เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ 7 กิโลเมตรห่างจากใจกลางเมืองลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส เป็นประตูระหว่างประเทศหลักของการเข้าสู่ประเทศโปรตุเกส
เป็นอีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงาม ที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมือง
เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์และแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองลิสบอน หนึ่งในมรดกโลกของยูเนส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 โดยกษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่สอง มีจุดประสงค์เพื่อสร้างเป็นพระราชวังฤดูร้อน จึงสร้างพระราชวังเหนือยอดเขาเมืองซิงตรา มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามสไตล์ “จิตนิยม” การตกแต่งจะสะท้อนออกมาในงานศิลปะแบบภาพวาด ดนตรี และวรรณกรรม พระเจ้าเฟอร์ดินานต้องการตกแต่งพระราชวังให้คล้ายกับโรงละครโอเปราห์ แต่สถาปัตยกรรมนั้นประกอบด้วยศิลปะในหลายรูปแบบ ทั้งอาคารโดมคล้ายกับสุเหร่าของอิสลาม หอนาฬิกาประจำวัง และสีสันที่ถูกแต่งแต้มขึ้น โดยใช้สีแดงกับสีเหลืองเป็นหลัก
เป็นแหลมจุดที่ปลายด้านตะวันตกสุดของทวีปยุโรป อยู่ในเขตเทศบาลเมืองโปรตุเกสของซินตราใกล้ Azóia ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลิสบอน แหลมนี้มีแนวหน้าผาสูงกว่า 100 เมตรและตัดเป็นหินผลึกประกอบด้วยหน่วยตะกอนที่ดูแปลกตา ที่นี่เป็นจุดไฮไลท์สำคัญที่ต้องมาเยือนหากได้มาเที่ยวโปรตุเกส
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของประเทศ ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของคาบสมุทรไอบีเรีย การที่ลิสบอนตั้งอยู่ทางใต้ของทวีปยุโรปและติดกับมหาสมุทร จึงได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม ทำให้ลิสบอนเป็นเมืองหลวงที่มีภูมิอากาศอบอุ่นที่สุดในยุโรป
จัตุรัสการค้า (Praca Do Comercio) ตั้งอยู่ บริเวณเมืองเก่า “โอลด์ซิตี้” และ สร้างขึ้นในสมัยมาร์ควิส เดอ ปอมแปล (Marques Depombal) เป็นนายกรัฐมนตรี ที่กลางจัตุรัสรูปปั้นที่สูงตระหง่านของกษัตริย์โฮเซ่ตั้งเด่นอยู่ ในปี ค.ศ. 1755 เกิดแผ่นดินไหวและไฟไหม้ครั้งใหญ่ ทำให้กรุงลิสบอนได้รับความเสียหายครั้งใหญ่
ย่านไบซาเป็นเขตศูนย์กลางของลิสบอน ประกอบด้วยพลาซ่าอันงดงาม ถนนกว้าง และสถาปัตยกรรม Pombaline อันยิ่งใหญ่ เขตนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเนื่องจากภายในไบซาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่งของลิสบอน พร้อมด้วยร้านอาหารและโรงแรมที่โดดเด่นมากมาย
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของประเทศ ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของคาบสมุทรไอบีเรีย การที่ลิสบอนตั้งอยู่ทางใต้ของทวีปยุโรปและติดกับมหาสมุทร จึงได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม ทำให้ลิสบอนเป็นเมืองหลวงที่มีภูมิอากาศอบอุ่นที่สุดในยุโรป
เป็นวิหารที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดากามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก
หอคอยนี้ตั้งอยู่ในเขตเบเล็ง กรุงลิสบอน เป็นแลนมาร์คของเมืองที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากที่มาท่องเที่ยวในประเทศโปรตุเกส หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1515 เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของวาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม รูปแบบของหอคอยเป็นศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งแต่ครั้งอดีต หอหอยแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นประภาคาร และป้อมปราการที่คอยปกป้องเขตเบเลม
ชิมขนมทาร์ตคัสตาร์ด (Nata de Pasteis) ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าร้อยปี (ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดให้บริการในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี) ทาร์ตไข่ หรือ ทาร์ตโปรตุเกส (Portuguese Tart) นั้นถูกคิดค้นขึ้นโดยแม่ชี ที่ Jerónimos Monastery เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งทำขายเพื่อหาเลี้ยงชีพให้กับคนในโบสถ์ เพราะในยุคนั้นได้เกิดวิกฤตขึ้นเนื่องจากการยกเลิกระบอบอารามหลวง โดยมีชื่อเรียกขนมนี้ว่า Pastel de nata ทำจากแป้งพายกรอบร่วน จากการนวดแป้งเพสตรี้ และข้างในเป็นไส้ที่เกิดจากส่วนผสมของไข่ น้ำตาล ครีม แล้วจึงนำไปอบด้วยกรรมวิธีพิเศษ จนทำให้มีลักษณะหน้าไหม้จากน้ำตาลที่ถูกความร้อนอบจนเกรียม แป้งพายหอมกรอบร่วนกำลังดี สุดท้ายแล้วก็โรยหน้าด้วยชินนามอน
เป็นเขตประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของลิสบอน ตั้งอยู่บนทางลาดระหว่างปราสาทเซนต์จอร์จ และแม่น้ำเทโจ ชื่อของเขตนี้มาจากภาษาอาหรับที่แปลว่าน้ำพุร้อน ลักษณะโดยรวมของที่นี่เป็นเสมือนเขาวงกตแบบง่ายที่มีความงดงามของทางเดินถนนแคบกับจัตุรัสเล็กๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมายรวมถึงบาร์และร้านอาหารดั้งเดิม ที่ได้รับการผระบปรุงและอนุรักษ์ไว้อย่างดี
เป็นพระราชวังที่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของลิสบอน ตั้งอยู่ในเขตประวัติศาสตร์อัลฟามา รอบๆ พระราชวังแห่งนี้เป็นเสมือนป้อมปราการที่แข็งแกร่ง มีหอคอยนับสิบหลังกับกำแพงล้อมรอบ ที่ข้างบนมีทิวทัศน์ของทะเลอันกว้างใหญ่ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสำรวจภายในกษัตริย์โปรตุเกส
ที่นี่เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นถนนที่เชื่อมจากเขตเมืองเก่าผ่าใจกลางเมืองไปสุดทางที่จัตุรัสมาร์ เกส เดอ ปอมบาล ที่มีอนุสาวรีย์ของมาร์เกส เดอ ปอมบาล ยืนโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเสาสูง อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าชื่อดังมากมาย อาทิ LOUIS VUITTON, GUCCI, LOEWE, YSL, ETC. หรือจะเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกที่วางขายเรียงรายบนถนนช้อปปิ้งแห่งนี้
เป็นเมืองระดับเทศบาลในภูมิภาค Oeste ตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตอนใต้ของ Bombarral พื้นที่เมือวตั้งอยู่บนยอดเขาล้อมรอบด้วยกำแพงป้อมปราการ เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ Praia D'el Rey ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟชั้นนำแห่งหนึ่งของยุโรปอีกด้วย
เป็นถนนคนเดินหลักในเมืองออบิโดส ซึ่งเชื่อมต่อประตูหมู่บ้านกับ Paço dos Alcaides ที่สองข้างทางของถนนจะมีร้านค้าเรียงรายขายงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ของที่ระลึก และเหล้าเชอรี่ Ginjinha d’Obidos ที่ควรจะซื้อกลับบ้านเป็นของฝากสักขวด
เป็นเมืองตากอากาศริมชายฝั่งโปรตุเกสในภูมิภาค Oeste และเขต Leiria ในจังหวัด Estremadura หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวริมทะเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแถบซิลเวอร์โคสต์ ซึ่งมีที่พักตากอากาศ ร้านอาหารทะเล เปิดรองรับนักท่องเที่ยวอย่างคึกคัก
เป็นเมืองระดับเทศบาลใน Leiria District ในพื้นที่โปรตุเกสตอนกลาง ชื่อของเมืองหมายถึงการต่อสู้ (Battle) เมืองนี้ก่อตั้งโดยกษัตริย์ D. João I แห่งประเทศโปรตุเกส เพื่อแสดงความเป็นเกียรติต่อชัยชนะของโปรตุเกสในการรบที่อัลจูบาราตาในปี 1385
เป็นเมืองทางเหนือของลิสบอน ห่างไปประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโบสถ์คาทอลิกที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่สร้างเพื่ออุทิศให้กับพระแม่มารี ซึ่งพร้อมยินดีต้อนรับผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวนับล้านจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในวันแสวงบุญในเดือนพฤษภาคมและตุลาคม
โบสถ์แม่พระฟาติมา (The Lady of Fatima Basilica) ซึ่งเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ก่อสร้างในปี 1928 – 1953 ชมรูปปั้นพระแม่มารี ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นหนึ่งในหลายเส้นทางของคริสต์ศาสนิกชนในการแสวงบุญ ที่มีความเชื่อว่าพระแม่มารีได้เคยปรากฏตัวให้เด็กน้อย 3 คนได้เห็นเป็นครั้งแรกที่แอบหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้บอกกับเด็กทั้งสามคนถึงเหตุผลที่พระองค์ลงมาจากสวรรค์ เพื่อให้ลูเซีย ได้บันทึกไว้ถึงคำทำนายและคำสอนของพระแม่มารี ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่ลูเซียได้บันทึกไว้ก็ล้วนเป็นความจริงที่ปรากฏขึ้นมาภายหลัง
เมืองนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ำมอนเดโก (Mondego) ซึ่งสมัยถูกปกครองโดยอาณาจักรโรมันได้รับการเรียกขานว่า เอมีเนียม และได้ถูกยึดครองโดยชาวแขกมัวร์ ในปี ค.ศ.711 และเป็นเมืองที่เชื่อมการค้าระหว่างชาวคริสต์ทางเหนือและชาวมุสลิมทางใต้ จนในปี ค.ศ.1064 กษัตริย์เฟอร์ดินัลที่ 1 แห่งลีออน ได้รบชนะแขกมัวร์และปลดปล่อยเมืองโกอิมบรา
เป็นเมืองเก่าแก่ในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของบรากาในจังหวัดมินโฮ ได้ชื่อว่าเมืองแห่งประวัติศาสตร์และลานน้ำพุ ที่นี่มีหลักฐานที่กล่างถึงการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ - ยุคเหล็ก ด้วยเหตุนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองบราก้าจึงถือได้ว่ามีอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์จำนวนมากแห่งหนึ่งของประเทศโปรตุเกสก็ว่าได้ นอกจากนี้แล้วเมืองบราก้า ยังได้บการขนานนามว่าเป็น "โรมแห่งประเทศโปรตุเกส"อีกด้วย
เมืองปอร์โต้ (Porto) ทางเหนือของประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงถึง “ไวน์ปอร์โต้” ซึ่งเป็นแหล่งไวน์ชั้นดีของคนที่มีรสนิยมในการดื่มไวน์ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองและตั้งอยู่ริมแม่น้ำโดรู และเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ ในปี ค.ศ.1996 อีกด้วย นำท่านชมเมืองมรดกโลกปอร์โต้
มีอีกชื่อว่ามหาวิหารแซ ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองปอร์โต้ มีอายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ João ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกส สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง
เป็นจัตุรัสกลางเมืองปอร์โต้ ที่ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่เป็นที่ทำการของธนาคารและโรงแรม และศาลาว่าการเมือง
ล่องชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำดูว์โร ผ่านชม Cais da Ribeira เรือขนไวน์โบราณ Rabelos ที่จอดเรียงรายให้ชื่นชมความเป็นมาของเมืองนี้และแม่น้ำดูว์โร สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่รุ่งเรืองมากในสมัยที่เป็นท่าเรือโบราณและตลาดค้าขายมาตั้งแต่สองสามร้อยปีก่อน บริเวณนี้จึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดก
เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมที่สุดของเมืองปอร์โต ตั้งอยู่บริเวณฝั่งเหนือของแม่น้ำดูโร เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์ของปอร์โตซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว และเป็นแหล่งรวมบาร์ ร้านอาหารต่างๆ
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโปรตุเกสในเขตบรากา มีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ซึ่งเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่ากษัตริย์องค์แรกของโปรตุเกส Afonso Henriques เกิดขึ้นที่นี่ในช่วงเวลาดังกล่าว เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 2001 จากการเป็นตัวอย่างของเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีของวิวัฒนาการของการตั้งถิ่นฐานในยุคกลางเข้าสู่เมืองสมัยใหม่
เป็นพื้นที่จัตุรัสที่ถือเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ของเมืองกีมาไรส์ ซึ่งย้อนกลับเรื่องราวไปได้ถึงยุคกลาง ตัวจัตุรัสครอบคลุมพื้นที่ 16 เฮกตาร์ บริเวณรอบๆ มีอาคารหลายหลังที่รักษามาอย่างดีตั้งแต่ยุคกลางจนถึงศตวรรษที่ 19 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2001
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองปอร์โต้ไปประมาณ 11 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1945 บนพื้นที่เกษตรกรรมในชื่อสนามบิน Pedras Rubras ชื่อปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาในปี 1990 ตามชื่อนายกรัฐมนตรีโปรตุเกส Francisco de Sá Carneiro เพื่อเป็นการระลึกถึงเขา ซึ่งได้เสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อเขาเดินทางไปสนามบินนี้ในวันที่ 4 ธันวาคม ปี 1980
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย