เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน และเป็นท่าอากาศยานหลักสู่ประเทศสวีเดน อยู่ห่างจากกรุงสตอกโฮล์มไปทางเหนือประมาณ 42 กิโลเมตร
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน และยังเป็นนครหลวงอันงดงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำ หรือราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก ทะเลสาบมาลาเร็น ทำให้สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเรือรบวาซา เรือที่เป็นตำนานและสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เรือลำนี้มีความสง่างามมากบริเวณดาดฟ้า
เป็นอาคารที่มีความสวยงามสะดุดตา และเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสตอกโฮล์ม ด้วยคุณลักษณะพิเศษของตัวอาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงเกาะที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 1923 ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูเรียบๆ แต่การตกแต่งภายในนั้นไม่ธรรมดา กับศิลปะสมัยใหม่ในแบบอาร์ตนูโว
เป็นพื้นที่เมืองเก่าที่เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวงและอาคารคลาสสิกมากมายด้วยกลิ่นอายของศตวรรษที่ 17 ทั้งบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงามในรูปแบบงานสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน เช่นเดียวกับเสน่ห์ของตรอกซอกซอยต่างๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟและร้านหนังสือต่างๆ ที่คุณจะเพลิดเพลินในการเที่ยวชม
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน และเป็นท่าอากาศยานหลักสู่ประเทศสวีเดน อยู่ห่างจากกรุงสตอกโฮล์มไปทางเหนือประมาณ 42 กิโลเมตร
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองคิรูนา ซึ่งนับได้ว่าเป็นเมืองที่อยู่เหนือที่สุดในประเทศสวีเดนที่มีประชากรอาศัยอยู่ มีความสำคัญเพราะเป็นเมืองที่ผลิตแร่เหล็กที่มีชื่อของประเทศ
หมู่บ้านยุคคัสเยร์วี เป็นที่ตั้งของโรงแรมน้ำแข็งที่ว่ากันว่านี้เป็นแห่งที่ใหญ่ที่สุดและเป็นแห่งแรกของโลก ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับประเทศหนาวอื่นๆ ในโลก ให้สร้างโรงแรมน้ำแข็งตามอีกมากมาย สถาปนิกและนักออกแบบจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อตัดก้อนน้ำแข็งจากแม่น้ำทอร์เนอ (Torne) ที่อยู่ใกล้เคียง มาเนรมิตเป็นห้องพักในรูปแบบต่างๆ
โรงแรมน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านยุคคัสเยร์วี Jukkasjärvi ทางภาคเหนือของประเทศสวีเดน ว่ากันว่าโรงแรมน้ำแข็งแห่งนี้เป็นแห่งที่ใหญ่ที่สุดและเป็นแห่งแรกของโลก ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับประเทศหนาวๆอื่นๆในโลก ให้สร้างโรงแรมน้ำแข็งตามอีกมากมาย โรงแรมแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 59,200 ตารางฟุต สร้างขึ้นจากเสาน้ำแข็ง 2,000 ต้นและก้อนน้ำแข็งอีก 3,000 ตัน และในทุกๆฤดูหนาวของทุกปีสถาปนิกและนักออกแบบจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อตัดก้อนน้ำแข็งจากแม่น้ำทอร์เนอ (Torne) ที่อยู่ใกล้เคียง มาเนรมิตเป็นห้องพักในรูปแบบต่างๆ
ความสนุกของการขี่สโนว์โมบิล คือความเร็ว ความคล่องตัว อารมณ์เดียวการขับเจ็ทสกี แต่ที่ดีกว่าคือการขับเล่นกันบนหิมะ ผ่านป่าน้ำแข็งและทุ่งกว้าง หรือจะขับขี่บนทะเลสาบที่เป็นกลายเป็นน้ำแข็งก็แล้วแต่สภาพแวดล้อมในแต่ละที่ สโนว์โมบิลจะมีที่จับเหมือนมอเตอร์ไซค์ แล้วจะมีที่จับโผล่มาสำหรับให้นิ้วโป้งเรากด เพื่อใช้เวลาเร่งความเร็ว ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าลองมากทีเดียว
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะโดยใช้สุนัขฮักกี้ลากรถเลื่อน
เป็นพื้นที่อุทยานที่ตั้งอยู่ในเขตแลปแลนด์ของประเทศสวีเดน ซึ่ง Lonely Planet ยกให้เป็นสถานที่ซึ่งแสงเหนือมีความสว่างไสวมากที่สุดในโลก
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เมืองนาร์วิกทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์แวดล้อมด้วยภูเขาและทะเลกว้างไกลอีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสมาทรงทอดพระเนตรการทำเหมืองแร่ของเมืองซึ่งยังคงเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน
อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตมณฑลทรอม (Troms) อีกหนึ่งมณฑลซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ และทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวียน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตอาร์กติกเซอร์เคิลอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ที่นี่ยังสามารถสัมผัสความมหัศจรรย์ของพระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งจะมีการเริ่มต้นในช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม ไปจนถึงวันที่ 22 กรกฎาคมของทุกๆปี และในช่วงเดือนตุลาคม เดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม ของทุกปี นักท่องเที่ยวยังจะได้พบกับปรากฏการณ์แสงเหนือในท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งนับว่ามีความงดงามมากๆ
มหาวิหารไม้ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุด และยังเป็นหนึ่งในโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ โดยมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1861 ในแบบสไตล์กอธิคที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
สูงจากระดับน้ำทะเล 420 เมตร ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพทั่วเมืองทรูมเซอ ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางฟยอร์ด มีเกาะใหญ่ ๆ รายล้อมลอบ ด้านทิศตะวันออกมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศสวีเดนและฟินแลนด์
อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตมณฑลทรอม (Troms) อีกหนึ่งมณฑลซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ และทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวียน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตอาร์กติกเซอร์เคิลอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ที่นี่ยังสามารถสัมผัสความมหัศจรรย์ของพระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งจะมีการเริ่มต้นในช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม ไปจนถึงวันที่ 22 กรกฎาคมของทุกๆปี และในช่วงเดือนตุลาคม เดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม ของทุกปี นักท่องเที่ยวยังจะได้พบกับปรากฏการณ์แสงเหนือในท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งนับว่ามีความงดงามมากๆ
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ในเมืองทรอมโซ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะทรอมโซย่า เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 กันยายน 1964
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเขตเฟลสแลนด์ เมืองเบอร์เก้น ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเบอร์เก้นไปทางใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เปิดให้บริการในปี 1955 เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้คนหนาแน่นเป็นอันดับสองในประเทศนอร์เวย์ ดำเนินการโดย Avinor ที่รัฐเป็นเจ้าของ พื้นที่ส่วนหนึ่งของท่าอากาศยานนี้เป็นอาณาบริเวณฐานทัพอากาศของนอร์เวย์ด้วย
เป็นเมืองหลวงแห่งศิลปวัฒนธรรมและเมืองหลวงเก่าแห่งฟยอร์ดของประเทศนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็น “เมืองมรดกโลก” ประกาศโดยองค์การยูเนสโก ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และเป็นเมืองท่าสำคัญทางชายทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ มีทั้ง เมืองเก่าย่านชาวประมง ท่าเทียบเรือเดินสมุทร และเป็นศูนย์กลางการขุดเจาะน้ำมันของประเทศด้วย
Fish Market มีอายุกว่า 1,000 ปี และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านตะวันตกสุดของแผ่นดินนอร์เวย์
เป็นกลุ่มอาคารแบบ Hanseatic ที่เรียงรายอยู่ทางด้านตะวันออกของท่าเรือเบอร์เก้นในประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่เก่าแก่ของเมือง เป็นสถานที่ที่มีสีสันในมรดกโลกที่เป็นสัญลักษณ์ของเบอร์เกนที่ไม่ควรจะพลาดมาถ่ายภาพ นอกจากนี้ ยูเนสโกยังยกให้กลุ่มอาคารดังกล่าวเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมมาตั้งแต่ปี 1979 ด้วย
เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นจุดหมายปลายทางในช่วงฤดูหนาวของนักสกี เพราะที่นี่มีลานสกีอยู่ถึงสองศูนย์ด้วยกัน อีกทั้งโวสยังถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ภูเขา หน้าผา และทะเลสาบอีกด้วย
เป็นเส้นทางรถไฟสายโรแมนติกอันสวยงามซึ่งแสดงถึงเทคโนโลยีการก่อสร้างทางรถไฟสายฟลอมส์บานา ที่พิสูจน์ถึงความสามารถและความชำนาญอันสูงส่งของวิศวกรเมื่อ 88 ปีก่อน ทางรถไฟสายนี้ใช้เวลาก่อสร้างเกือบ 20 ปีกว่าจะเปิดเส้นทางเป็นการชั่วคราวสำหรับรถไฟไอน้ำเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี 1940 และสำหรับรถไฟฟ้าในปี 1944 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวชมวิวที่สวยงามมากเส้นหนึ่ของนอร์เวย์
เป็นสายน้ำที่ตกจากความสูง 225 เมตร น้ำตกนี้เกิดจากการละลายของหิมะ ไหลรุนแรงเป็นละอองฟุ้งกระจาย ลงมาจากด้านบนทะเลสาบ Reinungavatnet และทะเลสาบ Seltuftvatnet เกิดกลายเป็นความงดงามที่ตระการตา
ล่องเรือชมซองน์ฟยอร์ด สถานที่อันงดงามที่ได้ชื่อว่า เป็น King of Fjord ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีความยาวถึง 204 กม.จากทะเลเข้ามาในแผ่นดินใหญ่นอร์เวย์
เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ เป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งที่เป็นปากประตูสู่เขตฟยอร์ดของนอร์เวย์ และอยู่ระหว่างกรุงออสโลและเมืองเบอร์เก้น ที่นี่มีลิฟต์สกี 20 แห่งและลานสกีอัลไพน์ 39 ลานในระดับความสูงและความยากง่ายต่างกันไป ศูนย์เกโลเลียมีลานสกีระดับง่ายสีเขียวและฟ้า ส่วนศูนย์สลัตตามีลานสกีระดับฟ้าและแดงเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีลานสกีพื้นราบยาว 135 ไมล์
เป็นเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งสมัยก่อนนั้นเคยเป็นอาณานิคมใหญ่ของชุมชนชาวไวกิ้งโบราณ ปัจจุบันเป็นนครหลวงของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ด (fjord) ที่ชื่อ ออสโลฟยอร์ด ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะ 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmøya นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญของเมือง
เป็นปราสาทหินยุคกลางซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์ในปี 1299 จนกระทั่งปี 1592 จึงมีการปรับปรุงเป็นป้อมปราการโดยใช้แนวกำแพงและปืนใหญ่เพื่อป้องกันเมืองออสโล หลังจากนั้นป้อมปราการแห่งนี้ถูกทอดทิ้งและมีสภาพแย่ลง ต่อมาจึงมีการเริ่มบูรณะในปี 1899 ปัจจุบันมีการนำเที่ยวชมพื้นที่รอบนอกปราสาทและห้องบางห้องที่มีความสำคัญ
เป็นพื้นที่อุทยานหนึ่งในออสโล ที่ความพิเศษของที่แห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรมมนุษย์เปลือยในหลากหลายอิริยาบถ โดยผ่านผลงานการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงเกี่ยวกับเรือไวกิ้งโบราณที่สร้างจากไม้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยขุดได้จากรอบๆออสโลฟยอร์ด นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องมือในชีวิตประจำวันที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี เรือถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในอดีต เพราะชาวไวกิ้งใช้เรือ ทั้งในเรื่องของการรบ ทำการค้า และออกสำรวจหาดินแดนใหม่ๆ ไกลกว่าค่อนโลก
เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล สินค้าของฝากที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ ซึ่งสินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าประเทศนอร์เวย์จะมีสินค้าที่แพง แต่ก็ยังมีช่วงลดราคาสินค้า คือปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่การ์เดอร์มอน ในเขตยูลเลนแซเกอร์ ประเทศนอร์เวย์ ห่างจากตัวเมืองกรุงออสโลไปทางเหนือประมาณ 48 กิโลเมตร เริ่มเปิดใช้ในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศนอร์เวย์ รวมทั้งเป็นฐานให้บริการของสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ และนอร์เวเจียนแอร์ชัตเทิล และยังเป็นท่าอากาศยานสำคัญของสเตอร์ลิงแอร์ไลน์ และไวเดเรอร์
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย