เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
หรือเรียกโดยทั่วไปว่า ท่าอากาศยานรัวซี (Roissy) ตั้งอยู่ที่เขตรัวซี กรุงปารีส ฝรั่งเศส อยู่ห่างจากตัวเมืองปารีสไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร นับเป็นประตูสำคัญในการเดินทางเข้าออกประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินแอร์ฟรานซ์ด้วย
เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่สวยงามอลังการแห่งหนึ่งของโลก และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย แถมองค์การยูเนสโกยังประกาศให้เป็นมรดกโลกมาถึง 30 ปีแล้ว ด้วยว่ามีความงามเป็นเลิศทางศิลปะยุคศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันก็เป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
เป็นจุดยอดนิยมในการชมวิวและถ่ายรูปร่วมกับหอไอเฟล ซึ่งสามารถมองเห็นตัวหอไอเฟลได้ทั้งหมดอย่างชัดเจน จัตุรัสนี้ออกแบบโดยเลอโนตร สถาปนิกผู้ริเริ่มสร้างเมืองแวร์ซายส์ให้พระเจ้าหลุยส์ที่14 เป็นจุดสำคัญของเมืองปารีส เพราะสามารถเดินเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจรอบๆ ได้อย่างเพลิดเพลินใจและยังได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมด้วย
เป็นหอคอยเหล็กตั้งอยู่ที่ Champ de Mars ในกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส หอคอยแห่งนี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
ล่องเรือในแม่น้ำแซนน์ ที่เป็นแม่น้ำสายหลักทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวสูงสุดแห่งหนึ่งในกรุงปารีสอีกด้วย
เป็นอนุสรณ์สถานสำคัญแห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม จัตุรัสแห่งดวงดาว อยู่ทางทิศตะวันตกของชองป์-เซลิเซ่ส์ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีถึงวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย
เป็นถนนสายที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของปารีส และเป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา ซึ่งถือว่าเป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในปารีส สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม ถนนสายใหญ่เส้นนี้มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องไปทั่วโลก เป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่สำหรับช้อปปิ้งและชมผู้คนเดินผ่านไปมา ด้วยความเฉิดฉายและแหวกแนว สะดุดตาในเวลาเดียวกัน
เป็นรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงที่ใช้เดินทางจากเมืองดียองเข้าสู่นครปารีส นับว่าเป็นเส้นทางการเดินทางที่เร็วที่สุดเพื่อเข้านครปารีส
เป็นเมืองในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ติดชายแดนประเทศเยอรมนี ทำให้ที่ประวัติศาสตร์อันยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศที่นี่
ตั้งอยู่บนแกรนด์ อีล ที่แม่น้ำแยกออกเป็นคลองและผ่านพื้นที่เล็กๆ คือบ้านสมัยยุคกลาง บ้านครึ่งไม้ และอาคาร หินทราย ลักษณะหมู่บ้านมีสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคในยุคกลาง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่สิบห้า ที่นี่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกในปี 1988 บ้านเรือนในยุคกลางนี้ได้รับการบูรณะให้อยู่ในสภาพดีทาสีสดใสหลาก หลายสีสันสลับสับ เปลี่ยนกันไปเรียงรายอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำอิล
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
เป็นพื้นที่ชนบทที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางขึ้นยอดเขาจุงเฟราที่สำคัญจุดหนึ่ง มีโรงแรมและรีสอร์ทตากอากาศอยู่หลายแห่งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามไม่แพ้พื้นที่รอบๆ
เป็นเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในสี่รางรถไฟในโลกที่ยังใช้งานระบบไฟแบบโบราณ มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา
มีความหมายว่า สาวน้อย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ยอดเขาจุงเฟรา มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร และเป็นที่นิยมของนักสกีมาเล่นกีฬาที่ท้าทายที่นี่
Alpine Sensation มีลักษณะเป็นทางเดินห้องจัดนิทรรศการแสงสีสวยๆ ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และชีวิตของผู้บุกเบิกและผู้คนที่เคยอยู่ในแถบนี้
มีห้องจัดแสดงการทำช็อคโกแลตของลินด์ท ในห้องนี้ได้จำลองครัวขนาดย่อมๆ ที่โชว์การทำช็อคโกแลต แถมยังมีภาพเสมือนจริงที่เหมือนมีพ่อครัวมาทำช็อคโกแลตให้ท่านชมอยู่ตรงหน้า
เป็นลานหอดูดาวซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่ได้รับการตั้งชื่อตามสฟิงซ์ซึ่งเป็นยอดหินที่ตั้งอยู่ จากตรงนี้นักท่อเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเทือกเขาอันงดงงามได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส
ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เช่น น้ำตกทรุมเมลบาค อยู่ในภูเขาวนวนเป็นเกลียว เกิดจากธารน้ำแข็งมี 10 ชั้น และน้ำตก Staubbach น้ำไหลแรงและเย็นมากๆ เห็นมีฝูงแกะที่เขาเลี้ยงอยู่รอบๆ ส่วนถนนในหมู่บ้านของเมืองมีเส้นดียวขนานไปกับช่องเขา
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆ ดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
เวนิส หรือ เวเนเซีย (Venice Mestre) ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกให้เวนิสเป็นหนึ่งในเมือง มรดโลก
จัตุรัสซานมาร์โคได้รับการประกาศเป็น ห้องวาดภาพของโลก ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ดีที่สุดสำหรับการนั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับช่วงบ่ายที่แสนสบายในเวนิส ภายในบริเวณมีร้านกาแฟกลางแจ้งที่ตั้งกระจายอยู่ริมทางเดินในจัตุรัส เช่นเดียวกับอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบนอก
เป็นโบสถ์ประจำเมืองเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซานมาร์โค ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และความมั่งคั่งของเวนิส
เป็นพระราชวังสไตล์เวนิสโกธิค เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 แต่เกิดเพลิงไหม้และได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมในระหว่างศตวรรษที่ 14 และ 15 ภายในพระราชวังงดงามด้วยการประดับทองคำและภาพจิตรกรรมมากมายโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ตั้งอยู่ในลานซานมาร์โค ในเมืองเวนิสประเทศอิตาลี สร้างอิฐสี่เหลี่ยมเรียงกันเป็นชั้นๆ เหนือขึ้นไปมีระเบียงล้อมรอบหอระฆัง หอระฆังแห่งนี้คือหนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดของเมือง
เป็นสะพานหินปูนสีขาวในเวนิสที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอจ ซึ่งวังแห่งนี้มีคุกขังนักโทษอันน่าสะพรึงขวัญอยู่ชั้นใต้ดินโดยถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองนี้เพื่อเข้าสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานก่อนที่จะหมดอิสรภาพ
หนึ่งในเมืองยุคกลางที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและชาวต่างชาติ ด้วยชื่อเสียง ในเรื่องความสวยงาม และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดคือ "Alma Mater Studiorum" นั่นจึงส่งผลให้เมืองโบโลญญาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนามากที่สุดในอิตาลีอีกด้วย
จัตุรัสขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโบโลญญา สร้างมาตั้งเเต่สมัยที่โรมันเรืองอำนาจเเละเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในเมืองเเห่งนี้ เพราะมันล้อมรอบไปด้วยอาคารยุคกลางที่มีความสำคัญเก่าเเก่เเละสวยงามอย่างโบสถ์ซาน เปโตรนิโอ, ซิตี้ฮอล, ลานน้ำพุเทพเนปจูน เเละอาคารปาลาซโซ เดล โพเดสตา เเละมีร้านอาหารเเละร้านค้ามากมายในจัตุรัสเเห่งนี้ จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการมาใช้เป็นจุดนัดพบเเละจุดเริ่มต้นในการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองโบโลญญา
ที่นี่เป็นเอาท์เลตที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม McArthurGlen ที่มีอยู่หลายๆ ที่ในภูมิภาคยุโรป ตั้งอยู่ห่างฟลอรนซ์ไปทางเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาเองได้อย่างง่ายดายด้วยรถยนต์หรือรถประจำทาง ภายในเอาท์เลตสินค้าแบรนด์เนมทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋า และอีกมากมาย
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซา อยู่ในแคว้นทัสกานี ฝั่งแม่น้ำอาร์โน ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร
หอนี้ตั้งอยู่ที่เมืองปีซ่า ประเทศอิตาลี เป็นหอคอยสร้างด้วยหินอ่อน สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 176 ปี ตามประวัติกล่าวว่า ขณะก่อสร้างเสร็จ ฐานทรุดไปข้างหนึ่ง จะเป็นด้วยการคำนวณผิดพลาดหรือประการใดก็ไม่ทราบ เมื่อวัดปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 18 ฟุต แต่กระนั้นก็ยังไม่ล้ม ยังเอียงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม ของประเทศอิตาลีนั่นเอง เมืองฟลอเรนซ์ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆของโลก
จตุรัสไมเคิลแองเจลโล เป็นจุดชมวิวมองเมืองเก่าฟลอเร้นซ์ในมุมสูง มีรูปจำลองของ เดวิด สัญลักษณ์ของคนหนุ่มแข็งแรงผู้รักอิสรภาพ ซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์แห่งความเป็นอิสระของเมืองฟลอเรนซ์ รูปแกะสลักของจริงฝีมือของ ไมเคิล แองเจลโล อยู่ที่ Galleria dell'Accademia, Florence
มหาวิหารนี้ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู มหาวิหารฟลอเรนซ์แห่งนี้ยังเป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป ปัจจุบันมหาวิหารอยู่ภายใต้การดูแลของสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกแห่งฟลอเรนซ์
เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของฟลอเรนซ์ มีโค้งสามอันคร่อมแม่น้ำอาโน่ ที่สะท้อนบนผิวน้ำเป็นหนึ่งในภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของฟลอเรนซ์ สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมัน โดยเป็นสะพานเก่าแก่และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป
Piazza del Duomo ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Catania สามารถเดินไปถึงได้จากสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ของเมือง
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี นอกจากนี้โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย
วาติกันเป็นพื้นที่เอกราชของรัฐ Holy See ที่ตั้งอยู่ภายในกรุงโรมของประเทศอิตาลี วาติกันก่อตั้งขึ้นด้วยสนธิสัญญา Lateran ในปี 1929 เป็นดินแดนที่แตกต่างกันภายใต้ "การครอบครองอย่างเต็มรูปแบบเอกสิทธิ์เฉพาะและอำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาล" ของ Holy See ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศ และความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐอธิปไตยที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
เป็นลานวงกลมขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันอันงดงามที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของนครรัฐวาติกัน ในกรุงโรม อย่าง มหาวิหาร St. Peter’s Basilica ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์หรือมหาวิหารนักบุญเปโตร ในนครรัฐวาติกัน สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสถานที่ฝังศพของนักบุญเปโตร สมเด็จพระสันตะปาปาองค์แรกแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก
เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามตระการตา เต็มไปด้วยผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมมากมาย ด้านในมีประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ก็แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่มีคุณค่าสำคัญทางศาสนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
เป็นสนามประลองรูปไข่ในกรุงโรมที่เกิดขึ้นมาเมื่อเกือบ 2000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงโรม สร้างจากหินปูนแบบ travertine หินภูเขาไฟ และคอนกรีตที่ก่อด้วยอิฐ สามารถเก็บผู้ชมได้ประมาณ 50,000 ถึง 80,000 คนในหลาย ๆ จุดของประวัติศาสตร์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันโคลีเซียมเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดมาแวะถ่ายรูปหากได้มาเยือนกรุงโรม นอกจากนี้้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ใน 7สิ่มหัศจรรย์ของโลกด้วย
เป็นจุดนัดพบทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกห้อมล้อมด้วยซากอาคารต่างๆ คาดว่าเมื่อก่อนถูกใช้เป็นตลาดหรือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าเมื่อสมัยยุคโรมัน
เป็นน้ำพุที่น้ำนั้นมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ที่ชื่อ Nicola Salvi ที่นี่เป็นน้ำพุรูปลักษณ์แปลกที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
เป็นย่านบันไดที่ติดกับแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม ตั้งอยู่บนพื้นเขาระหว่าง Piazza di Spagna ที่ฐานและ Piazza Trinità dei Monti บันได 135 ขั้น ที่นี่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Francesco de Sanctis และ Alessandro Specchi ในปี 1723 ที่นี่เป็นจุดเดินเที่ยวและถ่ายรูปที่สวยไม่แพ้จุดอื่นในกรุงโรม
รู้จักกันในอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตรนอกจากนี้ ยังเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารคับคั่งมากเป็นอันดับที่ 27 ของโลกใน พ.ศ. 2552 และเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินอัลอิตาเลีย ชื่อของท่าอากาศยานชื่อของเลโอนาร์โด ดา วินชี ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชาชาวอิตาลี ผู้ออกแบบต้นแบบของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องจักรมีปีกบินได้เป็นคนแรกของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย