เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของเดนมาร์ก โคเปนเฮเกนตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะนิวซีแลนด์ อีกส่วนเล็กๆ ของเมืองตั้งอยู่บน Amager และแยกออกจากเมือมัลโม่ของสวีเดนด้วยช่องแคบโอเรซุน เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมเศรษฐกิจและการปกครองของเดนมาร์ก มันเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของยุโรปเหนือ นอกจากนี้โคเปนเฮเกนยังเป็นหนึ่งในเมืองที่เป็นมิตรกับการใช้จักรยานมากที่สุดในโลก
เป็นพระราชวังที่เป็นสถานที่ประทับในช่วงฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์กมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1794 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโคเปนเฮเกน ตัวสถาปัตยกรรมภายนอก และการตกแต่งภายในอาคารพระราชวังเป็นสไตล์ร็อคโคโค
เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในรูปทรงที่แปลกตา คล้ายกับเป็นธารน้ำตกจำลอง เพื่ออุทิศแก่เทพีนอร์ติกเกฟิออน ต้นตำนานของราชอาณาจักรเดนมาร์ก เป็นรูปปั้นที่สวยงามตระการตา
เป็นรูปปั้นสัญลักษณ์ของเมืองที่ตั้งอยู่ริมอ่าวโคเปนเฮเกน นักท่องเที่ยวแทบทุกคนมาตรงจุดนี้เพื่อถ่ายรูปคู่กับเธอ ที่ยังคงนั่งหน้าเศร้าเฝ้ารอ เจ้าชายคนรักตามเนื้อเรื่องในเทพนิยายของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอสันขณะเดียวกันท่านจะได้ทราบเรื่องราวอันเป็นที่มาของเงือกน้อยตามเนื้อหาในเทพนิยายรักบันลือโลกปัจจุบันลิตเติ้ลเมอร์เมดมี "น้องสาว" แต่ตั้งแสดงอยู่ที่ Langelinie ในอ่าวโคเปนเฮเกน ไม่ไกลจากที่ตั้งเงือกน้อยตัวเดิม
แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน และอยู่ในใจกลางเมือง Strøget เป็นถนนคนเดินยาวที่สุดในโลกที่มีความคับคั่งของร้านค้า ตั้งแต่สินค้าราคาถูกและสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ถนนคนเดินนี้มีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตรที่ยื่นจากศาลากลางไปยังถนน Kongens Nytorv Strøget จึงถูกตั้งเป็นชื่อเล่นของถนนคนเดินดังกล่าวตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาและครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ Østergade
เป็นเรือสำราญอันโอ่อ่าขนาดใหญ่ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ผับ บาร์ ห้องซาวน์น่า ร้านค้าปลอดภาษี ห้องเล่มเกมส์ เป็นต้น เชิญพักผ่อนเดินเล่นบนเรือ ก่อนขึ้นชมวิวสวยยามเมื่อเรือถอนสมอ และรับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ในเรือ พร้อมพักค้างคืนบนเรือสำราญนี้ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือชมทัศนียภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าเรือ หรือช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีในเรือก็ได้
เป็นเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งสมัยก่อนนั้นเคยเป็นอาณานิคมใหญ่ของชุมชนชาวไวกิ้งโบราณ ปัจจุบันเป็นนครหลวงของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ด (fjord) ที่ชื่อ ออสโลฟยอร์ด ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะ 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmøya นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญของเมือง
สถานที่ตั้งของคณะอุปรากรและบัลเลต์ระดับชาติของนอร์เวย์แห่งนี้เป็นอาคารสร้างจากกระจกและหินอ่อนขนาดใหญ่คล้ายธารน้ำแข็งที่เกิดจากน้ำ โรงอุปรากรออสโลเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นในนอร์เวย์ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 14 มีเวทีสามแห่งและมีมากกว่า 1,000 ห้อง แวะสถานที่ดังกล่าวเพื่อชมการแสดงหรือตื่นตากับสถาปัตยกรรมของตัวอาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์นำเที่ยว ดีไซน์ที่สะดุดตาของสิ่งก่อสร้างคือหลังคาที่ลาดเอียงสูงชันจากเขตน่านน้ำของออสโลฟยอร์ด บนหลังคายังมีลานกว้างสาธารณะที่สามารถเดินเล่นได้ ช่วงฤดูร้อนคุณจะเห็นผู้คนอาบแดดและปิดนิกบนหลังคา สิ่งก่อสร้างประดับตกแต่งด้วยงานศิลปะแปดอย่าง ไฮไลท์อย่างนึงคือแผงกำแพงเจาะรูจากฝีมือของโอลาเฟอร์ เอเลียสสันและม่านของเวทีหลักที่คล้ายกับอลูมิเนียมฟอยด์ยับย่น
ศาลาว่าการอยู่กลาง downtown และสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ง่ายมากๆ และอยู่ไม่ไกลจากริมทะเลบริเวณ oslo เป็นสถานที่ที่มีสเนห์ในทำเลที่ตั้ง
พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงเกี่ยวกับเรือไวกิ้งโบราณที่สร้างจากไม้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยขุดได้จากรอบๆออสโลฟยอร์ด นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องมือในชีวิตประจำวันที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี เรือถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในอดีต เพราะชาวไวกิ้งใช้เรือ ทั้งในเรื่องของการรบ ทำการค้า และออกสำรวจหาดินแดนใหม่ๆ ไกลกว่าค่อนโลก
เป็นหนึ่งในตำหนักที่อยู่ของกษัตริย์นอร์เวย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงออสโล ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกประมาณช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของพระเจ้าชาร์ลที่ 3 ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ครองราชย์สองประเทศ คือนอร์เวย์และสวีเดนในช่วงเวลานั้น ปัจจุบันวังแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงออสโล ซึ่งเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมได้
เป็นพื้นที่อุทยานหนึ่งในออสโล ที่ความพิเศษของที่แห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรมมนุษย์เปลือยในหลากหลายอิริยาบถ โดยผ่านผลงานการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ลานกระโดดสกีนี้ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนยอดเขา ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่แข่งขันกระโดดสกีที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์ ที่ปัจจุบันทำการปรับปรุงใหม่ เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1952
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่การ์เดอร์มอน ในเขตยูลเลนแซเกอร์ ประเทศนอร์เวย์ ห่างจากตัวเมืองกรุงออสโลไปทางเหนือประมาณ 48 กิโลเมตร เริ่มเปิดใช้ในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศนอร์เวย์ รวมทั้งเป็นฐานให้บริการของสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ และนอร์เวเจียนแอร์ชัตเทิล และยังเป็นท่าอากาศยานสำคัญของสเตอร์ลิงแอร์ไลน์ และไวเดเรอร์
เป็นท่าอากาศยานประจำเมืองเคิร์คเนสที่ตั้งอยู่ในเขต Høybuktmoen ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกของเมืองเคิร์คเนสประมาณ 15 นาที ดำเนินการโดย Avinor ซึ่งเป็นหน่วยงานการบินพลเรือนของรัฐ ท่าอากาศยานนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโ,กเพื่อเป็นท่าอากาศยานของกองทัพอากาศ และถูกถ่ายโอนให้เป็นท่าอากาศยานพลเรือนในปี 1963
เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ ใกล้ๆ กับชายแดนฟินแลนด์และรัสเซีย เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Barents และเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก เป็นอีกสถานที่ที่เหมาะสมนการชมแสงเหนือ 10% ของผู้คนในเคิร์คเนสเป็นชาวรัสเซีย
เป็นสถานีที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับทำกิจกกรมหน้าหนาวต่างๆ บนลานน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถเลื่อน ขับสโนว์โมบิล และอื่นๆ ที่เป็นไฮไลท์หลักเลยคือการจับปูจักพรรดิ ซึ่งเป็นปูยักษ์อันเลื่องชื่อในแถบหนาวเย็น
เป็นโรงแรมหิมะในเคิร์กเนส ที่มีจุดโดดเด่นคือตัวโรงแรมนี้จะสร้างจากหิมะและน้ำแข็งทั้งหลัง ซึ่งเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม – เมษายนเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นโรงแรมจะเริ่มละลายและต้องสร้างใหม่
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาในภาคเหนือของฟินแลนด์ โดยตั้งอยู่ในภาคเหนือของแลปแลนด์ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมให้กิจกรรมต่างๆ เช่นการเล่นสกี, การเดินป่า และสปา
สร้างด้วยกระจกนำความร้อนแบบพิเศษ ทำให้ภายในอบอุ่นตลอดเวลา แม้ว่าภายนอกจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า –30องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเกาะกระจก ท่านจึงสามารถชมวิวภายนอกอย่างชัดเจน
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
รถเลื่อนที่ใช้กวางเรนเดียร์ในการเคลื่อนรถ สัมผัสกับความน่ารักของกวางเรนเดียร์ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ โดยตัวผู้มีขนาดใหญ่ขนาดโตเต็มที่มีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม และสูงประมาณ 214 เซนติเมตร ขนตามลำตัวยามปกติจะมีสีน้ำตาล แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ขนจะเปลี่ยนไปเป็นสีอ่อนขึ้น หรือสีขาว
ชมเมืองหลวงของดินแดนแลปแลนด์ (Finish Lapland) หรือบ้านของซานตาคลอส ลุงซานต้าแสนใจดี
เป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะโดยใช้สุนัขฮักกี้ลากรถเลื่อน
ความสนุกของการขี่สโนว์โมบิล คือความเร็ว ความคล่องตัว อารมณ์เดียวการขับเจ็ทสกี แต่ที่ดีกว่าคือการขับเล่นกันบนหิมะ ผ่านป่าน้ำแข็งและทุ่งกว้าง หรือจะขับขี่บนทะเลสาบที่เป็นกลายเป็นน้ำแข็งก็แล้วแต่สภาพแวดล้อมในแต่ละที่ สโนว์โมบิลจะมีที่จับเหมือนมอเตอร์ไซค์ แล้วจะมีที่จับโผล่มาสำหรับให้นิ้วโป้งเรากด เพื่อใช้เวลาเร่งความเร็ว ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าลองมากทีเดียว
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เหมือนกับเมืองในเทพนิยาย ซึ่งเป็นสถานที่ในจินตนาการของเด็กทั่วโลก สามารถเล่นขี่สโนว์โมบิล หรือเลือกซื้อของที่ระลึกจากหมุ่บ้านได้
เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านซานตาคลอสของเมืองโรวาเนียมิ ที่นี่เป็นที่ทำการไปรษณีย์อย่างเป็นทางการแห่งเดียวที่มีธีมซานตาคลอสและเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการจดหมายไปรษณีย์ของฟินแลนด์ ในปี 1985 ที่ทำการไปรษณีย์หลักของซานตาคลอสแห่งนี้ได้รับส่งจดหมายมากกว่า 17 ล้านฉบับ โดยที่นี่ผู้เยี่ยมชมสามารถอ่านจดหมายที่ส่งถึงซานต้า รวมถึงส่งจดหมายจากซานต้าก่อนถึงวันคริสต์มาสได้
เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศฟินแลนด์ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองนี้
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
เป็นเรือตัดน้ำแข็งลำเดียวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเรือจะวิ่งไปบนน้ำแข็งที่ปกปิดผิวทะเลหนานับเมตรด้วยน้ำหนักกว่า 3,500 ตัน ด้วยโปรแกรมพิเศษ Journey Through The Ice ซึ่งเป็นเรือตัดน้ำแข็งที่ใช้ในฤดูหนาว เรือลำนี้จะทำให้น้ำแข็งแตกเป็นช่องทางเพื่อการเดินทางในช่วงฤดูหนาว
ว่ายน้ำท่ามกลางน้ำแข็งกับชุด Thermal Suit ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บกับพื้นที่อาร์คติกที่มีความเย็นสุดขั้ว
เป็นความมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ปราสาทที่ทำจากหิมะและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร สร้างขึ้นใหม่ทุกปี จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ1996 ภายในมีทั้งโบสถ์ ร้านอาหาร และโรงแรม เพิ่มเติมความงดงามด้วยการเล่นแสงสี
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "โบสถ์แห่งความรัก" ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511 และเสร็จวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป และมีความเชื่อว่าหากใครก็ตามมาจุดเทียนอธิฐานเรื่องเกี่ยวกับความรักใน โบสถ์นี้ก็จะสมหวังในสิ่งที่อธิฐานทุกประการ จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่กันเป็นจำนวนมาก เพราะว่ากันว่าคู่รักที่มาจัดพิธีแต่งงานที่โบสถ์แห่งนี้จะครองรักกันยืนยาว จนแก่เฒ่า
อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius (1865-1957) ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่แปลกตามากๆ ถูกออกแบบโดย Eila Hiltunen เป็นการสร้างโดยนำเอาแท่งเหล็กจำนวน 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
เป็นโบสถ์นิกายออร์ธอดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ออกแบบโดย Aleksei Gornostajev สร้างตามสไตล์โบสถ์เก่าแก่ใกล้กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียในศตวรรษที่ 16 หลังคาทรงโดมทองและสร้างด้วยอิฐสีน้ำตาลแดง แสดงถึงความมีอิทธิพลของรัสเซียต่อประวิติศาสตร์ฟินแลนด์ได้เป็นอย่างดี
เรือสำราญ TALLINK SILJA LINE ที่พรั่งพร้อมไปด้วยร้านขายของ,คาสิโน,ร้านค้าปลอดภาษี, ร้านอาหาร,ห้อง Sauna, Spa เป็นต้น
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน และยังเป็นนครหลวงอันงดงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำ หรือราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก ทะเลสาบมาลาเร็น ทำให้สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เป็นอาคารที่มีความสวยงามสะดุดตา และเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสตอกโฮล์ม ด้วยคุณลักษณะพิเศษของตัวอาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงเกาะที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 1923 ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูเรียบๆ แต่การตกแต่งภายในนั้นไม่ธรรมดา กับศิลปะสมัยใหม่ในแบบอาร์ตนูโว
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเรือรบวาซา เรือที่เป็นตำนานและสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เรือลำนี้มีความสง่างามมากบริเวณดาดฟ้า
เป็นพื้นที่เมืองเก่าที่เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวงและอาคารคลาสสิกมากมายด้วยกลิ่นอายของศตวรรษที่ 17 ทั้งบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงามในรูปแบบงานสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน เช่นเดียวกับเสน่ห์ของตรอกซอกซอยต่างๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟและร้านหนังสือต่างๆ ที่คุณจะเพลิดเพลินในการเที่ยวชม
เป็นถนนสายช้อปปิ้งหลักที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงสต็อคโฮล์ม ที่มีร้านค้าผับและร้านอาหารมากมาย ตัวถนนเริ่มต้นที่ Norrström บน Norrmalm และทอดยาวเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตร จนถึงสี่แยกที่มี Observatoriegatan ซึ่งอยู่ทางใต้
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน และเป็นท่าอากาศยานหลักสู่ประเทศสวีเดน อยู่ห่างจากกรุงสตอกโฮล์มไปทางเหนือประมาณ 42 กิโลเมตร
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย