เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าท่าอากาศยานเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat) ที่นี่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อต้นทศวรรษที่ 1930 (พ.ศ. 2473-2482) โดยรัฐบาลภายใต้อาณัติของฝรั่งเศสได้สร้างท่าอากาศยานขนาดเล็กขึ้นในหมู่บ้านเตินเซินเญิ้ต จึงเป็นที่รู้จักในชื่อนี้ ท่าอากาศยานโฮจิมินห์ถือเป็นหนึ่งในประตูเข้าออกระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม
เป็นเมืองตากอากาศชั้นดีของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลของจังหวัดบิ่ญถ่วน ในภูมิภาคภาคกลางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ ประมาณ 230 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของชายหาดที่เงียบสงบ และทะเลทรายอันกว้างใหญ่
ทะเลทรายขาว เป็นทะเลทรายสีขาวอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองมุยเน่ ห่างไปประมาณ 20 กิโลเมตร มีทะเลสาบที่สวยงามขนาบข้างของเนินทราย เรียกว่า "ทะเลสาบ Bau Trang" ซึ่งครอบคลุมเนื้อที่มากถึง 70 เฮกเตอร์ กว้างประมาณ 500 เมตร และลึกประมาณ 19 เมตร ในทะเลทรายมีทะเลสาบเล็กๆ อยู่ตรงกลาง ภายในทะเลสาบเต็มไปด้วยดอกบัวสีสันสดใส
ทะเลทรายแดง มีขนาดกว้างใหญ่ทอดตัวยาวตั้งแต่ริมฝั่งทะเลเข้าไปในตัวแผ่นดิน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50 เฮกเตอร์ เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมคือช่วงเช้า หรือช่วงหลังจาก 15.00 น. เป็นต้นไป เพราะกระแสลมไม่แรงและแดดไม่ร้อนมากจนเกินไป
เป็นธารน้ำสีแดงธรรมชาติที่เป็นจุดท่องเที่ยวแลนมาร์คหนึ่งเมื่อได้มาเยือนมุยเน่ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความงดงามของผืนน้ำตื้นอันสดชื่น ชั้นดินที่สูงลดลั่นกัน สลับกับสีสันของดินทรายที่สวยงาม
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเลียนเคือง ตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร บนที่ราบสูงลางเบียน ดาลัดเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดตลอดกาลของเวียดนาม ชื่อเมืองนั้นแปลว่าเมืองแห่งสนพันต้น และยังถูกเรียกว่าเมืองที่แห่งใบไม้ผลิ ซึ่งมาจากอากาศที่เย็นสบายกำลังดีตลอดทั้งปี
ให้ท่านเพลิดเพลินกับรถรางโรลเลอร์โคสเตอร์ ท้าทายความหวาดเสียว ผ่านผืนป่าอันร่มรื่นเขียวชอุ่มลงสู่หุบเขาเบื้องล่างของน้ำตกดาทันลา
น้ำตกดาตันลา ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในดาลัด อยู่นอกเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร น้ำตกดาตันลาเป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มากแต่มีความสวยงามเนื่องจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เกื้อหนุนทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก
เป็นสวนดอกไม้ประจำเมืองดาลัด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2509 เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ไกล้ทะเลสาบ โดยอยู่ห่างประมาณ 2 กิโลเมตรจากใจกลางเมือง ภายในสวนมีดอกไม้หลายชนิดให้ผู้เข้าชมได้อิ่มเอิบไปกับความสวยงามของดอกไม้ชนิดต่างๆ นับพันชนิด
นั่งรถม้าชมบรรยากาศอันแสนสบายของเมืองดาลัด หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสุดขึ้นชื่อของเวียดนามใต้
เป็นจัตุรัสหลักประจำเมืองดาลัด ที่เป็นย่านเดินเล่นชิวๆ โดยเฉพาะในตอนเย็นจะเป็นแหล่งรวมผู้คนทั้งเด็ก วัยรุ่น และคนทำงานมาพักผ่อนหย่อนใจ บางคนมาเล่นสเก็ต เตะฟุตบอล เดินออกกำลังกาย รวมไปถึงสถานที่ๆ คู่รักชอบมาออกเดท ที่ชั้นใต้ดินของจัตุรัสนี้ยังมีบิ๊กซี และโรงภาพยนตร์ให้บริการด้วย
เป็นร้านคาเฟ่ในเมืองดาลัดตรงบริเวณจัตุรัสประจำเมือง ที่มีมีลักษณะโดดเด่นที่ชัดเจนจากร้านอื่นๆ คือตัวอาคารมีลักษณะโดมดอกอาร์ติโชค (Atiso) เป็นดอกไม้เมืองหนาวที่ปลูกเยอะมากในเมืองดาลัด
เป็นทะเลสาบที่อยู่ใจกลางเมืองดาลัด ทะเลสาบกลางเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงาม ในบางเวลาที่ลมสงบ ผืนน้ำในทะเลสาบสวยงามราวกับกระจกที่สะท้อนเงาของก้อนเมฆบนท้องฟ้าและต้นสนที่อยู่ริมทะเลสาบ ด้วยความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้ทำให้ทั้งชาวเมืองดาลัทเองและนักท่องเที่ยวนิยมมานั่งเล่นหรือมาออกกำลังกายริมทะเลสาบในยามเย็น
ไนท์มาเก็ตที่เมืองดาลัดเขาจะมีถนนคนเดินที่อยู่ริมถนนเส้นล่างด้านหน้าตลาดดาลัด มีร้านเสื้อผ้า ร้านขายอาหารมากมายริมถนน มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่น มีศิลปินมารับวาดรูปเหมือน เขียนหนังสือภาษาเวียดนาม และอื่นๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวเดินชมกันได้ตามอัธยาศัย
เป็นกระเช้าไฟฟ้าเคเบิลคาร์บนเทือกเขาโรบินฮิลล์ บนกระเช้านักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวเมืองดาลัดจากที่สูง และยังสามารถนั่งไปยังวัดตั๊กลัม ซึ่งเป็นวัดพุทธในนิกาย ZEN แบบญี่ปุ่นได้
วัดตั๊กลัมวัดพุทธในนิกายเซนแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเทือกเขาเฟืองฮว่าง ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม สะอาด เป็นระเบียบ ทัศนียภาพโดยรอบล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง นับได้ว่าเป็นหนึ่งในวัดที่นิยมและงดงามที่สุดในเมืองดาลัด
ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาโดยสถาปนิคชาวเวียดนามโดนคิดว่าจะออกแบบแนว "เทพนิยาย" โดยที่ตัวตึกหน้าตาออกมาเหมือนต้นไม้ และด้วยการออกแบบและตกแต่งภายในที่แปลกประหลาด ทำให้ขึ้นชื่อเรื่องความเพี๊ยน
เป็นหนึ่งในพระราชวังของจักรพรรดิ์เบ่าได๋ที่ยังดำรงไว้อยู่ ซึ่งพระองค์ทรงสร้างพระราชวังนี้เอาไว้ใช้เป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนตั้งแต่ช่วง พ.ศ.2493 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้
เป็นสวนดอกไม้ที่มีดอกไฮเดรนเยียร์สีสันสวยสดใสเบ่งบานสะพรั่งไปทั่วสวน และเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองดาลัดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองแห่งนี้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเก็บภาพความสวยงามนี่ไว้เป็นที่ระลึกอย่างเต็มอิ่ม
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ของดาลัด เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 2019 ที่นี่เป็นเสมือนนิทรรศการศิลปะแห่งแสง ที่มีธีมเป็นเมืองดอกไม้แห่งสรรค์ของดาลัดซึ่งเป็นเมืองที่รู้จักกันดีในเรื่องของเมืองแห่งดอกไม้ สวนแห่งแสงนี้นำเสนอเทคโนโลยีการเล่นศิลปะของแสงตามพื้นที่ต่างๆ ภายในให้เป็นภาพอันสุดสวยงามเกินบรรยาย เสมือนก้าวไปอยู่ในโลกที่สุดเหนือจินตนาการ
ไนท์มาเก็ตที่เมืองดาลัดเขาจะมีถนนคนเดินที่อยู่ริมถนนเส้นล่างด้านหน้าตลาดดาลัด มีร้านเสื้อผ้า ร้านขายอาหารมากมายริมถนน มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่น มีศิลปินมารับวาดรูปเหมือน เขียนหนังสือภาษาเวียดนาม และอื่นๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวเดินชมกันได้ตามอัธยาศัย
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และเล่นบทสำคัญในสงครามเวียดนาม ได้ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง แต่ชื่อที่คนจดจำก็คือเมืองไซง่อน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม จากประชากรร้อยละ 7.5 ของประเทศ แต่มีจีดีพีถึงร้อยละ 20.2 และการลงทุนจากต่างประเทศมากถึงร้อยละ 34.9 ของทั้งประเทศ
โบสถ์นี้ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองโฮจิมินห์ บนถนน Han Thuyen ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปี โบสถ์นี้ไม่มีการประดับด้วยกระจกสีเหมือนโบสถ์คริสต์ที่อื่น เพราะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับโบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียตนาม โดยในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโฮจิมินห์
ศาลาไปรษณีย์นี้ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม ที่นี่ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 โดยอาณานิคมฝรั่งเศส แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2444 มีการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศส และได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี มีความโอ่โถงและอ่อนช้อยทว่ามั่นคง จนทำให้นักออกแบบมากมายต้องมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคารแห่งนี้ ภายในตัวอาคารมีการระดับภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด โทรศัพท์ระหว่างประเทศในอัตราค่าบริการมาตรฐาน
เป็นตลาดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นแค่เพียงพ่อค้าข้างถนนที่ยืนร่วมกันใกล้ๆ กับแม่น้ำไซง่อน ที่นี่เป็นตลาดหลักของเมืองโฮจิมินห์ ซึ่งถูกเปลี่ยนสถานที่ตั้งมาอยู่จุดล่าสุด และถูกตั้งชื่อว่า "ตลาดเบนถัน"
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าท่าอากาศยานเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat) ที่นี่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อต้นทศวรรษที่ 1930 (พ.ศ. 2473-2482) โดยรัฐบาลภายใต้อาณัติของฝรั่งเศสได้สร้างท่าอากาศยานขนาดเล็กขึ้นในหมู่บ้านเตินเซินเญิ้ต จึงเป็นที่รู้จักในชื่อนี้ ท่าอากาศยานโฮจิมินห์ถือเป็นหนึ่งในประตูเข้าออกระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี