เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซิดนีย์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ติดกับอ่าวโบตานี รองรับการเป็นท่าอากาศยานหลักของออสเตรเลีย และสายการบินควอนตัส ที่นี่นับเป็นท่าอากาศยานที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ยังเปิดให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นชื่อปัจจุบันเมื่อ พ.ศ. 2496 เพื่อเป็นเกียรติต่อผู้บุกเบิกการบินชาวออสเตรเลีย ชาร์ล คิงส์ฟอร์ด สมิธ
ที่นี่เป็นเป็นอุทยานสัตว์ป่าที่ดำเนินกิจการโดยเอกชน ตั้งอยู่ที่ West Pennant Hills ตรงบริเวณแถบชานเมืองของนครซิดนีย์ เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 1930 โดย Noel Burnet จากความต้องการในการอนุรักโคอาล่า สวนแห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักของการนำเสนอชีวิตโคอาล่า แต่ก็รวมถึงสัตว์น่ารักอื่นๆ เช่นเดียวกัน
อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ หรือ หุบเขาสีน้ำเงิน ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เป็นจุดชมทิวทัศน์อันสวยงามบนผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ ซึ่งในอุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์มีเขาที่ชื่อว่า เขาสามอนงค์ (THREE SISTERS) มีลักษณะเป็นภูเขาทั้ง 3 ลูกเรียงกัน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดตำนานความรักอันแสนเศร้าของยักษ์สาวอะบอริจิ้น นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีสถานีรถรางไฟฟ้า (KATOOMBA SCENIC RAILWAY) เพื่อนั่งรถรางไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถขนถ่านหินในสมัยก่อน วิ่งผ่านทะลุหุบเขาอันสูงชัน และมีกระเช้า SCENIC CABLEWAY เพื่อชมความงดงามของทิวทัศน์ในมุมสูง
ชมเขาสามอนงค์ Three Sister ตำนานแห่งอุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ ตื่นเต้นกับการนั่งรถไฟ Railway ลงสู่หุบเขา และการจำลองการขุดถ่านหินในสมัยก่อน กรุงแคนเบอร์ร่าเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย ที่ได้ชื่อว่ามีการจัดผังเมืองได้อย่างมีระเบียบสวยงามจนติดอันดับโลก
ในหุบเขาเจมิสันแวลเล่ย์ 1.(SKYWAY) นั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวทิวทัศน์ 360 องศา และน้ำตกคาทูมบ้า (KATOOMBA FALL) 2.(RAILWAY) นั่งรถแทรมที่ชันที่สุดในโลกลงสู่เบื้องล่างของหุบเขาบลูเมาเท่น ซึ่งในอดีตเป็นเหมืองถ่านหิน 3. (CABLEWAY) กระเช้าลอยฟ้ากลับสู่สถานี
เป็นรถรางไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถขนถ่านหินในสมัยก่อน รถรางนี้จะวิ่งผ่านทะลุหุบเขาอันสูงชัน และมีกระเช้า SCENIC CABLEWAY เพื่อชมความงดงามของทิวทัศน์ในมุมสูง
ขึ้นกระเช้า SCENIC CABLEWAY จากใต้หุบเขาสู่ด้านบนพร้อมชมความงดงามเบื้องล่างของหุบเขาสีน้ำเงินที่ท่านยังสามารถชมยอดเขาสามอนงค์อีกมุมที่แตกต่าง (ในกรณีที่ RAILWAY ปิดปรับปรุง ก็สามารถนั่ง SCENIC CABELWAY ขึ้นหรือลงหุบเขาแทน) เพื่อชมความงดงามของทิวทัศน์ในมุมสูง
ซิดนีย์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยงามและน่าอยู่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งยังเป็นมหานครอันทันสมัยทางฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย เมืองหลวงของรัฐนิวเซาธ์
เป็นหาดทรายที่อยู่ไม่ไกลจาก Sydney CBD เท่าไหร่นัก โดยเราสามารถนั่งรถบัสสาย 333 จาก Hyde park ได้ ใช้เวลาประมาณ20 นาที อย่าสับสนกับ Bondi JCT ด้วยความงามที่เห็นเด่นชัดและผู้คนที่หลากหลายทำให้หาดบอนได เป็นศูนย์กลางของงานฤดูร้อนมากมายหลายรายการ ที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสะพายเป้จะสวมหมวกซานตาและชุดว่ายน้ำมาฉลองวันคริสต์มาสกัน และอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นก็จะมีการต้อนรับผู้มาร่วมงานรื่นเริงในวันขึ้นปีใหม่ มีพลุดอกไม้ไฟ และงานเลี้ยงเต้นรำบนหาดทรายพร้อมกับดีเจนานาชาติ ในเดือนมกราคม เทศกาลหนังสั้น Flickerfest เริ่มต้นเทศกาลภาพยนตร์ฤดูร้อนของซิดนีย์ด้วยการฉายหนังใน Bondi Pavilion และใต้ดวงดาวที่หาดบอนได Bondi beach ค่ะ ตรงนี้จะเป็น Iceburg club เป็นสโมสรว่ายน้ำและผับ ..มั้งคะ.. สระว่ายน้ำวิวสวย ระหว่างทางก็จะมีงานศิลปะแทรกตัวอยู่ทั่วๆไป ตามซอก ตามหน้าผา ตามชายหาด
แก็ปเป็นย่านพักอาศัยที่ได้รับความนิยมด้วยสไตล์นิวเอจน่าสนใจด้วยรูปแบบทางสถาปัตยกรรมและเสน่ห์ของที่พักสไตล์กระท่อมของพวกเหล่าคนงานในยานที่ ่ พักอาศัยในยุคศตวรรษที่ 19 ของผู้คนที่มาจากต่างสถานที่ มีทั้งศิลปิ น คนท้องถิ่นที่อยู่มาก่อนเก่า และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ สัมผัสกบย่านนิวตั้นเมืองที่สะท้อนวัฒนธรรมหลากหลายของทัวโลก เป็นสถานที่ที่คุณจะได้ชนไหล่กบคนจากหลายแหล่งที่มา ทั้งแบบที่แต่งตัวตามสบายสไตล์นักศึกษามหาวิทยาลัยซิดนีย์ และแบบที่แต่งตัวตามแฟชันชั้นสูง
ในปี 1816 แมคควอรี่ (Macquarie) ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ในตอน นั้น ได้พยายามสร้างให้กลายเป็นสวนพฤกษชาติ เนื่องจากภริยาของท่านชอบที่จะนั่ง รถม้ามานั่งเล่นบนม้าหินบริเวณนี้ ต่อมาจึงเรียกม้าหินตัวโปรดของท่านว่า ม้าหิน มิสซิสแมคควอรี่ (Mrs. Macquarie’s Chair) อยู่ในโบทานิก การ์เด้น ม้าหินตัวโปรดของภริยาผู้สำเร็จราชการคนแรกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่ชอบมานั่งชมวิวของอ่าวซิดนีย์
ล่องเรือชมอ่าวซิดนีย์ ซึ่งท้องฟ้าแจ่มใส แดดจัด และลมแรง เป็นความประทับใจที่ดีมาก ถ้าได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวเมืองนั้นด้วยก็จะเป็นการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ทีเดียว ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แปลกตา โรงอุปรากรซิดนีย์หรือซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้อ่าวซิดนีย์เป็นอ่าวที่สวยที่สุดในโลกปัจจุบันโอเปร่าเฮาส์เป็นแลนด์มาร์กของออสเตรเลียจุดชมวิวที่สวยที่สุด และเหมาะสำหรับการถ่ายภาพจากเรือ
โอเปราเฮาส์ตั้งอยู่ที่ซิดนีย์ฮาเบอร์ซึ่งมีท่าเทียบเรืออยู่หกท่ารอบโอเปร่าเฮาส์จะมีร้านค้า บาร์ พับ ภัตตาคาร ทุกวันมีผู้คนทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวเดินกันหนาแน่น บางครั้งจะมีองค์กรหรือหน่วยงานมาจัดกิจกรรมบันเทิงในโอเปราเฮาส์ ที่นี่ดูเป็นสัญญลักษข์ของประเทศออสเตรเลียไปแล้วทั้งที่ซิดนีย์ไม่ใช่เมืองหลวง เป็นเมืองท่า จุดเด่นอยู่ที่โดมสามเบี่ยมเป็นชั้นๆ ให้ความทันสมัยงดงาม และมีลานกว้างๆให้เดินสบาย ประกอบกับอยู่ท่าเรือทำให้ได้รับความงามจากน้ำทะเลและนกนางนวลเป็นธรรมชาติอย่างลงตัว ส่วนตัวคิดว่าสีสันถูกแต้มด้วยเรือลำงามที่วิ่งไปมาทั้งเรือสาธารณะและส่วนตัว
มีโครงสร้างผิวจราจรพาดผ่านโครงเหล็กถักรูปโค้ง (แบบ Trussed Through Arch) ตั้งอยู่บนอ่าวซิดนีย์ กลางเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นสะพานระนาบเดี่ยว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำในทศวรรษ 1930 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง เปิดใช้ในปีค.ศ. 1932
ซิดนีย์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยงามและน่าอยู่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งยังเป็นมหานครอันทันสมัยทางฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย เมืองหลวงของรัฐนิวเซาธ์
เป็นอาคารที่สร้างในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถูกออกแบบโดย George McRae ในเขตศูนย์กลางธุรกิจของเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นอาคารสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ ที่ถูกสร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1893-1898 มีความกว้างของตัวอาคาร 30 เมตร และความยาว 190 เมตร ตัวอาคารถูกล้อมรอบด้วยถนน 4 ด้าน คือ George Street Market Street York Street และ Druitt Street อาคารหลังนี้ถูกออกแบบให้เป็นศูนย์การค้าในช่วงแรก และต่อมาถูกใช้งานอย่างหลากหลายจนกระทั่งได้รับการบูรณะให้มีการใช้งานดังเดิมในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20
เป็นถนนที่ตัดเลียบชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น ชายฝั่งดังกล่าวโดยส่วนใหญ่จะเป็นหน้าผา กระแสลม และคลื่นที่ซัดซ่าอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นตัวกัดเซาะหน้าผาให้แตกและบางครั้งก็ถล่มคลื่นลมกัดเซาะเป็นเวลานับล้านๆ ปี จนปัจจุบันแผ่นดินบางส่วนกลายเป็นเกาะหินโดดเด่นอยู่กลางทะเล มีรูปทรงแปลกๆ ที่ดูสวยงามและดูน่ากลัว
อะพอลโลเบย์ เป็นอีกเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่สวยงามอีกเมืองและมีน้ำทะเลสีน้ำเงินตัดกับป่าอันเขียวขจีทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์สวยงาม
เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงทางด้านทัศนียภาพทางชายฝังที่สวยงาม ที่มีความยาวกว่า 32 กิโลเมตร นอกจากนี้ในเขตอุทยานแห่งชาติพอร์ตแคมป์เบลล์ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของหน้าผาหินปูนขรุขระสูงชัน ที่ถูกคลื่นซัดเป็นระยะเวลายาวนานหลายพันปี ทำให้เกิดการสึกกร่อนจนเกิดเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติอันสวยงาม
เป็นแท่งหินปูนที่ถูกธรรมชาติสลักให้มีรูปทรงแปลกๆ แตกต่างกันไปอย่างน่าอัศจรรย์ เรียงรายกระจายอยู่บริเวณชายหาด มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวเดินชมและถ่ายรูปกันแบบจุใจและใกล้ชิด
ที่นี่เป็นย่านชานเมืองของเมลเบิร์น กรุงวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของ Dandenong Ranges และเป็นศูนย์กลางการบริหารหลักของเมือง Greater Dandenong ในเขตปกครองท้องถิ่น ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ที่นี่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตและการค้าที่สำคัญและการขยายตัวของมหานครเมลเบิร์น
ขบวนรถจักรไอน้ำโบราณตามแบบฉบับชาวออสซี่ เจ้าพัฟฟิ่ง บิลลี่ นี้เป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำรุ่นเก่าที่เลิกใช้นานแล้ว ทางรัฐก็เลยเอามาเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคนั่งรถไฟโบราณซึ่งจะได้นั่งบนรางรถไฟแบบเก่าไปด้วย ซึ่งแต่เดิมเคยใช้เป็นเส้นทางในการขนถ่ายลำเลียงถ่านหินระหว่างเมือง และปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงนำมาใช้ในงานการท่องเที่ยว นำท่านนั่ง รถไฟจักรไอน้ำโบราณ เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามตามแนวเขาตลอดเส้นทางวิ่งของรถไฟ
เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น การเดินพาเหรดของ นกเพนกวินบนเกาะฟิลลิปตั้งอยู่ห่างจากเมลเบิร์น ด้วยการ ขับรถสบาย ๆ เพียงสองชั่วโมง (หรือ 140 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น) เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น การเดินพาเหรดของ นกเพนกวินบนเกาะฟิลลิป (Phillip Island Penguin Parade) และ the Seals Rocks Sea Life Centre.
เป็นพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งเป็นชายหาดที่อยู่ในเขตการปกครองหนึ่งบนเกาะฟิลลิปในรัฐวิคตอเรีย ซึ่งตั้งอยู่ทางมุมตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ ที่นี่เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพนกวินที่สำคัญจุดหนึ่งซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งในบางช่วงของตอนเย็นหากโชคดีจะได้เห็นเพนกวินสุดน่ารักเดินเล่นอยู่ตามริมชายหาด
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เนื่องจากความปลอดภัยสูง และค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เนื่องจากความปลอดภัยสูง และค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ
เป็นอาคารรัฐสภาที่ทำการของรัฐสภาภูมิภาควิคตอเรียซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐสภาของรัฐและเขตปกครองของออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนถนน Spring Street บริเวณใจกลางเมลเบิร์น ก่อตั้งขึ้นในปี 1855 โดยมีผู้ออกแบบสำคัญคือสถาปนิกอาณานิคมเฮนรีจินน์ อาคารดังกล่าวจดทะเบียนในทะเบียนมรดกของวิคตอเรียด้วย
สวนฟิตซรอย เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เนื่องจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้วยังมีกระท่อมกัปตันคุ้ก ซึ่งเป็นนักสำรวจชาวอังกฤษคนสำคัญของโลก ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียและซีกขั้วโลกใต้ กระท่อมนี้ได้ถูกย้ายมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนครเมลเบิร์นในวาระครบรอบ 100 ปี บ้านหลังนี้แต่เดิมนั้นอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่ทางออสเตรเลียได้ขอซื้อมา เพื่อนำมาตั้งไว้ในสวนฟิตซรอย ลักษณะตัวบ้านค่อนข้างที่จะเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ.1755 โดยมีการรื้อบ้านเป็นส่วนๆ แล้วส่งลงเรือมาประกอบใหม่ ในปี ค.ศ.1934 ด้านในมีนิทรรศการเกี่ยวกับกัปตันคุก และตกแต่งให้เก่าตรงกับสมัยนั้น
ถนนคนเดินที่มีร้านค้าและร้านอาหารจีนมากมาย ตั้งอยู่ในเมืองเมลเบิร์น
เป็นหนึ่งในถนนสายหลักในย่านธุรกิจกลางของเมลเบิร์น มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งช็อปปิ้งค้าปลีก นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับแหล่งช็อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเช่น Bourke Street Mall, GPO ของเมลเบิร์น, ศูนย์การค้า Central Melbourne ตลาด Queen Victoria และอื่นๆ
ถนน Swanston ถนนของการสัญจร ในใจกลางเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในอดีตเป็ถนนสายหลักของภาคกลางของเมลเบิร์น ในปี 1837
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานทัลลามารีน ตั้งอยู่ที่เมืองทัลลามารีน ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นท่าอากาศยานหลักอันดับสองของออสเตรเลีย เป็นรองจากท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ และยังเป็นฐานบริการของควอนตัส และสายการบินลูกอย่างเจ็ตสตาร์แอร์เวย์ รวมถึงไทเกอร์แอร์เวย์ออสเตรเลียซึ่งจะเริ่มเปิดฐานบริการที่เมลเบิร์นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย