เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ รองจากสนามบินนานาชาติดามาเดดาว่า มันอยู่ห่างจากใจกลางเมืองหลวง 29 กิโลเมตร และเป็นฐานของสายการบินรัสเซียชื่อดังอย่างแอโรฟลอท
เป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และ การเดินทางของประเทศ โดยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมัสกวา ซึ่งในตัวเมืองมีประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป[ต้องการอ้างอิง] และเมื่อสมัยครั้งที่สหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย กรุงมอสโกก็ยังเป็นเมืองหลวงของสหภาพโซเวียตอีกด้วย
มีอีกชื่อเรียกว่าเนินเขานกกระจอก เป็นบริเวณที่มองเห็นทัศนียภาพของนครมอสโคว์ที่อยู่เบื้องล่างได้โดยทั้งหมด ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโคว์ และเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในมอสโคว์เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษในการชมบรรยากาศของมอสโคว์
สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งในแต่ละสถานีจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานีรถไฟใต้ดินได้กลายเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดเพราะมีโครงสร้างที่แข็งแรง ในปัจจุบันรถไฟใต้ดินที่กรุงมอสโคว์มีถึง 11 สาย 156 สถานี ด้วยความยาวทั้งหมด 260 ก.ม.
ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย
ที่นี่อยู่ในบริเวณพระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นสถานที่เก็บสมบัติลํ้าค่ากว่า 4,000 ชิ้น เช่น อาวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ เครื่อง เงิน ทอง เพชรพลอยเครื่องทรงของกษัติย์พระเจ้าซาร์และซารีน่าซึ่งหาดูได้ยากยิ่ง
เป็นโบสถ์คริสต์ออร์โธดอกของรัสเซียที่สร้างอุทิศให้กับ Dormition of the Theotokos ที่นี่ถือได้ว่าเป็นโบสถ์แม่ของ Muscovite Russia ตามคำสั่งของมอสโกแกรนด์ดุ๊กที่ชื่อว่าพระเจ้าอีวานที่ 3 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลีชื่อ Aristotele Fioravanti นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ฝังศพของมอสโคว์เมโทรโพลิแทนและปรมาจารย์ของโบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียหลายๆ คน
ระฆังพระเจ้าซาร์ได้ชื่อว่าเป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักมากกว่า 200 ตัน ซาร์อเลกซิสทรงรับสั่งให้สร้างแล้วแขวนบนหอคอย แต่เมื่อปี1701 ไฟไหม้หอคอย ระฆังจึงตกแตกเป็นเสี่ยงๆ ดังนั้นกษัตรีซารีนา อานนา ทรงรับสั่งให้นำเศษซากระฆังที่แตกให้มาหล่อใหม่เป็นครั้งที่สองในปี 1737 เกิดความผิดพลาดขณะหล่อ เทน้ำเย็นบนระฆังร้อน ทำให้เกิดเศษระฆังแตกหนักขนาด 11 ตัน
เป็นปืนใหญ่ที่หล่อขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 โดยพระเจ้าอีวานได้ให้ Andrey Shchokov ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างหล่อที่เก่งที่สุดในยุคนั้น ทำการออกแบบอาวุธชนิดนี้ โดยให้ออกแบบปืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
วิหารนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1839 ในสมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน ปัจจุบันวิหารนี้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญระดับชาติของรัสเซีย
ละครสัตว์รัสเซียมีชื่อเสียงมากตั้งแต่สมัยก่อน ละครสัตว์ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากมาย ด้วยเพราะความมหัศจรรย์ของนักแสดงและ ความสามารถของผู้กำกับ ทำให้คณะละครสัตว์ของรัสเซียได้รับการตอบรับที่ดีเสมอ
ฟาร์มสุนัขพันธ์ฮัสกี้ ( Husky Park ) ให้ท่านได้ชมความน่ารักของสุนัขแสนรู้ เป็นพันธุ์ที่ฉลาดเฉลียวและแข็งแรงมาก โดยอาศัยอยู่ในเขตหนาว ซึ่งชาวแลปป์ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบนน้ำแข็งหรือหิม่ะ
เป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะโดยใช้สุนัขฮักกี้ลากรถเลื่อน
หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ (Ostankino Tower) หอส่งสัญญาณนี้โดดเด่นอยู่บนเส้นขอบฟ้าของมอสโกมาตั้งแต่ปี 1967 และเป็นหนึ่งในอาคารที่ยืนอยู่ด้วยตัวเองที่สูงที่สุดในโลก ด้านบนหอยังมีร้านอาหารที่ชื่อ 7th HEAVEN RESTAURANT ซึ่งเป็นร้านอาหารลอยฟ้าที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศวิวพาโนรามาของกรุงมอสโคว์ระดับความสูง 328 M.
เป็นจัตุรัสกลางเมืองของของกรุงมอสโก จัตุรัสแดงอาจถือได้ว่าเป็นจัตุรัสกลางกรุงมอสโกและทั้งประเทศรัสเซียเพราะถนนสายสำคัญทุกสายจะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้ ชื่อจัตุรัสแดงมักเข้าใจผิดว่า คำว่า แดง ในชื่อจัตุรัส มาจากสีของคอมมิวนิสต์ หรือสีของอิฐในบริเวณนั้นที่เป็นสีแดง แต่แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดง มาจากภาษารัสเซียคำว่า ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม
เป็นวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย สร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะเหนือพวกมองโกล ผลจากชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติได้เป็นปึกแผ่น จึงสร้างมหาวิหารแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1555
ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก มีสินค้าอย่างหลากหลายชนิด ห้างสรรพสินค้ากุม หรืออีกสถานที่หนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองนี้มีความสวยงามและโดดเด่นมากลักษณะชองตัวอาคารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีร้านค้าเปิดให้ บริการมากมายสำหรับให้ผู้ที่เดินทางหรือผู้ที่ชอบการช้อปปิ้งถึง 200 ร้านค้าด้วยกัน
ซับซานเพิ่งเริ่มออกให้บริการครั้งแรกเมื่อปลายปี 2009 เริ่มจากเส้นทางระหว่างมอสโกกับเซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร รถไฟซับซานในแต่ละขบวนจะมี 10 ตู้ แต่ละขบวนสามารถให้บริการผู้โดยสารได้สูงสุด 604 คน
เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรัสเซีย ซึ่งเคยถูกเปลี่ยนชื่อมาแล้วสองครั้ง ชื่อล่าสุดนั้นถูกตั้งตามผู้ก่อตั้งเมือง และบ่อยครั้งจะถูกขนานนามว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดในรัสเซีย
เป็นพระราชวังที่ประกอบด้วยห้องต่างๆ กว่า 1,050 ห้อง สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่รับรองการเสด็จเยือนรัสเซียของรัชกาลที่ 5 ของไทย ในการเจริญสัมพันธไมตรีไทย / รัสเซีย พร้อมทั้งทรงร่วมฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซียอีกด้วย
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในปี1708 ตั้งอยู่ใจกลางเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บนถนนเนฟสกี้ ถนนเส้นหลักของตัวเมืองเลย แต่เดิมนั้นที่นี่เป็นเพียงโบสถ์เล็กๆ ต่อมาในสมัยการปกครองของพระเจ้าปอลด์ที่ 1 ในปี 1800 ได้ทำการสร้างวิหารใหม่ ให้เป็นวิหารที่ใหญ่และสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม เป็นสถาปัตยกรรมในรูปศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี ต่อมาได้เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสขึ้น จึงได้นำรูปปั้นของผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพเรือ คือ Mikhail Kutuzov และ Barclay de Tolly มาจัดแสดงเป็นอนุสรณ์ไว้ด้านหน้า
โบสถ์นี้ถูกสร้างเพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้ประกาศเลิกทาส แต่ถูกปลงพระชนม์ โดยส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งติดระเบิดพลีชีพวิ่งเข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน ต่อมาบริเวณถนนที่เกิดเหตุนั้นถูกสร้างโบสถ์ครอบไว้ กลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้ ปี พ.ศ. 2534 จึงเปลี่ยนชื่อกลับเป็นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ที่นี่ถูกสร้างโดยหวังจะให้พระราชวังนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซาย์ ในฝรั่งเศสเพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย และรวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากประเทศต่างๆ มากมาย สิ่งก่อสร้างและ สถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคและนีโอคลาสิค ที่ใช้ประดับประดาห้องหับต่างๆ ด้านหน้าของพระราชวังหันออกสู่อ่าวฟินแลนด์ มีน้ำพุ บ่อน้ำ แจกัน อ่าง และรูปปั้นสวยงามประดับตกแต่งอยู่ส่วนต้อนรับ
ป้อมนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เป็นสิ่งแรกที่สร้างในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโดยมีความสูง 122.5 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมือง จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้ฝังหลุมพระศพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และพระบรมศานุวงศ์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ และส่วนหนึ่งยังใช้เป็นโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ของรัฐบาลอีกด้วย
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นในปี 1712 โดยมีโดมทองเป็นเอกลักษณ์ ในอดีตมหาวิวิหารเซนต์ไอแซคเป็นเพียงโบสถ์ไม้ธรรมดา ซึ่งต่อมาได้รับการปรับปรุงเป็นโบสถ์หิน และถูกสร้างใหม่อย่างงดงามในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 40 ปี ปัจจุบันที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารทรงโดมที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ที่งดงามที่สุดในโลก
Outlet Village Pulkovo ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น ADIDAS , LACOSTE, UNDER ARMOUR , PUMA, GUESS , INCANTO และอื่นๆอีกมากมาย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ให้บริการนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หนึ่งในเมือท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศรัสเซีย ท่าอากาศยานนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการสำหรับสายการบินแอโรฟลอต
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ รองจากสนามบินนานาชาติดามาเดดาว่า มันอยู่ห่างจากใจกลางเมืองหลวง 29 กิโลเมตร และเป็นฐานของสายการบินรัสเซียชื่อดังอย่างแอโรฟลอท
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย