เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ในเขต Vantaa ที่นี่เป็นที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในประเทศฟินแลนด์
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius (1865-1957) ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่แปลกตามากๆ ถูกออกแบบโดย Eila Hiltunen เป็นการสร้างโดยนำเอาแท่งเหล็กจำนวน 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยวชมกัน ซึ่งที่นี่จัดว่าเป็นตลาดสดกลางแจ้ง ที่จะมีแผงขายของมากมาย ที่นำเอาสิ่งของหลากหลายชนิดมาตั้งขายกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารนานาชนิด พวกผักผลไม้หลากหลายประเภท มีปลาแซลมอนขายด้วย แม้กระทั่งหนังกวางเรนเดียร์ก็มีให้เลือกซื้อหากันได้ รวมไปถึงที่นี่ยังมีสินค้าพวกงานฝีมือสวยๆ ของที่ระลึกต่างๆ ให้ได้เลือกช้อปเพื่อเป็นของฝากกันด้วย
เป็นจตุรัสใหญ่กลางเมืองเฮลซิงกิ ที่นี่มักจะเป็นสถานที่ใช้จัดเทศกาลหรือกิจกรรมต่างๆ และจุดนี้เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ในเขต Vantaa ที่นี่เป็นที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในประเทศฟินแลนด์
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางการบินระหว่างประเทศที่สำคัญ ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเรคยาวิกประมาณ 50 กิโลเมตร
เป็นภูเขาทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตกและธารน้ำรายรอบ เป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้ ภูเขาลูกนี้มีความสูงประมาณ 463 เมตร ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
เป็นเขตๆ หนึ่งที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศไอซ์แลนด์ เมืองนี้โด่งดังจากการมีบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่อุณหภูมิสูงสุด 97 องศาเซลเซียสและยังไหลเร็วที่สุดในยุโรป และน้ำตกลาวา หรือ Hruanfossar Waterfall น้ำตกที่พาดอยู่บนทุ่งลาวาที่ประทุขึ้นมาจากภูเขาไฟ
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และถือเป็นน้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป มีอุณหภูมิน้ำสูงที่สุดถึง 97 องศาเซลเซียส น้ำส่วนใหญ่ที่ใช้ในการทำความร้อนส่วนกลางในเมือง Borgarnes และ Akranes ด้วยท่อส่งน้ำที่มีความยาวหลายสิบกิโลเมตร
เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล มีทำเลที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มีชาวนอร์ดิคเป็นผู้อพยพกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี พ.ศ. 1413 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 2329
ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ และมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี ค.ศ. 1789 ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดด้านประวัติศาสตร์และด้านธรณีวิทยาเพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร จากนั้นไปชมน้ำตกกูลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศและยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่า ทองคำ และ Foss ที่แปลว่า น้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึง น้ำตกทองคำ ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่ความสูงกว่า 30 เมตร แล้วไปชมน้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อน หรือ เกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีย์เซอร์ geyser ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7–10 นาที ไอซ์แลนด์เหมือนพระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างประณีต พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ ได้เวลานำคณะเดินทางสู่เซลฟอสส์
อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวและยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไอซ์แลนด์
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดแถบ Iceland ที่มีความสูงถึง 1,491 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และยังคงคุกรุ่นอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งปะทุครั้งล่าสุดในปี พ.ศ. 2543
เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 62 เมตร เป็นม่านน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลลงจากหน้าผาสูงชันด้านบนลงสู่พื้นราบด้านล่าง ที่นี่เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตภาคใต้ของไอซ์แลนด์ และยังเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดและมีขนาดใหญํเป็นอันดับ 5 ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย
เป็นธารน้ำแข็งที่มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 ของธารน้ำแข็งทั้งหมดในไอซ์แลนด์ พื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวจะพบกับประสบการณ์ใหม่กับคำเปรียบเปรยที่ว่า “อย่าเพิ่งไปจากไอซ์แลนด์ หากท่านยังไม่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากธารน้ำแข็ง” ด้วยการขับรถสโนว์โมบิล
ความสนุกของการขี่สโนว์โมบิล คือความเร็ว ความคล่องตัว อารมณ์เดียวการขับเจ็ทสกี แต่ที่ดีกว่าคือการขับเล่นกันบนหิมะ ผ่านป่าน้ำแข็งและทุ่งกว้าง หรือจะขับขี่บนทะเลสาบที่เป็นกลายเป็นน้ำแข็งก็แล้วแต่สภาพแวดล้อมในแต่ละที่ สโนว์โมบิลจะมีที่จับเหมือนมอเตอร์ไซค์ แล้วจะมีที่จับโผล่มาสำหรับให้นิ้วโป้งเรากด เพื่อใช้เวลาเร่งความเร็ว ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าลองมากทีเดียว
หมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี 1991 เป็นหมู่บ้านที่มีฝนตกมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชายหาดที่ดีที่สุดแต่ก็เป็นสถานที่น่ามหัศจรรย์ที่น่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และลึกเป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ ธารน้ำแข็งบนทะเลสาบนี้มีอายุนับได้หลายๆ ร้อยปี
ไอซ์เบิร์ก หรือภูเขานํ้าแข็งก้อนโตๆ เรียงรายโผล่พ้นพื้นนํ้าในทะเลสาบ ยามกระทบแสงแดดก่อให้เกิดสีสันสวยงามที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก
หนึ่งในผลงานของธรรมชาติที่บรรจงสร้างสรรค์ดินแดนแห่งนี้ให้สวยงาม รวมไว้ซึ่งธรรมชาติอันแปลกตาหลายสิ่งอยู่ที่เดียวกัน เช่น ภูเขาไฟสูงเสียดฟ้าที่มีหิมะปกคลุมทั้งปี ธารน้ำใสซึ่งไหลรินจากภูเขาสูง รอบๆเป็นป่าแคระอันอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นเบิร์ชแคระ และทุ่งดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์บานสะพรั่งในฤดูดอกไม้ผลิของแต่ละปี ชมมวลลาวาขนาดใหญ่เป็นแนวกว้างที่เกิดการเย็นลงอย่างช้าๆทำให้เกิดแนวแตกเป็นเสาเหลี่ยม ถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง
เขตอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดชื่อว่า VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตารางกิโลเมตร เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนามากที่สุด หนาประมาณ 1,000 เมตร
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เป็นเมืองการประมงและอุตสาหกรรมบนคาบสมุทรทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ มีชื่อเสียงจจากการเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำร้อนบลูลากูน สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดหากได้มาเยือนไอซ์แลนด์
น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดของไอซ์แลนด์ บ่อน้ำพุร้อนที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุซึ่งมีชื่อเสียงในการรักษาโรค มีอุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส
เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล มีทำเลที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มีชาวนอร์ดิคเป็นผู้อพยพกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี พ.ศ. 1413 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 2329
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์
สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือชมปลาวาฬ ให้ท่านได้ชมวาฟตัวใหญ่ๆ อย่างใกล้ชิด
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางการบินระหว่างประเทศที่สำคัญ ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเรคยาวิกประมาณ 50 กิโลเมตร
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ในเขต Vantaa ที่นี่เป็นที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในประเทศฟินแลนด์
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ในเขต Vantaa ที่นี่เป็นที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในประเทศฟินแลนด์
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย