เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของกรุงเวียนนนา เมืองหลวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ในเขตเวทชาท โดยอยู่ประมาณ 18 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยบริหารจุดหมายปลายทางการบินในแถบยุโรป รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลสู่เอเชีย อเมริกาเหนือ และแอฟริกา
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและยังเป็นเมืองหลวงของรัฐคารินเทีย (Carinthia) เป็นรัฐทางใต้สุดของประเทศออสเตรีย ในปี 2008 เมืองคลาเกนเฟิร์ตเคยเป็นหนึ่งในแปดเมืองเจ้าภาพการจัดแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับหกของประเทศ โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนทะเลสาบเวอร์เทอร์เซ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาค
เป็นลานน้ำพุรูปปั้นมังกรที่ตั้งอยู่ในจัตุรัสของเมืองคลาเคนเฟิร์ต ประเทศออสเตรีย ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1583 ตามคำสั่งของนิคมคารินเทียในยุคนั้น รูปปั้นขนาดใหญ่อันโดดเก่นแสดงให้เห็นสัตว์ที่มีปากเปิดน้ำซึ่งมีลักษณะเหมือนมังกรพ่นไฟ
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวีเนียร์ มีพื้นที่ 168.8 ตร.กม. พลเมืองเมื่อปี 2014 อยู่ที่ 277,554 คนจุดท่องเที่ยวในเมืองนี้ได้แก่ ปราสาทลุบเบลียน่า Ljubljana Castle, สะพานมังกร Dragon Bridge, จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน Preseren Square ที่เราจะแวะเยี่ยมชมนอกจากนี้ยังมี จัตุรัสสามสะพาน Triple Bridges Square มหาวิหารลุบเบลียน่า Ljubljana Cathedral และ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ National Museum
เป็นเมืองที่รู้จักกันในเรื่องของวานิลลาและครีม หรือที่เรียกกันว่า kremna rezina หรือ kremšnita อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันแสนโรแมนติก จนได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นเมืองที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของสโลวีเนียก็ว่าได้
ล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเบลด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีเกาะอยู่ใจกลาง ห้อมล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบนี้เกิดขึ้นมาจากการขยับเขยื้อนของธรรมชาติกลายเป็นแอ่งและก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ละลายมา
แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองเบลด และยังเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสโลวีเนีย โดยปราสาทแห่งนี้ถือว่า เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในสโลเวเนีย
เป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียว กับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรม เพราะใจกลางจัตุรัสเป็นรูปหล่อของ ฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลวาเนีย
ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือใจกลางเมืองลูบลิยานา โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องอาณาจักรจากการรุกรานของชาวเติร์กและกบฏ ปัจจุบันปราสาทลูบลิยานาได้กลายเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรม และยังกลายเป็นหอชมเมือง ซึ่งคุณจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์อันงดงามงดงามของเมืองได้เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว
ฟรานซ์ เพรเซเรนเป็นกวีที่มีชื่อเสียงของสโลวีเนีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ
สะพานมังกร (Dragon Bridge) ซึ่งสร้างในปี 1901 เป็นสะพานแห่งแรก ๆ ที่ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ของยุโรป ที่หัวสะพานทั้งสองฝั่งมีรูปมังกรในแบบอาร์ตนูโวอยู่ฝั่งละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว เป็นเรื่องความผูกพันของชาวสโลเวเนียที่เชื่อกันว่าเจสันได้ขโมยขนแกะทองคำมา และได้เดินทางผ่านมายังลูบลีอานาและได้ปะทะกับมังกรแห่งลูบลีอานา ดังนั้น มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์อีกชิ้นที่ประดับอยู่บนตราประจำเมือง
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของเมืองโพสทอยน่า (Postojna) ซึ่งมีชื่อเดียวกัน และยังเป็นถ้ำสวยที่สุดในยุโรปแห่งหนึ่ง มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาวภายในถ้ำถึง 20 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่เปิดให้บริการมากว่า 188 ปี และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 31 ล้านคน
เป็นเมืองตากอากาศสุดหรูของเศรษฐียุโรป เป็นเมืองที่มีสมญานามว่า ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเลอาเดรียติก ทำให้เป็นที่พักผ่อนสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย
นางแห่งนกนางนวล (Maiden with the Seagull) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง โอพาเทีย
เมืองอยู่ในบริเวณระหว่างเนินทางใต้ของภูเขาเมดเวดนีตซา กับฝั่งเหนือของแม่น้ำซาวา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลเอเดรียติก และภูมิภาคแพนโนเนีย ทำให้สามารถติดต่อและคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคยุโรปกลางกับทะเลเอเดรียติกได้อย่างดี นอกจากนี้ซาเกรบยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหาร และเป็นที่ตั้งของกระทรวง หน่วยงานราชการต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย
รถราง Funicular (คนท้องถิ่นเรียกZET) เป็นรถรางที่เชื่อมระหว่างเมืองด้านล่างและเมืองด้านบน ซึ่งใช้เวลานั่งเพียง 55 วินาทีเท่านั้น รถรางแนวเฉียงขึ้นเขานี้เปิดใช้บริการตั้งแต่ปี1893 มีทางวิ่งยาวเพียง 66 เมตรถือเป็นรถรางที่สั้นที่สุดสายหนึ่งของโลก มีความชันเขาสูง 30 เมตรเลยทีเดยว
มหาวิหารเซนต์สตีเฟนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ย่านใจกลางของจัตุรัสสเตฟาน เป็นมหาวิหารที่สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมทางศาสนาแบบโกธิคในยุโรปและมีความสวยโดดเด่นสะดุดตา หอคอยทางทิศใต้มีความสูง 136 เมตรและเปิดให้ผู้เข้าชมสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมความสวยงามของวิวด้านบนโดยไต่บันไดขึ้นไป 343 ขั้น
ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก ช่วงเดือนแห่งใบไม้ร่วงนี้ สินค้าในตลาดโดแลค จะเจอผลไม้พวกลูกพีช ลูกพรุนสด แตงแบบแคนตาลูบ องุ่นสด ส้ม รวมทั้ง น้ำผึ้ง ลูกพีช ลูกใหญ่ๆนี่ อร่อยสุดๆ สดๆ เสน่ห์อย่างหนึ่งของโดแลค ตลาดแห่งนี้ คือ ตาชั่ง แบบใช้ตุ้มถ่วง
เป็นโบสถ์เซนต์มาร์กประจำเมืองซาเกรบ จุดเด่นคือมีหลังคากระเบื้องปูเป็นลวดลายรูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง ที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของซาเกรบ
นับว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา
ล่องเรือทะเลสาบ JEZERO KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติพลิทวิทเซ่แห่งนี้
เมืองซิบีนิกอยู่บริเวณปากแม่น้ำติดทะเล เป็นเมืองท่า แต่คลื่นลมไม่แรงเพราะอ่าวเว้าเข้ามาในแผ่นดิน และหน้าอ่าวยังมีเกาะชื่อ Zlarin คอยบังอยู่ปากอ่าว ทะเลอาเดรียติกมีเกาะริมชายฝั่งเยอะมาก ทั้งเกาะเล็กเกาะใหญ่นับร้อย ถือเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคแถบนี้
หนึ่งในมรดกโลกของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ที่เมืองซีเบนิคบนชายฝั่งดัลเมเชียน เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1402 สร้างจากหินปูนสีขาวจากเกาะบลอค ทั้งหลังไม่มี ไม้หรืออิฐปน
เป็นเมืองท่องเที่ยวริมทะเลของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองซาเกรบ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดัลเมเชีย อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง และถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีความเก่าแก่มาก อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าและการท่องเที่ยวของโครเอเชีย และที่สำคัญเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน
อดีตศาลาว่าการประจำเมืองสปลิท ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1443 ในสไตล์โกธิค ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดนิทรรศการประจำเมือง
People Square เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองสปลิท อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน ที่แห่งนี้มีร้านค้า ร้านของฝาก ร้านอาหารต่างๆ ตั้งกระจายอยู่รอบจัตุรัส
เป็นลานที่ล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชืิ่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้อย่างวิจิตรงดงาม
ยอดระฆังแห่งวิหาร (The Cathedral Belfry) แท่นบูชาของเซนต์โดมินัสและเซนต์สตาดิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหาร องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979
เป็นรูปปั้นของ Gregory Of Nin ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชีย เขาเป็นบิชอปแห่งนินโครเอเชียนที่ต่อต้านอำนาจของสมเด็จพระสันตะปาปาในยุคกลาง รูปปั้นนี้ถูกสร้างขึ้นในเดือนกันยายน ปี 1929 ตัวรูปปั้นมีความสูงประมาณ 8.5 เมตร ผู้คนในเเมืองมักจะชอบมาเดินลูบเท้าของรูปปั้นนี้ เพราะพวกเขาเชื่อว่าจะนำโชคและความสุขมาให้
พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยนแห่งโรมัน ซึ่งต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ภายในพระราชวังประกอบด้วย วิหารจูปิเตอร์ สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงและวิหารต่างๆ ซึ่งอยู่ภายในวิหาร องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979
เป็นเมืองทางตอนใต้ของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาซึ่งมีแม่น้ำคร่อมอยู่
ที่นี่เป็นตลาดหลักของเมืองโสตาร์ซึ่งเป็นเป็นตลาดที่คึกคักมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิออตโตมัน ตั้งอยู่ใกล้กับถนน Kujundziluk และสะพานเก่าในเขตประวัติศาสตร์ของเมือง ภายในตลาดเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย
เป็นบ้านแบบเติร์กของ Biscevic ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Biscevic บนฝั่งแม่น้ำ Neretva Biscevic’s House บ้านนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ภายในมีห้องขนาดใหญ่ ลานบ้าน อาคารห้องครัว มีการตกแต่งภายในที่ได้รับการจัดเรียงอย่างสวยงามในสไตล์โอเรียนทัล ส่วนด้านหน้าบ้านเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมตุรกีในเวลานั้น และปัจจุบันเจ้าของบ้านดังกล่าวยังคงเป็นชาวบอสเนียนเชื้อสายเติร์ก
เป็นเมืองๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขต Herzegovina-Neretva ของประเทศบอสเนียเฮอร์เซโกวีนา เป็นเมืองเดียวที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลเอเดรียติก เมืองนี้มีเนินเขาสูงชัน หาดทรายหิน โรงแรม รีสอร์ทตากอากาศมากมายหลายแห่ง
เมืองสตอน (STON) เมืองที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทร PELJASAC เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของหอยนางรมและผลิตภัณฑ์จากหอยนางรมสด ๆ จากทะเลเอเดรียติก เมืองสตอนถูกก่อตั้งประมาณศตวรรษที่ 14 โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นดูบรอฟนิค จากนั้นมีการก่อสร้างกำแพงเมืองล้อมรอบเมืองสตอน โดยใช้เวลาในการก่อสร้างกำแพงนี้ประมาณ 200 ปี มีความยาวกว่า 5.5 กิโลเมตร ตัวกำแพงเคยถูกระเบิดในสงครามปี ค.ศ. 1991 และแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1996 แต่ก็สามารถคงอยู่มาจนได้ถึงทุกวันนี้ เมืองสตอนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเรียกว่า “VELIKI STON” ซึ่งเป็นพื้นที่หลักของเมืองตั้งอยู่ติดกับริมฝั่งทะเล และอีกส่วนหนึ่งเรียกว่า “MALI STON” ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง โดยมีกำแพงเมืองดังกล่าวเป็นตัวเชื่อมสองส่วนของเมืองเข้าด้วยกัน
เมืองสตอนเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารทะเลรสเลิศ และมีฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมที่มีชื่อเสียง ท่านจะได้ชิมหอยนางรมสดๆจากฟาร์ม
เป็นเมืองจำพวกเมืองสวย เมืองเก่าที่เห็นตรงหน้า จึงเป็นผลจากการบูรณะขึ้นใหม่ แต่ก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จาก องค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ จึงเป็นระยะการเดินที่น่าสนใจไปทุกรายละเอียด เพราะนอกจากจะได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองแล้ว ยังได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ของเมืองเก่า และของกินทะเลอะเดรียติคอย่างเต็มอิ่ม
ได้รับการบอกเล่าว่าเป็นเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป จนได้รับฉายา "ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก" ริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่ง และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม
เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ระดับความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีส้ม และความงดงามทะเลอะเดรียติค เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติก ยามสีน้ำเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคำบรรยายใดๆ
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้จากใจกลางเมืองดูบรอฟนิก ที่นี่ให้บริการเที่ยวบินตรงไปยัง 60 เมือง ในทุกสัปดาห์จะมีเที่ยวบินภายในประเทศ 70 เที่ยวบินและเที่ยวบินระหว่างประเทศ 28 เที่ยวบินเป็นอย่างน้อยที่ออกจากท่าอากาศยานนี้
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย