เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานประจำประเทศตุรกี อยู่ห่างจากตัวเมืองอิสตันบูลเพียง 20 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1912 ในฐานะเป็นสนามบินของกองทัพก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสนามบินพลเรือนในเวลาต่อมา เดิมมีชื่อว่าท่าอากาศยาน Yeşilköy ในปี 1980 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นท่าอากาศยานอิสตันบูลอตาเติร์ก เพื่อเป็นเกียรติแก่ Mustafa Kemal Atatürk ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี
เป็นท่าอากาศยานประจำกรุงบาร์เซโลน่าขอประเทศสเปน ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงบาร์เซโลน่าประมาณ 12 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน และอันดับ 6 ของทวีปยุโรป
เป็นเมืองที่มีประชากรคับคั่งเป็นอันดับ 2 ของสเปนและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมดิเตอเรเนียน มีท่าเรือสำคัญและทีมฟุตบอลชื่อดัง
เป็นประตูชัยประจำเมืองบาร์เซโลนาของประเทศสเปน ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิก Josep Vilaseca i Casanovas ซึ่งตอนนั้นมีจุดประสงค์เพื่อเป็นประตูทางเข้าหลักสำหรับงาน World Fair ในปี 1888 ซุ้มประตูถูกสร้างด้วยอิฐสีแดงในสไตล์นีโอ-มูเดจา ผนังด้านหน้ามีรูปปั้นหินที่เขียน่า Barcelona rep les nacions แปลคือบาร์เซโลน่ายินดีต้อนรับชาวต่างชาติ ด้านข้างของซุ้มประตูมีตัวแกะสลักที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของการเกษตรและอุตสาหกรรม เสาทั้งสองของซุ้มประตูมีลักษณะเป็นค้างคาวแกะสลักด้วยหินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ Jaume I ผู้ปกครองในช่วงเวลานั้น
เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในเขต Ciutat Vella ของบาร์เซโลนา สวนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แห่งเดียวของเมือง มีพื้นที่ 70 เอเคอร์ ภายในสวนมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่นรื่น ทางเดินออกกำลังกาย ทะเลสาบขนาดเล็ก สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ และน้ำพุขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดย Josep Fontserè สวนแห่งนี้ถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาวบาร์เซโลน่า
ที่นี่เป็นสนามฟุตบอลหลักของสโมสรบาร์เซโลน่า ตั้งอยู่ที่เมืองบาร์เซโลนา แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1954 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 1957 มีความจุทั้งสิ้น 98,772 คน
เป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลนา โดยฝีมือการออกแบบของ อันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เรียกว่า โมเดิร์นนิสโม เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็นอาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1882 แม้กระทั้งจนถึงปัจจุบันก็ยังสร้างไม่แล้วเสร๊จ ถึงกระนั้นองค์การยูเนสโก้ ก็ได้จัดให้เป็นมรดกโลก โดยมหาวิหารมีลักษณะสถาปัตยกรรมโดดเด่นแปลกตาไม่เหมือนที่ใดในโลก
บ้านหลังนี้ไม่มีเส้นตรง ตามหลักอาร์ตนูโวของเกาดี้ที่ว่า การสร้างบ้านแบบธรรมชาตินั้น ไม่มีอะไรเป็นเส้นตรง ตึกนี้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1877 แล้วเกาดี้ก็เข้ามาปรับปรุง และ ออกแบบให้ใหม่ โดยหลังคา เกาดี้ออกแบบขึ้นมาเพื่อ เลียนแบบหลังของมังกร ส่วนลายกระเบื้องก็เปรียบได้กับเกล็ด ของมังกรนั่นเอง และที่เห็นแหลมๆ พุ่งขึ้นฟ้าอยู่ข้างๆ หลังมังกร นั้น ก็คือ ดาบของเซนต์จอร์จ นักบุญผู้พิทักษ์เมืองบาร์เซโลน่า
ตึกประหลาด คาซา มิลา คือ ตัวอาคารที่มีผนังโค้งเป็นคลื่น ระเบียงซึ่งมีลักษณะคล้ายถ้ำ และตรงกลางเป็นปล่องลึก ตื่นตากับนานารูปปั้นรูปทรงแปลกตาบนดาดฟ้า พร้อมสัมผัสทิวทัศน์แบบ 360 องศา ตึกประหลาด คาซา มิลา เทียบได้กับ ผาสูงชันที่ชนเผ่าแอฟริกันสร้างเป็นถ้ำที่อยู่อาศัย นับเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของบาร์เซโลนาที่หลายคนให้ความสนใจ
เป็นถนนใจกลางเมืองบาร์เซโลน่า ที่เป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวเพราะความสวยงามของถนน และยังมีร้านขายไส้กรอกและแฮมรสชาติล้ำเลิศแบบต้นตำหรับ
เป็น Concert Hall ในเมืองบาเซโลน่า ที่ออกแบบสไตล์พื้นเมืองแต่สมัยใหม่ ถูกสร้างเมื่อพ.ศ. 2451 เพื่อกลุ่มประสานเสียงที่เล่นบทสำคัญในประวัติศาสตร์ของสเปน
คริสโตเฟอร์โคลัมบัส (Christopher Columbus) ชาวสเปนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เดินทางพบทวีปอเมริกา เป็นคนแรก รูปปั้นนี้อยู่กลางถนน ด้านหน้าบริเวณลานกว้างจะมีรูปปั้นอนุสาวรีย์ ดอน กีโยเต้ (Don Quixote) กับลูกน้องคนสนิท ซานโช (Sancho) ทั้งสองคนคือตัวละครในเรื่อง "สู่ฝันอันยิ่งใหญ่" วรรณกรรมของ มิเกล เดอ เซอร์วองเต ย่านนี้จัดเป็นแหล่งชอปปิ้งอีกเช่นกัน ถัดจาก พล่าซ่า เอสพลานาด (Plaza de Espana) นิดหน่อย ก็จะเดินมาพบกับวิหารเดอโบด์ ซึ่งเป็นหินแกร่งจากอียีปต์ ที่ชาวสเปนสมัยก่อน ขนข้ามน้ำข้ามทะเลมาสร้างเป็นวิหาร ด้านในจะมีรูปแบบโมเดล แท่งหิน และการก่อสร้างวิหารเดอโบด์ ภายในสามารถเข้าชมได้ฟรี
เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองบาร์เซโลนา เมืองหลวงของแคว้นมากนัก นอกจากนี้แล้วบนภูเขามอนต์เซอร์รัตยังเป็นที่ตั้งของ "ซานตามาเรีย เดอ มอนต์เซอร์รัต" อีกหนึ่งอาสนวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,236 เมตร
เป็นอารามอันสวยงามของนักบุญเบเนดิกต์ที่ตั้งอยู่บนภูเขามอนต์เซอร์รัต ภายในประดิษฐานภาพของพระแม่แห่งมอนต์เซอร์รัต อารามนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 11 และบูรณะขึ้นใหม่ระหว่างศตวรรษที่ 19 ละ 20 ซึ่งมีชื่อหมายถึง 'ภูเขาหยัก' ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสำหรับการมีบทบาทสำคัญในชีวิตทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของแคว้นคาตาโลเนีย และเป็นสถานที่พักผ่อนทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของแคว้น ซึ่งยังคงทำหน้าที่มาจนถึงทุกวันนี้
เปนเมืองที่มีความโดดเด่นมากในเรื่องของลักษณะภูมิประเทศที่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหุบเขา ทะเลทราย ป่าหนาทึบ หรือแม้แต่ทุ่งหญ้าและภูเขา ซึ่งสามารถผสมผสานกันระหว่างเมืองและธรรมชาติได้อย่างลงตัว
เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมที่สุดในซาราโกซาของประเทศสเปน จัตุรัสแห่งนี้ถือสถานที่สำหรับการเดินชมเมือง ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วย
“มหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์” หรือที่รู้จักในนาม “ซานตา มาเรีย เดอร์ฟิลลาร์” ตามตำนานสมัยแรกเริ่มของพระศาสนจักรกล่าวไว้ว่า อัครสาวกยาคอบหรือเซนต์เจมส์ ในระยะเริ่มแรกนั้นการเผยแพร่พระธรรมของท่านไม่ได้เกิดผลมากมายนัก จนกระทั่งท่านเห็นพระแม่มารีมาปรากฎเพื่อชักชวนท่านไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในนิมิตนั้น พระนางปรากฎอยู่บนเสาที่ถูกแบกมาโดยหมู่เทพนิกร และเชื่อกันว่าเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกันกับเสาในซาราโกซ่า ต่อมาคริสต์ศาสนิกชนนิยมมากราบไหว้ขอพรจากพระแม่มารีให้หายจากอาการเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก
เป็นพระราชวังอิสลามยุคกลางที่สร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 11 ที่นี่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของราชวงศ์ Banu Hud ในช่วงยุคอาบู ดังกล่าวมีความสำคัญเป็นพิเศษในการเป็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ของสถาปัตยกรรมอิสลามที่อยู่ในสเปน
เมืองเซอโกเบีย (Segovia) เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของสเปน องค์การ UNESCO ยังได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985
เป็นทางน้ำของเมืองซาโกเวียซึ่งสร้างเมื่อกลางศตรวรรษที่1 มีความสูงประมาณ28เมตร และยาวราวๆ14กิโลเมตร เพื่อนำน้ำมาจากแม่น้ำ Frío เป็นทางน้ำโบราณที่สภาพดีเป็นอันดับต้นๆของยุโรป
เป็นมหาวิหารในนิกายโรมันคาทอลิก มีรูปแบบสถาปัตยกรรม เป็นสไตล์โกธิค มหาวิหารแห่งเมืองเซโกเวีย ตั้งอยู่บนจัตุรัสกลางเมืองเซโกเวีย
หลายคนเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทแห่งเทพนิยาย เพราะความสวยสง่างามที่มองเห็นได้จากภายนอก ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงที่แม่น้ําสองสายไหลมาบรรจบกัน ปราสาทแห่งนี้ได้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 แล้วได้รับการต่อเติมในศตวรรษที่ 15 และ 16 ภายในปราสาทได้จัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์สําหรับแสดงของมีค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งหลาย
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน กรุงมาดริดเป็นหนึ่งเมืองใหญ่ในยุโรปที่มีจำนวนของต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวต่อประชากรสูงที่สุด และถือได้ว่ายังเป็นเมืองสีเขียวอันดับสองของโลกรองจากโตเกียวอีกด้วย ชาวมาดริดส่วนใหญ่มักจะใช้สวนสาธารณะหรือพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ ในการเดินโดยเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน ซึ่งตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นไม้และสวนสาธารณะนั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16
สนามซานเตียโก เบร์นาเบว เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในกรุงมาดริดของประเทศสเปน เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดเริ่มเปิดใช้สนามเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1944 เดิมมีชื่อว่าเอสตาดีโอชามาร์ติน (ESTADIO CHAMARTÍN) ตามชื่อของสนามเดิมของสโมสร เปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 1947 เรอัลมาดริดได้ประกาศใช้ชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ เอสตาดีโอซานเตียโก เบร์นาเบว เมื่อวันที่ 4 มกราคม 1955 เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสโมสรคือ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต
ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1599 ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตั้งตระหง่านทางตะวันออกของใจกลางกรุงมาดริด
ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ ของเมืองและอาคารสวยงามใกล้ๆ กันคือ ที่ทำการไปรษณีย์ ผ่านประตูชัยอาคาล่า (Puerta de Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส สวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง อุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล และมีอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ
อนุสาวรีย์ดอน กิโฮเต้ (don quixote sculpture) ภาพของวีรบุรุษขี่ม้าที่ในละครบอกว่าเป็นม้าหย็องกรอด ชื่อของมันคือ โรสินันเต้ หรือ “ม้าที่เคยทุร–ลักษณ์” แต่เขากลับภูมิใจที่จะขี่มันไปทุกที่ เพื่อต่อสู้กับเหล่าอธรรม ข้างๆกัน รูปปั้น ซานโช่ ปานซ่า ชาวนาพุงพลุ้ยที่อ่านหนังสือไม่ออก แต่ยอมติดตามดอน กิโฮเต้ ด้วยหลงเชื่อว่าจะได้เป็นผู้ปกครองดินแดนที่มีน้ำล้อมรอบ ดอน กิโฮเต้ และ ซานโช่ เดินทางไปด้วยกันตลอด แม้โกรธเคืองกันสักกี่ครั้งกี่หนก็กลับมาคืนดีกันเสมอ เพราะเหตุที่ทั้งคู่มีสิ่งหนึ่งที่คนอื่นไม่มี นั่นคือ การเชื่อในกันและกัน และการเคารพยกย่องอีกฝ่ายอย่างจริงใจ
เป็นมหาวิหารคาทอลิกในกรุงมาดริดประเทศสเปน เป็นที่ตั้งของอัครสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกแห่งมาดริด ที่นี่เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ประมาณปี 1950 และได้รับการสถาปนาโดยสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่สองในปี 1993 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคยุคฟื้นฟู
เป็นเมืองและเขตเทศบาลหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศสเปน โดยเป็นเมืองหลักของจังหวัดโทเลโดและของแคว้นคาสตีล-ลามันชา องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย
เป็นคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่สำคัญของเมืองโทเลโด้ โดยเป็นที่ทำการของอัครสังฆมณฑลประจำเมือง ที่นี่เป็นหนึ่งในสามมหาวิหารกอธิคระดับสูงในศตวรรษที่ 13 ในสเปนในช่วงภายใต้การปกครองของเฟอร์ดินานด์ที่ 3 ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อท้องถิ่นว่า Dives Toletana (หมายถึง The Rich Toledan ที่แปลว่า "โทเลโด้อันรุ่งโรจน์" ในภาษาละติน)
เป็นปราสาทที่มีลักษณะเป็นป้อมปราการหินตั้งอยู่บนที่พื้นสูงในเมืองโทเลโด้ของสเปน ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้เป็นพระราชวังโรมันในศตวรรษที่ 3 และได้รับการบูรณะภายใต้พระเจ้าชาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โดยสถาปนิกอลอนโซ่ ที่นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของป้อมปราการสี่เหลี่ยมที่มีหอคอยอยู่ตรงมุม ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานกองทัพและพิพิธภัณฑ์ทหารบกประจำเมือง
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน กรุงมาดริดเป็นหนึ่งเมืองใหญ่ในยุโรปที่มีจำนวนของต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวต่อประชากรสูงที่สุด และถือได้ว่ายังเป็นเมืองสีเขียวอันดับสองของโลกรองจากโตเกียวอีกด้วย ชาวมาดริดส่วนใหญ่มักจะใช้สวนสาธารณะหรือพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ ในการเดินโดยเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน ซึ่งตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นไม้และสวนสาธารณะนั้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16
ที่นี่มีลักษณะโค้งครึ่งวงกลมหรือพระจันทร์เสี้ยว สร้างขึ้นเมื่อปี 1929 เพื่องาน Iberian-American Expo โดยเฉพาะ ตัวอาคารรวบรวมลักษณะเด่นทั้งหมดของสถาปัตยกรรมสเปนเอาไว้ โดยเฉพาะการประดับตกแต่งอาคารด้วยกระเบื้องเคลือบ ซึ่งทำให้ดูสวยงามและแปลกตากว่ายุโรปภูมิภาคอื่น
เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และแหล่งชุมชนเก่ากลางกรุงมาดริด มีอายุราว 300 กว่าปี ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างทหารนโบเลียน กับ ชาวบ้าน และที่แห่งนี้ยังใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ เช่น ศาลสอบสวนทางศาสนา ราชาภิเษก แข่งกีฬา จุดขุมนุมทางการเมือง และอื่นๆ
ที่นี่เป็นลานกว้างค่อนข้างที่จะคึกคัก เพราะมีผู้คนสันจรเดินทางผ่านไปผ่านมามากมาย จุดสังเกตง่ายๆ เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็คือ รูปปั้นหมีตะกายต้นสตอว์เบอร์รี่ ซึ่งมักใช้เป็นจุดนัดพบของชุมชนคนเมืองแห่งนี้
เป็นถนนที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริดของประเทศสเปน บางครั้งก็ถูกเรียกว่า "Spanish Broadway" ถนนเส้นนี้ถือเป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญที่สุดของเมืองที่มีโรงแรมจำนวนมาก มีศูนย์การค้า และโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ถนนดังกล่าวยังถือเป็นพื้นที่สถาปัตยกรรมฟื้นฟูยุคต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย
ท่าอากาศยานมาดริดอยู่ห่างจากเมืองมาดริดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 12 กม. (8 ไมล์) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 รองรับการเป็นประตูสำคัญในการเข้าออกประเทศของสเปนและภูมิภาคยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของไอบีเรีย, แอร์นอสทรัม และแอร์ยูโรปา
เป็นท่าอากาศยานประจำประเทศตุรกี อยู่ห่างจากตัวเมืองอิสตันบูลเพียง 20 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1912 ในฐานะเป็นสนามบินของกองทัพก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสนามบินพลเรือนในเวลาต่อมา เดิมมีชื่อว่าท่าอากาศยาน Yeşilköy ในปี 1980 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นท่าอากาศยานอิสตันบูลอตาเติร์ก เพื่อเป็นเกียรติแก่ Mustafa Kemal Atatürk ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย