เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สำคัญทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลวงของแคว้นลิกูเรีย และบริเวณเมืองมีความหนาแน่นประชากรราว 900,000 คน นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Superba อันเนื่องมาจากความรุ่งเรืองในอดีต
เป็นพิพิธภัณฑ์ทางการเดินทางทะเล การเข้าเข้าพิพิธภัณฑ์ + ดูด้านในเรือดำน้ำ ผู้ใหญ่คนละ 16 ยูโร ตั๋วมีหลายแบบให้เลือก ดูราคาตั๋วได้ที่นี่ ด้านนอกอาคารออกแนวโมเดิล ข้างในชั้นแรกก็จะเป็นประวัติของที่นี่ มีเสื้อเกาะและหมวก ปืนใหญ่ สถานที่ใหญ่พอควร เค้าจะทำลูกศรให้เดิน เพื่อจะได้ดูทั่วๆ ไม่วกไปวนมา ห้องนี้จะเป็นเรือจำลองชนิดต่างๆ และก็แผนที่เก่า ทำดีมากเลย คนสมัยก่อนเค้าเจ๋งจริง เห็นแล้วแอบทึงในความสามารถคนอิตาเลี่ยนสมัยโบราณ
เป็นย่านท่าเรือริมน้ำของเจนัวที่คึกคักมีชีวิตชีวาตลอดทั้งวัน ซึ่งถือเป็นพื้นที่อันงดงามบนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในเจนัว สถานที่นี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านช้อปปิ้ง สถานบันเทิงต่างๆ พิพิธภัณฑ์ สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำในทะเล รวมถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป
เป็นเครื่องเล่นสุดสนุกในย่านท่าเรือ Porto Antico ที่ให้บริการลิฟท์แบบพาโนรามาที่นำเสนอมุมมองสุดพิเศษของเมืองเจนัวริมท่าน้ำจากมุมสูงแบบรอบด้าน 360 องศา
เป็นมหาวิหารโรมันคาทอลิกในเมืองเจนัวของอิตาลี ถูกสร้างเพื่ออุทิศให้กับ Saint Lawrence (San Lorenzo) และเป็นที่นั่งของอาร์คบิชอปแห่งเมืองเจนัว มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการสถาปนาโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกลเซียสที่สองในปี 1118 และถูกสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 12 ถึง 15 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคผสมโรมาเนสต์
พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเจนัว จุดประสงค์ของการสร้างนั้นมีเป้าหมายที่แยบยลคือให้เป็นศูนย์กลางทางการเมืองที่ไม่อิงกับ ‘ผู้ทรงอำนาจทางการรบ’ หรืออีกนัยหนึ่งคือ โป๊ป ที่มีอำนาจสูงส่งในทางปกครองและเก็บภาษี พ่วงเกินมาจากเรื่องศาสนา Palazzo San Giorgio จึงเป็นเครื่องหมายแบ่งแยกและคะคานกับ Cattedrale di San Lorenzo อันเป็นมหาวิหารแห่งเจโนว่า ที่ Pope Gelasuis II เป็นผู้ประกอบพิธีเปิดเมื่อร้อยปีก่อนหน้า
เป็นหนึ่งในพื้นที่อาคารสำคัญที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเจนัว ได้ชื่อว่าเป็นตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าแห่งแรกของอิตาลี ต้นกำเนิดของอาคารหลังนี้อยู่ในยุคกลางเมื่อมีการซื้อขายสินค้าและสกุลเงินในพื้นที่ที่อยู่ติดกับท่าเรือ อาคารแห่งนี้จึงเป็นศูนย์กลางการค้าในอดีตที่มีความสำคัญมากของอิตาลี ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่จัดนิทรรศการและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ของเมือง
เป็นประตูสู่เมืองฝั่งตะวันออกของเจนัวที่จะพาท่านไปสู่บ้านของโคลัมบัส เจนนิวาในอดีตมีความรุ่งเรืองถึงขีดสุด จนคราวตกต่ำที่สลับสับเปลี่ยนในช่วงเวลาผันผวน ทำให้มีหลายอย่างเกิดขึ้นที่ Genova และทิ้งร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์ ย้อนกลับไปช่วงสองร้อยกว่าปีหลังการเป็นรัฐอิสระ Genova เจริญรุดหน้าด้านการค้า นำมาซึ่งความมั่งคั่งและความก้าวหน้าทางศิลปะและวิทยาการ ที่ปรากฏเป็นเครื่องสะท้อนความวิไลและให้เห็นภาพการเมืองและการปกครองสมัยนั้น
เป็นพระราชวังขนาดไม่ใหญ่ที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 มีความสวยงามและมีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งในสไตล์ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาตามแบบฉบับของเหล่าขุนนางเจนัว เนื่องจากที่นี่เป็นที่พำนักของเหล่าขุนนางและที่รองรับคณะทูตและคนชั้นสูงจากแคว้นอื่นๆ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
เป็นถนนแคบๆ เส้นหนึ่งที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเจนัว มีความหมายในภาษาอิตาลีคือถนนสายใหม่ ที่นี่นับเป็นถนนสายสำคัญของเมืองมาตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ เป็นที่ตั้งของอาคารเก่าแก่ที่สำคัญของเมืองหลายหลัง ในเดือนกรกฏาคม ปี 2006 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก
เมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดของเจนัว ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น สวรรค์แห่งเมืองท่า สำหรับนักท่องเที่ยวก็ว่าได้ เมืองปอร์โตฟิโน เป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนน่ารัก ภายในตัวเมืองประกอบไปด้วยด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ซึ่งตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มี เรือยอร์ช จอดเต็มไปหมด
ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเจนัว หนึ่งในเขตดินแดนแห่งลิกูเรียขนาบข้างด้วยทะเลกับภูเขาลิกูเรีย เป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงมานานในเรื่องของอากาศที่เย็นสบายจลอดทั้งปี มีชายหาดที่สวยงาม
เป็นแคว้นหนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี มีอาณาเขตส่วนใหญ่ติดต่อกับทะเล ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นแคว้นที่มีพื้นที่น้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 3 มีเมืองหลวงชื่อ เจนัว แคว้นลิกูเรียเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะมีชายหาดที่สวยงาม เมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามและอาหารที่อร่อย
เป็นหมู่บ้านมรดกโลกห้าเเห่ง มีอายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงและน่าสนใจในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัย และเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ชอบการชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของตึกรามบ้านช่องที่ถูกฉาบไว้ด้วยสีสันสะดุดตา
มอนเตรอสโซ เป็นชุมชนแรกที่ก่อตั้งขึ้นในบรรดา 5 หมู่บ้าน และเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และขึ้นชื่อที่สุด เนื่องจากเป็นเพียงหมู่บ้านเดียวที่มีชายหาดให้นักท่องเที่ยวลงไปนั่งเล่นพักผ่อนได้จริง แน่นอนว่าจะคึกคักมากในช่วงหน้าร้อน มอนเตรอสโซแบ่งหมู่บ้านออกเป็น 2 ด้าน หากนับจากสถานีรถไฟ ด้านทิศเหนือเป็นส่วนของบ้านตากอากาศ ร้านรวงเสียส่วนใหญ่ ส่วนทิศใต้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน
เวอร์นาสซา เป็นหมู่บ้านที่ก่อตั้งขึ้นมาพร้อมๆ กับมอนเตรอสโซ เป็นหมู่บ้านที่คงเหลือความเป็นหมู่บ้านชาวประมงสูงสุดในบรรดาทั้ง 5 หมู่บ้าน ว่ากันว่าที่หมู่บ้านนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด และถ้าเดินออกไปทางอ่าว มองย้อนกลับเข้ามาทางด้านซ้ายจะได้เห็นโบสถ์ซานต้ามาร์เกห์ริต้า ซึ่งเป็นหอคอยสีเหลืองรับกับวิวของภูเขาด้านหลังที่เป็นไร่องุ่นสำหรับทำไวน์ พร้อมกับวิวของหมู่บ้านตรงกลาง และเรือประมงที่จอดอยู่ในอ่าวเป็นภาพที่เรียกได้ว่าดังที่สุดของชิงเคว เตเร่
ขอบอกเมืองนี้อยู่บนเขา จะเที่ยวเมืองนี้ต้องเดินขึ้น 375 ขั้น เมืองบนเขาใครพักที่นี่น่ะเดินทางขึ้นชัน มีความเด่นไร่องุ่น
อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338
เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์
ย่านเมืองเก่าของนครฟลอเรนซ์ ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทัศนียภาพที่เทียบได้ยาก
มหาวิหารนี้ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู มหาวิหารฟลอเรนซ์แห่งนี้ยังเป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป ปัจจุบันมหาวิหารอยู่ภายใต้การดูแลของสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกแห่งฟลอเรนซ์
บริเวณจัตุรัสเดลลาซินญอเรียนี้มีรูปแกะสลักแสดงอยู่มากมาย อาทิ รูปแกะสลักเพอร์ซุส วีรบุรุษกรีกโบราณตอนบั่นคอเมดูซ่า รูปแกะสลักเฮอร์คิวลีส และรูปสลัก เป็นต้น
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุด อันดับ8 ของโลก ในบรรดาพิพิธภัณฑ์ศิลปะในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลี
เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของฟลอเรนซ์ มีโค้งสามอันคร่อมแม่น้ำอาโน่ ที่สะท้อนบนผิวน้ำเป็นหนึ่งในภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของฟลอเรนซ์ สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมัน โดยเป็นสะพานเก่าแก่และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป
จตุรัสไมเคิลแองเจลโล เป็นจุดชมวิวมองเมืองเก่าฟลอเร้นซ์ในมุมสูง มีรูปจำลองของ เดวิด สัญลักษณ์ของคนหนุ่มแข็งแรงผู้รักอิสรภาพ ซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์แห่งความเป็นอิสระของเมืองฟลอเรนซ์ รูปแกะสลักของจริงฝีมือของ ไมเคิล แองเจลโล อยู่ที่ Galleria dell'Accademia, Florence
เมืองเนเปิลส์ หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
เมืองปอมเปอีตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเนเปิลส์ ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ถือกำเนิดขึ้นโดยชาวออสกัน ในช่วง 700 ปีก่อนคริสตกาล และถูกผนวกรวมกับอาณาจักรโรมันในช่วง 80 ปีก่อนคริสตกาล เมืองท่าแห่งนี้คือทำเลทองที่เอื้อต่อการทำการค้าและการเกษตร ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟ ทำให้สามารถปลูกต้นองุ่นและมะกอกได้ดี
เป็นพิพิธภัณฑ์ของเมืองปอมเปย์ซึ่งเป็นโบราณสำคัญที่เป็นสถานที่เป็นเหตุเกิดโศกนาฐกรรมที่ภูเขาไฟระเบิดและพรากชีวิตของคนทั้งเมือง โดยที่ร่างของผู้เสียชีวิตนั้นยังคงเป็นรูปมนุษย์อยู่
เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก กษัตริย์เชื้อพระวงศ์จากทั่วแคว้นแดนยุโรป มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ดาราเซเลปบริตี้คนดังจากทุกวงการ ณ ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นที่มีไว้ให้ประกวดประชันความร่ำรวยของพวกเขาเหล่านั้น ร้านสินค้าแบรนด์เนมที่มีอยู่ในโลกนี้ เราสามารถพบเห็นได้ทุกยี่ห้อ ถึงแม้ว่าราคาที่แปะป้ายไว้นั้นจะสามารถทำให้คนอย่างเราๆ ได้แต่อ้าปากค้างก็ตาม
อยู่ตอนเหนือของเกาะคาปรี ปากถ้ำมีรูปร่างคล้ายรูกุญแจ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใต้น้ำ ส่วนที่อยู่เหนือน้ำจะสูงกว่าผิวน้ำเพียง 4 ฟุตเท่านั้น ซึ่งเรือเล็กจะเข้าไปในถ้ำได้เฉพาะเวลาน้ำทะเลลด แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านน้ำเข้ามาจากปากถ้ำ จะทำให้น้ำในถ้ำมีสีฟ้าแปลกตาจึงได้ชื่อว่า”บลู กรอตโต้”
เมืองตากอากาศเล็กๆ ริมอ่าวเนเปิ้ล ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และไล่ระดับลงมาตามความลาดชันจนลงมาถึงระนาบเดียวกันกับหาดทรายสีเทาที่ได้รับการจัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย ณ ด้านบนของตัวเมืองออกสู่อ่าวเนเปิ้ล ที่ฝั่งตรงข้าม เราสามารถมองเป็นภูเขาไฟวิซูเวียสยืนเด่นเป็นสง่าน่าเกรงขาม ภูเขาไฟลูกเดียวกันนี้ที่เมื่อเกือบ 1700 ปีที่ผ่านมาถล่มเมืองปอมเปอีเสียเรียบเป็นหน้ากลอง
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เคยเป็นเพียงแค่หมู่บ้านชาวประมงค์ แต่ในช่วงทศวรรษ1950 ได้มีนักเขียนชื่อดังที่เขียนบทความและดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาที่เมือง และทำให้หมู่บ้านนี้เจริญเติบโตจวบจนปัจจุบัน
เป็นพื้นที่ที่มีทิวทิศน์อันสวยงามและชายหาดที่เงียบสงบในอามาลฟีโคสต์ ทำให้คนมีชื่อเสียงชอบมาพักผ่อน นอกจากนี้เหล่าคนรวยยังนิยมมาใช้บริการโรงแรม ร้านอาหาร และบาร์ในแถบนี้ด้วย เป็นชายฝั่งทางตอนใต้ของคาบสมุทรซอร์เรนตีเน ของประเทศอิตาลี ที่เริ่มตั้งแต่โปซีตาโนทางตะวันตกไปถึงวิเอตริมาเรทางตะวันออก เมืองที่เรียงรายเป็นระยะ ๆ บนชายฝั่งอามัลฟี่
เมืองเล็กๆแสนน่ารักอยู่ในจังหวัดซาเลโน แคว้นแคมพาเนีย ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนผาสูงชันและมี Monte Cerreto เขาสูงตั้งเป็นฉากหลังที่แข็งแรงและตระการตา ทัศนียภาพที่มองจากตัวเมืองนั้นสุดแสนจะบรรยายให้เป็นคำพูดออกมาได้ เนื่องเพราะความงดงามของเทือกเขาสลับซับซ้อนที่โอบกอดตัวเมือง
เข้าชมโบสถ์ประจำเมือง (The Cathedral of Amalfi) ที่สร้างเพื่อระลึกเซนต์แอนด์ดรู การเข้าชมด้านในมีทั้งหมดสี่ส่วนด้วยกัน คือ The Cloister of Paradise, The Basilica of The Crucifix, The Crypt, The Cathedral ชื่นชมศิลปะผสมแบบมัวส์และโรมันเนสก์ด้านนอก ส่วนภายในมีการตกแต่งแบบบาร็อค ชมภาพพระแม่มารีและพระบุตรที่สะกดทุกสายตา ชมสุสานใต้ดินที่สวยงามและแสดงถึงความยิ่งใหญ่สมเป็นโบสถ์ประจำเมือง
เป็นเมืองๆ หนึ่งของแคว้นคัมปาเนีย เป็นเมืองศูนย์กลางการเกษตร และอุตสาหกรรมของแคว้นนี้
อดีตพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์แห่งเนเปิลส์แห่งราชวงศ์บูร์บง หนึ่งในพระราชวังแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นในยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 18 พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ.1997 ในฐานะที่เป็นงานชิ้นเลิศของยุคบาโรก
วาติกันเป็นพื้นที่เอกราชของรัฐ Holy See ที่ตั้งอยู่ภายในกรุงโรมของประเทศอิตาลี วาติกันก่อตั้งขึ้นด้วยสนธิสัญญา Lateran ในปี 1929 เป็นดินแดนที่แตกต่างกันภายใต้ "การครอบครองอย่างเต็มรูปแบบเอกสิทธิ์เฉพาะและอำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาล" ของ Holy See ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศ และความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐอธิปไตยที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
พิพิธภัณฑ์วาติกัน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในนครรัฐวาติกันในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงศิลปะที่สะสมโดยวัดโรมันคาทอริกมาเป็นเวลาหลายร้อยๆ ปี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1929 นครรัฐวาติกันและอิตาลีได้ลงนามสนธิสัญญายอมรับสถานะของนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราชมีอำนาจอธิปไตยของตนเอง
เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามตระการตา เต็มไปด้วยผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมมากมาย ด้านในมีประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ก็แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่มีคุณค่าสำคัญทางศาสนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
เป็นรูปปั้นฝีมือของศิลปินชื่อดัง "ไมเคิลแองเจิลโล" ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นรูปปั้นของพระแม่มารีกำลังอุ้มร่างของพระเยซูที่ล่วงลับไปแล้ว
เป็นสนามประลองรูปไข่ในกรุงโรมที่เกิดขึ้นมาเมื่อเกือบ 2000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงโรม สร้างจากหินปูนแบบ travertine หินภูเขาไฟ และคอนกรีตที่ก่อด้วยอิฐ สามารถเก็บผู้ชมได้ประมาณ 50,000 ถึง 80,000 คนในหลาย ๆ จุดของประวัติศาสตร์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันโคลีเซียมเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดมาแวะถ่ายรูปหากได้มาเยือนกรุงโรม นอกจากนี้้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ใน 7สิ่มหัศจรรย์ของโลกด้วย
ประตูชัยแห่งนี้มีขนาดใหญ่และสภาพสมบูรณ์ที่สุดในกรุงโรม ตั้งอยู่ระหว่างสนามโคลีเซียม และ Palatine Hill ประตูชัยนี้สร้างขึ้นด้วยคอนกรีตสลับกับหินอ่อน เพื่อฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ที่มีชัยชนะเหนือ Maxentius ในสงคราม Battle of Milvian Bridge ในปี 312 ตัวประตูชัยมีความสูง 21 เมตร กว้าง 25.9 เมตร และลึก 7.4 เมตร
อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสเวเนเซีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจัตุรัสสำคัญกลางกรุงโรม กษัตริย์วิกเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 เป็นกษัตริย์พระองค์แรกของอิตาลี ผู้รวมรวมชาติอิตาลีเข้าไว้ด้วยกัน ตัวอนุสาวรีย์จะตั้งอยู่บนเนินเขาแคปปิทอลไลน์ สร้างขึ้นในปี 1895-1911
จตุรัสนาโวนา เป็นอีกจตุรัสที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและสวยที่สุดในกรุงโรม ลานกว้างที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งเจริญตาเจริญใจ มีศิลปินเปิดหมวกมาโชว์การแสดงให้เรามากมาย เรียกได้ว่ามีของอะไรก็ปล่อยกันที่นี่
เป็นน้ำพุที่น้ำนั้นมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ที่ชื่อ Nicola Salvi ที่นี่เป็นน้ำพุรูปลักษณ์แปลกที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
เป็นย่านบันไดที่ติดกับแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม ตั้งอยู่บนพื้นเขาระหว่าง Piazza di Spagna ที่ฐานและ Piazza Trinità dei Monti บันได 135 ขั้น ที่นี่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Francesco de Sanctis และ Alessandro Specchi ในปี 1723 ที่นี่เป็นจุดเดินเที่ยวและถ่ายรูปที่สวยไม่แพ้จุดอื่นในกรุงโรม
รู้จักกันในอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตรนอกจากนี้ ยังเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารคับคั่งมากเป็นอันดับที่ 27 ของโลกใน พ.ศ. 2552 และเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินอัลอิตาเลีย ชื่อของท่าอากาศยานชื่อของเลโอนาร์โด ดา วินชี ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชาชาวอิตาลี ผู้ออกแบบต้นแบบของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องจักรมีปีกบินได้เป็นคนแรกของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย