เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเบียร์เยอรมัน ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมนี เป็นจุดเริ่มต้นและจุดศูนย์กลางของการเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆในยุโรป
สนามบอลของเมืองมิวนิค ซึ่งเป็นฐานทัพของทีมฟุตบอลประจำเมืองชื่อบาเยิร์นมิวนิค มีฉายาว่าห่วงยางเพราะทรงของสนามจากด้านนอก
เป็นนิทรรศการถาวรของรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 120 คันและเครื่องยนต์ต่างๆที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ BMW
ถนนแมกซิมิเลียน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ และเป็นที่ตั้งร้านขายของแบรนด์เนมราคาแพง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว
ที่นี่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของการนัดพบในนครมิวนิค มีศาลาว่าการของเมืองแห่งใหม่ เป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ Mariensaule รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเขาสูงศาลาว่าการเมืองใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ หอระฆัง Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ
เป็นศาลาว่าการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิวนิค บริเวณจัตุรัส Marienplatz ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยคนเดินถนน นักแสดงเปิดหมวก และกรุ๊ปทัวร์มากมาย นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ฮิตในการรวมตัวกันประท้วงแบบอหิงสา และฉลองชัยเมื่อทีมฟุตบอลท้องถิ่นแข่งขันชนะ
เป็นโบสถ์พระแม่มารีทรงหัวหอมคู่ สร้างด้วยอิฐสีแดง สูง 99 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิค นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปถึงข้างบนจะได้ชื่นชมกับวิวโดยรอบของเมืองมิวนิค ตัวโบสถ์สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1468 แต่ถูกทำลายอย่างย่อยยับในสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับบูรณะในปี 1953 สิ่งที่น่าชมเมื่อเดินทางมาถึง คือ แท่นบูชาที่ตกแต่งอย่างหรูหรา โออ่า และรอยเท้าปีศาจ (Devil's Footprint)
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางแคว้นบาวาเรียตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งจะติดกับชายแดนออสเตรีย เมืองฟุสเซ่นนั้น เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงามของบ้านเรือนและโรงแรมที่พักซึ่งแต่ล่ะแห่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านชวานเกาใกล้เมืองฟึสเส็นทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนี เป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียประทับเมื่อยังทรงพระเยาว์ ตัวปราสาทสร้างบนซากปราสาทชวานสไตน์เดิมซึ่งกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปราสาทเดิมสร้างโดยครอบครัวของอัศวิน หลังจากการยุบเลิกระบบอัศวินในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ตัวปราสาทก็เสื่อมโทรมลงจนเหลือแต่ซากเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19
เป็นหนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน อินส์บรูคแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบๆ ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์
เป็นถนนสายหลักของเมืองอินน์สบรูก ที่เชื่อมต่อกันระหว่างเขตเมืองเก่า กับย่านช้อปปิ้งสมัยใหม่ของเมือง
เป็นอาคารสัญลักษณ์ของเมืองอินส์บรูก ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารที่หลังคาของระเบียงถูกประดับด้วยกระเบื้องทองแดงเคลือบทอง
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของออสเตรีย มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ได้ชื่อว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบารอค ดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือเก่ามาแต่โบราณ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำ The sound of Music และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองชายแดนก่อนจะข้ามไปบาวาเรียของเยอรมณี เรียกว่าเป็นระยะทางแค่ปาหินไปถึง
เป็นบ้านเกิดของโมสาร์ทจริงๆ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนสภาพกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่สนใจได้สัมผัสโลกของศิลปินเอกพร้อมทั้งสัมผัสรูปปั้นโมสาร์ทแบบใกล้ชิด
เป็นถนนการค้าชื่อดังที่สุดของซาลซ์บูร์ก ที่เป็นที่รู้จักด้วยอาคารบ้านเรือนหน้าแคบจากสมัยกลาง รวมถึงบ้านเกิดและพิพิธภัณฑ์โมสาร์ท ซึ่งถนนช้อปปิ้งนี้เป็นย่านการค้าสำคัญของเมืองมาตั้งแต่ยุคกลาง ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว จุดเด่นของร้านค้าบนถนนเส้นนี้คือป้ายเหล็กที่แสดงสัญลักษณ์ของร้านที่แขวนไว้เหนือทางเข้าแต่ละร้านจะมีรูปแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัว
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เป็นเขตชุมชนโบราณของพวกเคลติก ชนพื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรป ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก้
เป็นทะเลสาบสุดสวยท่ามกลางหุบเขาอันงดงามของพื้นที่ราบสูงออสเตรีย ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดปี มีจุดที่มีความลึกที่สุดอยู่ที่ 125 เมตร
เป็นถนนเลียบทะเลสาบระยะทางประมาณ 300 เมตร อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า และดอกไม้หลากสีสันสวยงาม
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหยดน้ำแห่งแคว้นโบฮีเมีย อยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ก ใกล้ชายแดนออสเตรีย มีจุดเด่นคือมีลำธารตัดผ่านเล็กๆ ที่คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว s ทำให้ภูมิทัศน์ตัวเมืองดูเหมือนหยดน้ำที่นี่ ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
เป็นปราสาทที่เป็นแลนมาร์คของเมืองเชสกี้ครุมลอฟ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเช็ก รองจากปราสาทปราก ที่นี่มีหอคอยทรงกลมไว้สำหรับชมวิว มีอายุมากกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของชนชั้นสูง จนปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองไป
เป็นเมืองหลวงเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Vltava เมืองนี้มีภูมิอากาศแบบมหาสมุทรที่ค่อนข้างอบอุ่นในฤดูร้อนและฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็น ปรากเป็นศูนย์กลางทางการเมืองวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของยุโรปกลางพร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในปี 2017 ปรากได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองในยุโรปที่มีนักท่อเที่ยวมากเป็นอันดับห้า รองจากลอนดอน ปารีส โรม และอิสตันบูล
เป็นปราสาทอันสุดอลังการที่สร้างอยู่บนเนินเขา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปราสาทมีการบูรณะเป็นระยะ ภายในกำแพงที่ล้อมปราสาทประกอบด้วยพระราชวัง โบสถ์ วิหาร วัด ถนน อุทยาน และหอคอย บริเวณหน้าปราสาทมีทหารรักษาการณ์แต่งเครื่องแบบงามสง่ายืนเฝ้าอยู่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในโลก
มหาวิหารเซนต์วิตุส เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก การก่อสร้างในช่วงแรกๆ ยังไม่สมบูรณ์ มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายร้อยปี ภายในมหาวิหารประดับกระจกสีอันวิจิตรงดงาม เป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่น่าสนใจก็คือบริเวณแท่นบูชาของเซนต์เวนเซสลาส ที่ตกแต่งด้วยภาพวาดเทคนิคเฟรสโกและอัญมณีมีค่าถึง 1,345 ชิ้น
สะพานเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ สร้างในสไตล์โกธิกที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอม่อค้ำยัน 16 ตอ จุดเด่นของสะพานนี้ก็คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานราว 30 องค์
ประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338หาซื้องานศิลปะจากศิลปินอิสระ แล้วเชิญท่านช้อปปิ้งเครื่องแก้วโบฮีเมียนคริสตัลที่มีชื่อเสียงของสาธารณะรัฐเชค
เป็นศาลาว่าการเมืองหลังเก่าที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ของปราสาทแห่งกรุงปรากตรงบริเวณจัตุรัสเมืองเก่า มีลักษณะเป็นอาคารสูงที่มีหอนาฬิกาอยู่ด้านบน
หอนาฬิกาดาราศาสตร์นี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสเมืองเก่ากลางกรุงปราก นาฬิกาโบราณคู่บ้านคู่เมืองของกรุงปร๊าก เป็นนาฬิกาที่สามารถแสดงข้อมูลทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ หรือกลุ่มดาวจักรราศี
เป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงเดียวในโลกที่อยู่ติดชายแดน ไม่ใช่แค่นั้น เป็นเมืองที่อยู่ติดชายแดนที่ติดสองประเทศเพื่อนบ้าน ณ สามเหลี่ยนชายแดนฮังการี ออสเตรีย และประเทศตัวเองอย่างสโลวาเกียด้วย
เป็นปราสาทเก่าแก่ประจำเมืองที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำดานูบบนเนินเขาร็อกกี้ฮิลล์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเมืองบราติสลาวา เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหอคอยสูง 80 เมตร อยู่ทั้ง 4 ด้าน ด้านบนปราสาทเป็นจุดชมทัศนีย์ภาพของเมืองที่สวยงามมาก
ประตูไมเคิล ซุ้มประตูไมเคิลก่อสร้างสไตล์โกธิคสูง 51 เมตร เดิมมีอยู่ทั้งหมด 4 แห่ง ปัจจุบันเป็นประตูเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ ประตูไมเคิลมียอดโดมทรงหัวหอมตามศิลปะบารอค 3 ชั้น ลดหลั่นกัน ประตูแห่งนี้ตั้งอยู่ศูนย์กลางเมืองเก่า สองฝั่งถนนมีอาคารเก่าแก่หลากสีสัน สไตล์อาร์ตนูโวตั้งเรียงรายอยู่
เป็นศาลากลางประจำเมืองบราติสลาวาซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย ป็นศาลากลางที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศและเป็นหนึ่งในอาคารหินที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงยืนอยู่ในบราติสลาวา โดยมีหอคอยที่ถูกสร้างขึ้นราวๆ ปี 1370 ด้านบนของหอศาลาว่าการเมืองนี้มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองบราติสลาวาและบริเวณโดยรอบ
จัตุรัสใจกลางเมืองบราติสลาวา ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่เป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆมากมาย
เป็นมหาวิหารอันเก่าแก่ย่านมหาวิทยาลัย และพิพิธภัณฑ์จำนวนมากรวมทั้งโรงละครและสถาบันวัฒนธรรม
ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เป็นสถานที่ที่ใช้ในการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพของเพรซเบิร์ก (Pressburg) หลังจากที่นโปเลียนมีชัยในสงครามออสเตอร์ลิทซ์ (Austerlitz) ระหว่างตัวแทนจักรพรรดิประเทศฝรั่งเศสและประเทศออสเตรีย พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บสะสมผ้าทอจากประเทศอังกฤษที่มีลักษณะพิเศษจากสมัยศตวรรษที่ 17 และยังทำหน้าที่เป็นศาลาว่าการของนายกเทศมนตรีอีกด้วย
เป็นเอาท์เลตภายใต้ยี่ห้อ MacArthurGlen Group ซึ่งเริ่มในอเมริกาเหนือ ถนัดเรื่องการเปิดเอาท์เลตซึ่งขยายมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2546 ภายในเอาท์เลตแห่งนี้จะมีร้านสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ นับร้อยแบรนด์ที่ขายในราคาพิเศษ
เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็นชื่อเขตการปกครองในออสเตรียด้วย เวียนนาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง
เป็นถนนวงแหวนรอบกรุงเวียนนา ที่รายล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จัดวางได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พระราชวังฮอฟบรูก์ กลุ่มอาคารพระราชวังของจักรพรรดิ อิมพิเรียลอพาร์ตเมนท์ หอศิลป์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติ
เป็นโรงละครโอเปร่าที่สร้างขึ้นในระหว่างปี 1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี 1955
เป็นสถานที่ทำการรัฐบาลของออสเตรีย ตั้งอยู่บนถนนริงสราเช่ส์ในย่าน Innere Stadt ใกล้กับพระราชวังฮอฟเบิร์ก อาคารนี้สร้างเสร็จในปี 1883 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 13,500 ตารางเมตร ทำให้เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเวียนนา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของรัฐ โดยเฉพาะพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีแห่งออสเตรียและสุนทรพจน์ของรัฐในวันชาติทุกวันที่ 26 ตุลาคม
เป็นประติมากรรมน้ำพุหน้าอาคารรัฐสภาออสเตรีย น้ำพุนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Baron Theophil Hansen มีจุดเด่นคือรูปปั้นของ Pallas Athene ที่มีความสูง 5,5 เมตร ซึ่งตั้งเด่นอยู่กลางน้ำพุ เสริมด้วยรูปปั้นเทพและเทวดาอื่นๆอีกมากมายหลายองค์
เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บนลาดเชิงเขา สร้างขึ้นตามศิลปะบาร็อก เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย ผู้นำกองทัพแห่งราชวงศ์แฮบส์บวร์ก ที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพเขียนออสเตรียนแกลเลอรี (Austrian Gallery) ซึ่งถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ภาพเขียนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของกรุงเวียนนา ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐ เป็นตำหนักที่เคยใช้เป็นสถานที่พักของราชวงศ์ต่างๆ มาก่อนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ.1300 และยังเป็นที่พักของผู้มีอิทธิพลต่างๆ มากมายในออสเตรียมาก่อน
เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของมหานครเวียนนา ถูกสร้างขึ้นให้หรูหราเทียบเท่ากับพระราชวังแวร์ซาย มีห้องมากกว่าถึง 1,400 ห้อง ความโดดเด่น ก็คือ สถาปัตยกรรมแบบร๊อกโคโค่ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองอร่าม “เหลืองเทเรซ่า”แม้จะได้ชื่อว่าเลียนแบบมาจากฝรั่งเศส แต่ความอลังการก็สามารถสร้างความตื่นตาให้กับผู้เข้าชม จนได้รับการประกาศจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกในปี1996
เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเวียนนา ซึ่งมีชื่อที่นิยมเรียกกัน Stephansdom เป็นภาษาเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์หลายๆอย่างเกิดขึ้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตรงกลางเป็นโดมที่สวยงามขนาบด้วยหอระฆังที่มีความใหญ่โตทั้งสองด้าน โดยหอระฆังด้านหนึ่งบรรจุระฆังขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการี สามารถชมวิวของเมืองบูดาเปสต์ได้แบบโดยรอบ
เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในกรุงเวียนนา โดยอาคารโบสถ์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นจากการทุบอาคารเดิมทิ้งไปในปี 1701 (ส่วนตัวอาคารก่อนหน้านั้นอยู่มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12) โดยการออกแบบตัวอาคารใหม่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งนครวาติกันในกรุงโรมในรูปแบบที่เล็กกว่ามาก ด้วยการตกแต่งภายในที่มีจำนวนพื้นที่ที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งภายในนั้นเต็มไปด้วยรูปปูนปั้นสีทองที่น่าสนใจ
เป็นถนนสายช้อปปิ้งประจำกรุงเวียนนา เมื่อก่อนเป็นถนนสายหลักจากตัวเมืองถึงกำแพงเมือง ชื่อ Strata Carinthianorum แต่ตอนนี้ได้ถูกออกแบบใหม่ตั้งชื่อใหม่ และเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินที่เอาไว้ให้คนเดินช้อปปิ้ง ที่มีร้านค้า ร้านแบรนด์เนมต่างๆ ตลอดสองข้างทาง
เป็นท่าอากาศยานหลักของกรุงเวียนนนา เมืองหลวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเขตเวทชาท โดยอยู่ประมาณ 18 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยบริหารจุดหมายปลายทางการบินในแถบยุโรป รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลสู่เอเชีย อเมริกาเหนือ และแอฟริกา
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย