เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ให้บริการเมืองฉางชุน ตัวท่าอากาศยานตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฉางชุนประมาณ 32 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2005 เพื่อแทนที่ท่าอากาศยาน Changchun Dafangshen ซึ่งเป็นท่าอากาศยานร่วมกันระหว่างสวนพลเรือนกับกองทัพ ที่นี่เป็นศูนย์ปฎิบัติการหลักของสายการบิน China Southern Airlines
เมืองฉางชุน เมืองฤดูใบไม้ผลิแห่งเขตเหนือของจีน แต่เดิมฉางชุนเป็นศูนย์กลางอำนาจของเผ่าแมนจู เมื่อญี่ปุ่นเข้ายึดครองเขตแมนจูเรียในช่วงปี 1938-1945 ได้สถาปนาเป็นรัฐแมนจูกัว และได้ประกาศตั้งฉางชุนเป็นเมืองหลวงหลังญี่ปุ่นสิ้นอำนาจ
วังปูยี หรือ พระราชวังจอมปลอม ซึ่งเป็นที่ประทับของจักรพรรดิปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิงหรือกษัตริย์องค์สุดท้ายของแผ่นดิน นอกจากนี้ให้ท่านชมห้องหับต่างๆที่ปูยีเคยใช้นอน , นั่งสูบบุหรี่ , อ่านหนังสือ และใช้ความคิดตามลำพัง มีรูปภาพและจดหมายให้เห็นภาพในช่วงนั้น และจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงชีวิตความเป็นอยู่ในวัง นอกจากนั้น ท่านยังสามารถชม กระทรวงทั้งแปดของแมนจู (ชมภายนอก) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฉางชุน บนถนนซินหมิน ได้อีกด้วย
ตึกกระทรวงทั้งแปดของแมนจู ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฉางชุน บนถนนซินหมิน สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1936 ประกอบด้วยกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงเกษตร, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ตึกกระทรวงทั้งแปดนี้มีการสร้างและตกแต่งสไตล์จีนผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งมีความลงตัวที่สวยงาม...
เป็นจัตุรัสวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฉางชุน มีกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตร กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1936 สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองหมั่นโจว
เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง เดิมคือป้อมปราการ เรียกว่า ฉวงฉ่าง
แม่น้ำซงฮัวเจียง ซึ่งท่านจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แม่น้ำซงฮัว หรือ แม่น้ำซงฮัวเจียง แม่น้ำสายสำคัญของเมืองฮาร์บิน ซึ่งในช่วงฤดูหนาว แม่น้ำสายนี้ก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง กลายเป็นสถานที่พักผ่อนและเป็นสถานที่จัดกีฬาหน้าหนาว มีทั้งการเล่นสกีน้ำแข็ง สุนัขลากเลื่อนและที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คืดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำแข็ง เพื่อเป็นการทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย
ซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์กันหนาวให้พร้อมสวยพร้อมหล่อ ก่อนเผชิญความหนาวสุดขั้วที่แสนประทับใจกับทัวร์ฮาร์บิ้นนี้
จตุรัสซื่อจี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจี๋หลิน สถานที่พักผ่อนสุขสำราญ เป็นวงเวียนใหญ่ มีสพานข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำซงฉัวเจียง
พิพิธภัณฑ์แมนจู สร้างขึ้นในปี 1932 มีพื้นที่ 865 ตารางเมตร ภายในมีจัดแสดงสิ่งของวัตถุโบราณเกี่ยวกับของใช้ในชีวิตประจำวัน, อาวุธ, เครื่องมือเกษตรกรรมของชาวแมนจู และยังมีห้องที่จัดแสดงวิธีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ, เทพเจ้าของชาวแมนจูอีกด้วย
เป็นเมืองระดับเขตของจี๋หลินที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้โดยตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาฉางไป่ ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของบัลแฮระหว่างปี 742−756 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเวลานั้นว่า "จองกยอง" ในช่วงราชวงศ์ชิง
หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแม่น้ำมู่ตานเจียง เป็นหมู่บ้านที่มีหิมะหนากว่า 1 เมตร วิวหมู่บ้านงดงามมาก การก่อสร้างแต่ละบ้านเป็นไปในรูปแบบเดียวกันทั้งหมด เมื่อได้เข้าไปหมู่บ้านนี้เหมือนเข้าไปในโลกของเทพนิยายที่เหนือจินตนาการ ในช่วงกลางคืนที่ถนนหลักของหมู่บ้านจะมีการประดับไฟ ให้บรรยากาศที่สวยงามโรแมนติกไปอีกแบบ
ที่นี่เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของการท่องเที่ยวในเส้นทางฮาร์บิ้น ซึ่งเป็นที่ถ่ายทำหนัง ละคร และรายการต่างๆ ซึ่งมีความงดงามมาก ตั้งอยู่ใกล้กับถนนคนเดิน XUEYUN ที่นี่ท่านสามารถเห็นความหลากหลายของ "เห็ดหิมะ" ที่สวยงาม เห็ดหิมะที่จริงแล้วเป็นบ้านแต่ละบ้านที่ติดกัน เป็นบ้านเล็กๆ ความสูงเท่ากันหมด ตอนหิมะลงบนหลังคา ดูเหมือนเห็ด จึงตั้งชื่อเห็ดหิมะ
ถนนเส้นนี้เป็นถนนคนเดินสายหลักในหมู่บ้านหิมะ มีระยะทางประมาณ 500 เมตร ตอนกลางคืนตามข้างทางจะประดับไปด้วยไฟสีสวยงาม เป็นจุดถ่ายรูปบรรยากาศความหนาวที่มีความสวยงามยิ่ง
ฮาร์บิ้นเป็นเมืองหลวงของมณฑลเฮยหลงเจียง มีช่วงฤดูหนาวมากกว่าฤดูร้อนและเลื่องชื่อในฐานะเป็นเมืองน้ำแข็งของประเทศ ฮาร์บินมีสมญานามว่า 'ไข่มุกบนคอหงส์' เนื่องจากสัญฐานของมณฑลเหยหลงเจียงมีลักษณะคล้ายหงส์ ส่วนสมญานามอื่นๆ คือ 'มอสโคว์แห่งตะวันออก' หรือ 'ปารีสแห่งตะวันออก' เนื่องจากลักษณะสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนในเมืองคล้ายกับในมอสโกหรือปารีส และฮาร์บินยังเป็นที่รู้จักในชื่อ 'เมืองแห่งน้ำแข็ง' เพราะมีฤดูหนาวที่ยาวนานและหนาวเย็นมาก
เป็นนิทรรศการและศิลปกรรมแกะสลักหิมะประจำปีของฮาร์บิ้น ซึ่งที่นี่ถือเป็นสถานที่จัดแสดงการแกะสลักหิมะน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนที่โด่งดังไปทั่วโลก ภายในการแกะสลักน้ำแข็งกำแพงเมืองจีน สวนหิมะ และอีกหลากหลายแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน ท่านสามารถถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เหมือนกับท่านได้อยู่ในนิทรรศการแกะสลักหิมะน้ำแข็งอย่างแท้จริง
เป็นเกาะขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำซงฮัวเจียง มีเนื้อที่ประมาณ 3,800 เฮคเตอร์ เดิมเป็นสถานที่พักฟื้นของกรรมกรใช้แรงงานเมืองฮาร์บิ้น สถานที่สวยงามร่มรื่น เงียบสงบและมีมนตเ์สน่ห์นับเป็นสถานที่อาบแดดที่วิเศษสุด นอกจากนั้นยังมีเรือ จักรยาน และรถบริการให้เช่าอีกด้วย ส่วนในช่วงฤดูหนาวเมื่อเกาะแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ก็จะกลายเป็นสถานหย่อนใจในอุดมคติที่เหมาะอย่างยิ่งกับกิจกรรมหลากหลายชนิดบนลานน้ำแข็ง อาทิเช่น สเก็ตน้า แข็ง, เลื่อนหิมะ เป็นต้น
เป็นถนนคนเดินแห่งเมืองฮาร์บิ้น ปูพื้นด้วยหินสีเขียวอ่อนทั้งสาย เป็นถนนย่านธุรกิจและการค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองฮาร์บิ้น ทอดตัวอยู่ในเขตเต้าหลี่ เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตามสองข้างทาง ของถนนสายนี้ มีสิ่งก่อสร้างสไตล์ ต่างประเทศ ปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันจะเห็นผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ไม่ขาดสาย
อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ ณ บริเวณชายฝั่งแม่น้ำซงฮัว เป็นอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงความพยายามของชาวเมืองฮาร์บินที่พยายามต่อสู้กับอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 1957 ตัวอนุสาวรีย์มีลักษณะเป็นเสาทรงกลมแบบโรมัน สูง 13 เมตร บนยอดเสาเป็นรูปแกะสลักกลุ่มกรรมกรชาวนา ทหาร ข้าราชการ และนักศึกษาที่ร่วมใจร่วมแรงกันในการต่อสู้กับอุทกภัยดังกล่าว
เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลต เครื่องประดับ เสื้อผ้า หรือของฝากพื้นเมืองแบบรัสเซียต่างๆ ในฮาร์บิ้น
โบสถ์เซ็นโซเฟียฮาร์บิน เป็น 1 ในโบสถ์คริสต์ที่แสดงถึงวัฒนธรรมรัสเซียที่ได้เข้ามามีอิทธพลในฮาร์บิ้น โบสถ์โซเฟียเป็นโบสถ์นิกายออร์โธด็อกซ์ที่สร้างขึ้นในปี 1907 โดยเป็นโบสถ์ออร์โธด็อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออก
สถานีรถไฟฮาร์บิ้น เพื่อโดยสาร รถไฟความเร็วสูง) ด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่วิ่งด้วยความเร็วสูง 250 - 350 กิโลเมตร / ชั่วโมง
เป็นรถไฟความเร็วสูงที่บริหารงานโดยการรถไฟจีน มีความเร็วสูงสุดประมาณ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง การออกแบบระบบรถไฟความเร็วสูงทั้งหมดได้ถูกออกแบบมาจากต่างประเทศ ใช้สำหรับการเดินทางที่รวดเร็วระหว่างเมือง ปัจจุบันจีนมีแบบรถไฟความเร็วสูงต่างๆ มากมาย ใช้งานไปตามแต่ละสภาพภูมิประเทศ และเศรษฐกิจ
เป็นเมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง มีซื่อเดิมเป็นภาษาแมนจูว่า “มุกเดน” เมืองที่ในอดีตเคยอยู่ใต้การปกครองของรัสเซียจนถึงปี 1931 จึงตกเป็นของญี่ปุ่น และกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของรัสเซียอีกครั้งในปี 1945
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองเสิ่นหยางซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหลียวหนิง ตั้งอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตรไปทางใต้ของใจกลางเมือง ท่าอากาศยานนี้เป็นฐานปฏิบัติการหลักของสายการบิน China Southern Airlines
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี