เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้อยู่ในเขตโดโมเดโดโว โดยอยู่ห่างไป 42 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโคว์ ที่นี่เป็นหนึ่งในสี่ท่าอากาศยานหลักของกรุงมอสโคว์ รวมถึงเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ให้บริการนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หนึ่งในเมือท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศรัสเซีย ท่าอากาศยานนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการสำหรับสายการบินแอโรฟลอต
เป็นเมืองๆ หนึ่งในเขต Petrodvortsovy ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของอ่าวฟินแลนด์ เมืองนี้เป็นหนึ่งในสองวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและโรงงานนาฬิกาเปโตรดวอเรตส์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำของรัสเซีย และเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นที่ตั้งของพระราชวังฤดูร้อนที่โด่งดังของรัสเซีย
ที่นี่ถูกสร้างโดยหวังจะให้พระราชวังนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซาย์ ในฝรั่งเศสเพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย และรวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากประเทศต่างๆ มากมาย สิ่งก่อสร้างและ สถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคและนีโอคลาสิค ที่ใช้ประดับประดาห้องหับต่างๆ ด้านหน้าของพระราชวังหันออกสู่อ่าวฟินแลนด์ มีน้ำพุ บ่อน้ำ แจกัน อ่าง และรูปปั้นสวยงามประดับตกแต่งอยู่ส่วนต้อนรับ
หมู่บ้านพระเจ้าซาร์ หรือหมู่บ้านปุชกิ้น สถานที่ประทับและพักอาศัยของเจ้านายชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น “อเล็กซานเดอร์ ปุชกิ้น” ยอดกวีเอกรัสเซีย อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตนครสหพันธ์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) โดยตัวเมืองนั้นตั้งห่างจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ไปทางทิศใต้ ประมาณ 24 กิโลเมตร (15 ไมล์) ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 1710 สำหรับตัวเมืองพุชคินนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเนวา (Neva River) แม่น้ำสายสำคัญสายหนึ่งของประเทศนั่นเอง
โบสถ์แห่งการประสูติของเซนต์จอห์นเดอะแบปทิสต์ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิกของรัสเซีย Yury Felten ในปี ค.ศ.1780 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของกองทัพเรือรัสเซียเหนือกองทัพเรือรัสเซียเหนือกองทัพตุรกี ที่อ่าวเชสมีในทะเลอีเจียน
เดิมเป็นพระราชวังที่พระเจ้าปีเตอร์มหาราชที่ทรงสร้างไว้สำหรับพระนางแคทเธอรีนที่ 1 เพื่อใช้พักผ่อนในฤดูร้อน และได้ตกแต่งใหม่หลายครั้ง การตกแต่งพระราชวังใหม่ในแต่ละครั้งจึงเปรียบเสมือนการแสดงอำนาจและบารมีของผู้เป็นเจ้าของในแต่ละยุค ซึ่งจากการตกแต่งที่ผสมผสานหลายครั้งจึงเกิดรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “รัสเซี่ยนบาโรค” ที่หรูหรา อ่อนช้อย และงดงามดังเช่นในปัจจุบัน
โบสถ์นี้ถูกสร้างเพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้ประกาศเลิกทาส แต่ถูกปลงพระชนม์ โดยส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งติดระเบิดพลีชีพวิ่งเข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน ต่อมาบริเวณถนนที่เกิดเหตุนั้นถูกสร้างโบสถ์ครอบไว้ กลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้ ปี พ.ศ. 2534 จึงเปลี่ยนชื่อกลับเป็นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและวัฒนธรรมในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ได้ชื่อว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1764 โดยพระราชโอการจากจักรพรรดินีแคทเธอรีนมหาราช ปัจจุบันภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงงานศิลปะต่างๆ มากกว่าล้านรายการในแต่ละส่วนของพื้นที่
ป้อมนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เป็นสิ่งแรกที่สร้างในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโดยมีความสูง 122.5 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมือง จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้ฝังหลุมพระศพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และพระบรมศานุวงศ์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ และส่วนหนึ่งยังใช้เป็นโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ของรัฐบาลอีกด้วย
เป็นย่านถนนเก่าแก่ที่เกิดขึ้นในปี 1710 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดยมีความยาว 4.5 กิโลเมตร เริ่มต้นที่หน้าพระราชวังฤดูหนาวและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟมอสโก จุดเด่นอยู่ที่สถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 18-20 ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นทั้งย่านการค้า ย่านที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของพระราชวัง โรงละคร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นในปี 1712 โดยมีโดมทองเป็นเอกลักษณ์ ในอดีตมหาวิวิหารเซนต์ไอแซคเป็นเพียงโบสถ์ไม้ธรรมดา ซึ่งต่อมาได้รับการปรับปรุงเป็นโบสถ์หิน และถูกสร้างใหม่อย่างงดงามในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 40 ปี ปัจจุบันที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารทรงโดมที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ที่งดงามที่สุดในโลก
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในปี1708 ตั้งอยู่ใจกลางเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บนถนนเนฟสกี้ ถนนเส้นหลักของตัวเมืองเลย แต่เดิมนั้นที่นี่เป็นเพียงโบสถ์เล็กๆ ต่อมาในสมัยการปกครองของพระเจ้าปอลด์ที่ 1 ในปี 1800 ได้ทำการสร้างวิหารใหม่ ให้เป็นวิหารที่ใหญ่และสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม เป็นสถาปัตยกรรมในรูปศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี ต่อมาได้เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสขึ้น จึงได้นำรูปปั้นของผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพเรือ คือ Mikhail Kutuzov และ Barclay de Tolly มาจัดแสดงเป็นอนุสรณ์ไว้ด้านหน้า
ซับซานเพิ่งเริ่มออกให้บริการครั้งแรกเมื่อปลายปี 2009 เริ่มจากเส้นทางระหว่างมอสโกกับเซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร รถไฟซับซานในแต่ละขบวนจะมี 10 ตู้ แต่ละขบวนสามารถให้บริการผู้โดยสารได้สูงสุด 604 คน
เป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และ การเดินทางของประเทศ โดยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมัสกวา ซึ่งในตัวเมืองมีประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป[ต้องการอ้างอิง] และเมื่อสมัยครั้งที่สหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย กรุงมอสโกก็ยังเป็นเมืองหลวงของสหภาพโซเวียตอีกด้วย
เป็นจัตุรัสกลางเมืองของของกรุงมอสโก จัตุรัสแดงอาจถือได้ว่าเป็นจัตุรัสกลางกรุงมอสโกและทั้งประเทศรัสเซียเพราะถนนสายสำคัญทุกสายจะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้ ชื่อจัตุรัสแดงมักเข้าใจผิดว่า คำว่า แดง ในชื่อจัตุรัส มาจากสีของคอมมิวนิสต์ หรือสีของอิฐในบริเวณนั้นที่เป็นสีแดง แต่แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดง มาจากภาษารัสเซียคำว่า ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม
เป็นวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย สร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะเหนือพวกมองโกล ผลจากชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติได้เป็นปึกแผ่น จึงสร้างมหาวิหารแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1555
หอนี้ตั้งอยู่บนป้อมสปาสสกายา มียอดเป็นนาฬิกาที่เป็นศิลปะโกธิก บนยอดมีดาวแดง 5 แฉก ที่ทำมาจากทับทิมน้ำหนัก 20 ตัน มีลักษณะคล้ายหอบิ๊กเบนที่ลอนดอน ว่ากันว่าเมื่อก่อนนี้นาฬิกาเรือนนี้เดินไม่ค่อยจะตรงเท่าไรนัก แต่ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงจนนาฬิกาบนป้อมนี้ถูกใช้เป็นนาฬิกาเทียบเวลาของประเทศทีเดียว
ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก มีสินค้าอย่างหลากหลายชนิด ห้างสรรพสินค้ากุม หรืออีกสถานที่หนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองนี้มีความสวยงามและโดดเด่นมากลักษณะชองตัวอาคารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีร้านค้าเปิดให้ บริการมากมายสำหรับให้ผู้ที่เดินทางหรือผู้ที่ชอบการช้อปปิ้งถึง 200 ร้านค้าด้วยกัน
ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย
ที่นี่อยู่ในบริเวณพระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นสถานที่เก็บสมบัติลํ้าค่ากว่า 4,000 ชิ้น เช่น อาวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ เครื่อง เงิน ทอง เพชรพลอยเครื่องทรงของกษัติย์พระเจ้าซาร์และซารีน่าซึ่งหาดูได้ยากยิ่ง
ล่องเรือแม่น้ำมอสคาว่า ชมทัศนียภาพงดงามและชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ในแบบสตาลินบนสองฝั่งแม่น้ำมอสโคว์หรือแม่น้ามอสคาว่า แม่น้ำสายหลักของกรุงมอสโคว์
ละครสัตว์รัสเซียมีชื่อเสียงมากตั้งแต่สมัยก่อน ละครสัตว์ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากมาย ด้วยเพราะความมหัศจรรย์ของนักแสดงและ ความสามารถของผู้กำกับ ทำให้คณะละครสัตว์ของรัสเซียได้รับการตอบรับที่ดีเสมอ
เป็นเมืองและศูนย์กลางการปกครองของเขต Sergiyevo-Posadsky ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงมอสโคว์ ซากอร์สเป็นเมืองที่โดดเด่นในเรื่องอุตสาหกรรม และเป็นที่ตั้งของ 1 ใน 4 อาคารทางด้านศาสนาที่สำคัญที่สุดในรัสเซีย
เป็นโบสถ์แรกของเมืองซาร์กอร์ส สถาปัตยกรรมแบบยอดโดมหัวหอมสีทอง ภายในตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกและภาพไอคอน 5 ชั้น และมีโลงศพเงินของนักบุญเซอร์เจียสอยู่ภายใน
เป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และ การเดินทางของประเทศ โดยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมัสกวา ซึ่งในตัวเมืองมีประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป[ต้องการอ้างอิง] และเมื่อสมัยครั้งที่สหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย กรุงมอสโกก็ยังเป็นเมืองหลวงของสหภาพโซเวียตอีกด้วย
เป็นถนนเส้นเก่าแก่เส้นหนึ่งของกรุงมอสโคว์ ถนนนี้ปรากฏมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในประวัติเมืองมอสโคว์ บันทึกว่าเคยเกิดเพลิงไหม้ครั้งหนึ่งเมื่อปี 1493 ในสมัยศตวรรษที่ 16 ในรัชสมัยกษัตริย์อีวานจอมโหด ถนนสายนี้เป็นที่อยู่อาศัยของตำรวจลับ ถนนอารบัตเป็นที่ย่านพักของเกิดมีชนชั้นใหม่ นั่นก็คือ ฃสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ กระทั่งปี 1985 ถนนอารบัตได้กลายเป็นถนนคนเดิน และเป็นถนนที่ใครๆ ก็รู้จักและคึกคักที่สุด เพราะเป็นแหล่งชุมนุมศิลปิน จิตรกร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร และอื่นๆ
เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซีย ในตลาดมีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด ในราคาที่ถูกที่สุด อาทิเช่น นาฬิการัสเซีย, ตุ๊กตาแม่ลูกดกหรือมาโตรชกา (Matryoshka), ผ้าคลุมไหล่, อำพัน, ของที่ระลึกต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย
มีอีกชื่อเรียกว่าเนินเขานกกระจอก เป็นบริเวณที่มองเห็นทัศนียภาพของนครมอสโคว์ที่อยู่เบื้องล่างได้โดยทั้งหมด ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโคว์ และเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในมอสโคว์เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษในการชมบรรยากาศของมอสโคว์
วิหารนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1839 ในสมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน ปัจจุบันวิหารนี้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญระดับชาติของรัสเซีย
สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งในแต่ละสถานีจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานีรถไฟใต้ดินได้กลายเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดเพราะมีโครงสร้างที่แข็งแรง ในปัจจุบันรถไฟใต้ดินที่กรุงมอสโคว์มีถึง 11 สาย 156 สถานี ด้วยความยาวทั้งหมด 260 ก.ม.
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้อยู่ในเขตโดโมเดโดโว โดยอยู่ห่างไป 42 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโคว์ ที่นี่เป็นหนึ่งในสี่ท่าอากาศยานหลักของกรุงมอสโคว์ รวมถึงเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย