู่ติดชายแดน ไม่ใช่แค่นั้น เป็นเมืองที่อยู่ติดชายแดนที่ติดสองประเทศเพื่อนบ้าน ณ สามเหลี่ยนชายแดนฮังการี ออสเตรีย และประเทศตัวเองอย่างสโลวาเกียด้วย
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบริเวณย่านเมืองเก่าซึ่งห่างจากสถานีรถไฟเพียง 2 กิโลเมตร บริเวณนี้อาคารย่านเมืองเก่านี้มีหลังคาสีเขียวเป็นสถาปัตยกกรมบารอก และถนนหนทางปูหินแบบเมืองหลวงเก่าของยุโรป
จัตุรัสใจกลางเมืองบราติสลาวา ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่เป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆมากมาย
เป็นปราสาทเก่าแก่ประจำเมืองที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำดานูบบนเนินเขาร็อกกี้ฮิลล์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเมืองบราติสลาวา เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหอคอยสูง 80 เมตร อยู่ทั้ง 4 ด้าน ด้านบนปราสาทเป็นจุดชมทัศนีย์ภาพของเมืองที่สวยงามมาก
เป็นเอาท์เลตภายใต้ยี่ห้อ MacArthurGlen Group ซึ่งเริ่มในอเมริกาเหนือ ถนัดเรื่องการเปิดเอาท์เลตซึ่งขยายมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2546 ภายในเอาท์เลตแห่งนี้จะมีร้านสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ นับร้อยแบรนด์ที่ขายในราคาพิเศษ
เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของมหานครเวียนนา ถูกสร้างขึ้นให้หรูหราเทียบเท่ากับพระราชวังแวร์ซาย มีห้องมากกว่าถึง 1,400 ห้อง ความโดดเด่น ก็คือ สถาปัตยกรรมแบบร๊อกโคโค่ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองอร่าม “เหลืองเทเรซ่า”แม้จะได้ชื่อว่าเลียนแบบมาจากฝรั่งเศส แต่ความอลังการก็สามารถสร้างความตื่นตาให้กับผู้เข้าชม จนได้รับการประกาศจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกในปี1996
เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็นชื่อเขตการปกครองในออสเตรียด้วย เวียนนาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง
เป็นถนนวงแหวนรอบกรุงเวียนนา ที่รายล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จัดวางได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พระราชวังฮอฟบรูก์ กลุ่มอาคารพระราชวังของจักรพรรดิ อิมพิเรียลอพาร์ตเมนท์ หอศิลป์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติ
เป็นโรงละครโอเปร่าที่สร้างขึ้นในระหว่างปี 1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี 1955
เป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของกรุงเวียนนา ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐ เป็นตำหนักที่เคยใช้เป็นสถานที่พักของราชวงศ์ต่างๆ มาก่อนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ.1300 และยังเป็นที่พักของผู้มีอิทธิพลต่างๆ มากมายในออสเตรียมาก่อน
เป็นสถานที่ทำการรัฐบาลของออสเตรีย ตั้งอยู่บนถนนริงสราเช่ส์ในย่าน Innere Stadt ใกล้กับพระราชวังฮอฟเบิร์ก อาคารนี้สร้างเสร็จในปี 1883 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13,500 ตารางเมตร ทำให้เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเวียนนา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของรัฐ โดยเฉพาะพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีแห่งออสเตรียและสุนทรพจน์ของรัฐในวันชาติทุกวันที่ 26 ตุลาคม
สถานที่สำคัญอีกแห่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1872 แล้วเสร็จในปี 1883 ได้รับการออกแบบโดย Friedrich von Schmidt ตัวอาคารเป็นศิลปะสไตล์โกธิคที่สวยสดงดงาม โดดเด่นด้วยยอดแหลมสูงของหอคอย ที่มีความสูงถึง 97.9 เมตร ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนาในปัจจุบัน
เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่มากในกรุงเวียนนา ในสวนสาธารณะแทบทุกที่จะมีรูปปั้นโมสาร์ตประดับอยู่ ทั้งยังมีรูปปั้นกับดอกไม้สีเหลืองและสีแดงประดับรายรอบแล้ว จะทำให้นึกถึงเพลงคลาสสิคของโมสาร์ตขึ้นมาทันที
อนุสาวรีย์ท่านโยฮันส์เป็นรูปปั้นราชาแห่งเพลงวอลซ์เหมือนมีชีวิตอยู่ที่สแตดพาร์ก ในกรุงเวียนนา เป็นคีตกวีชาวออสเตรีย ซึ่งบทประพันธ์เพลงวอลซ์ของเขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ตลอดช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 สเตราส์ได้กลายเป็นราชาเพลงวอลซ์ เนื่องจากได้ปฏิวัติรูปแบบวอลซ์ด้วยการยกระดับเพลงระบำชาวนาอันต่ำต้อย ขึ้นมาเป็นเพลงเพื่อให้ความบันเทิงแก่บุคคลชั้นสูงในราชสำนักฮับส์บวร์กได้
เป็นถนนสายช้อปปิ้งประจำกรุงเวียนนา เมื่อก่อนเป็นถนนสายหลักจากตัวเมืองถึงกำแพงเมือง ชื่อ Strata Carinthianorum แต่ตอนนี้ได้ถูกออกแบบใหม่ตั้งชื่อใหม่ และเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินที่เอาไว้ให้คนเดินช้อปปิ้ง ที่มีร้านค้า ร้านแบรนด์เนมต่างๆ ตลอดสองข้างทาง
เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเวียนนา ซึ่งมีชื่อที่นิยมเรียกกัน Stephansdom เป็นภาษาเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์หลายๆอย่างเกิดขึ้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตรงกลางเป็นโดมที่สวยงามขนาบด้วยหอระฆังที่มีความใหญ่โตทั้งสองด้าน โดยหอระฆังด้านหนึ่งบรรจุระฆังขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการี สามารถชมวิวของเมืองบูดาเปสต์ได้แบบโดยรอบ
เป็นท่าอากาศยานหลักของกรุงเวียนนนา เมืองหลวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเขตเวทชาท โดยอยู่ประมาณ 18 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยบริหารจุดหมายปลายทางการบินในแถบยุโรป รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลสู่เอเชีย อเมริกาเหนือ และแอฟริกา
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย