เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ให้บริารเมืองบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ตั้งอยู่ห่างไป 16 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางเมือง ท่าอากาศยานนี้มีอีกชื่อว่าเฟเรนซ์ ลิซท์ ชื่อนี้ถูกตั้งในปี 2011 เป็นเกียรติแก่นักแต่งเพลงชาวฮังการีที่มีชื่อเสียงที่สุด Franz Liszt เนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปีเกิดของเขา
กรุงบูดาเปสต์ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี และเป็นศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่งของประเทศ เป็นเมืองเดี่ยวที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบ และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของยุโรป
เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุ 700 ปี ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โบถส์แห่งนี้ตั้งชื่อตามพระนามของกษัตริย์แมทธิอัส กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฮังการี มีหลังคาสลับสีอันสวยงามตามสไตล์นีโอ-โกธิค ส่วนด้านโบสถ์ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสี และกระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่งดงามเกินคำบรรยาย
เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างไว้เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในคราวที่ถูกพวกมองโกลเข้ามารุกราน และที่แห่งนี้ยังจุดชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองที่สวยที่สุด สามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้แบบพาโนรามา
เป็นสะพานแขวนในเมืองบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ที่ทอดข้ามสะพานดานูบเพื่อเชื่อมต่อตัวเมืองระหว่างฝั่งตะวันตกกับตะวันออกไว้ด้วยกัน สะพานนี้ออกแบบโดยวิศวกรชาวอังกฤษ William Tierney Clark และสร้างโดย Adam Clark วิศวกรชาวสก็อตซึ่งเป็นสะพานถาวรแห่งแรกที่ข้ามแม่น้ำดานูบในฮังการีโดยเปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1849 และถูกใช้านมาจนถึงปัจจุบัน
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชม ถือว่าป็นสัญลักษณ์ของฮังการี อาคารรัฐสภานี้ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค มีหลังคาสีแดง และรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร
ล่องเรือชมแม่น้ำดานูบ แม่น้ำที่ยาวที่สุดในสหภาพยุโรป และยาวเป็นอันดับสองของทวีปยุโรป (รองจากแม่น้ำโวลก้า) มีต้นกำเนิดที่แถบป่าดำ ในประเทศเยอรมนี เกิดจากแม่น้ำเล็กๆ สองสาย คือ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมือง Donaueschingen
เป็นเอาท์เลตภายใต้ยี่ห้อ MacArthurGlen Group ซึ่งเริ่มในอเมริกาเหนือ ถนัดเรื่องการเปิดเอาท์เลตซึ่งขยายมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2546 ภายในเอาท์เลตแห่งนี้จะมีร้านสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ นับร้อยแบรนด์ที่ขายในราคาพิเศษ
เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็นชื่อเขตการปกครองในออสเตรียด้วย เวียนนาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง
เป็นสัญลักษณ์อันงดงามของมหานครเวียนนา ถูกสร้างขึ้นให้หรูหราเทียบเท่ากับพระราชวังแวร์ซาย มีห้องมากกว่าถึง 1,400 ห้อง ความโดดเด่น ก็คือ สถาปัตยกรรมแบบร๊อกโคโค่ โดยเฉพาะตัวอาคารสีเหลืองอร่าม “เหลืองเทเรซ่า”แม้จะได้ชื่อว่าเลียนแบบมาจากฝรั่งเศส แต่ความอลังการก็สามารถสร้างความตื่นตาให้กับผู้เข้าชม จนได้รับการประกาศจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกในปี1996
เป็นถนนวงแหวนรอบกรุงเวียนนา ที่รายล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จัดวางได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พระราชวังฮอฟบรูก์ กลุ่มอาคารพระราชวังของจักรพรรดิ อิมพิเรียลอพาร์ตเมนท์ หอศิลป์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติ
เป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของกรุงเวียนนา ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐ เป็นตำหนักที่เคยใช้เป็นสถานที่พักของราชวงศ์ต่างๆ มาก่อนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ.1300 และยังเป็นที่พักของผู้มีอิทธิพลต่างๆ มากมายในออสเตรียมาก่อน
เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเวียนนา ซึ่งมีชื่อที่นิยมเรียกกัน Stephansdom เป็นภาษาเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์หลายๆอย่างเกิดขึ้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตรงกลางเป็นโดมที่สวยงามขนาบด้วยหอระฆังที่มีความใหญ่โตทั้งสองด้าน โดยหอระฆังด้านหนึ่งบรรจุระฆังขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการี สามารถชมวิวของเมืองบูดาเปสต์ได้แบบโดยรอบ
เป็นถนนสายช้อปปิ้งประจำกรุงเวียนนา เมื่อก่อนเป็นถนนสายหลักจากตัวเมืองถึงกำแพงเมือง ชื่อ Strata Carinthianorum แต่ตอนนี้ได้ถูกออกแบบใหม่ตั้งชื่อใหม่ และเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินที่เอาไว้ให้คนเดินช้อปปิ้ง ที่มีร้านค้า ร้านแบรนด์เนมต่างๆ ตลอดสองข้างทาง
หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด เป็นเขตชุมชนโบราณของพวกเคลติก ชนพื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรป ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก้
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหยดน้ำแห่งแคว้นโบฮีเมีย อยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ก ใกล้ชายแดนออสเตรีย มีจุดเด่นคือมีลำธารตัดผ่านเล็กๆ ที่คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว s ทำให้ภูมิทัศน์ตัวเมืองดูเหมือนหยดน้ำที่นี่ ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
เป็นปราสาทที่เป็นแลนมาร์คของเมืองเชสกี้ครุมลอฟ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเช็ก รองจากปราสาทปราก ที่นี่มีหอคอยทรงกลมไว้สำหรับชมวิว มีอายุมากกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของชนชั้นสูง จนปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองไป
เมืองใหญ่ที่สุดในเขตโบฮีเมียใต้นี้เป็นแหล่งกำเนิดเบียร์ Budweiser ขึ้นชื่อในเรื่องของโรงเบียร์ สถาปัตยกรรมยุคกลาง และพิพิธภัณฑ์ จัตุรัสที่มีสถาปัตยกรรมน่าทึ่ง โรงงานเบียร์ พิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่ริมทางต่างรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ในเชสเกบุดเยยอวีตเซ คือเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้น Jihočeský kraj และเป็นเมืองศูนย์กลางการเมืองการปกครอง รวมทั้งการค้าทางภาคใต้ทั้งหมด เบียร์ดังอย่าง Budweiser ก็มีต้นกำเนิดที่เมืองนี้
เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำแร่ และเป็นเมืองแห่งสปาชั้นดี ที่ในอดีตราชวงศ์ต่างๆ ในยุโรปและรัสเซีย รวมถึงชนชั้นสูงทั้งหลายจะต้องมาที่เมืองนี้ แม้แต่ Beethoven และ Mozart ก็เคยมาเยือนเมืองนี้ด้วย ทำให้เมืองคาร์โลวี วารี เป็นเมืองสปาที่ใหญ่ระดับโลกและมีชื่อเสียงมากที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก และด้วยความสวยงามของอาคารสถานที่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ทำให้ภาพยนต์หลายเรื่องมาถ่ายทำที่นี่
เป็นเมืองหลวงเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Vltava เมืองนี้มีภูมิอากาศแบบมหาสมุทรที่ค่อนข้างอบอุ่นในฤดูร้อนและฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็น ปรากเป็นศูนย์กลางทางการเมืองวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของยุโรปกลางพร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในปี 2017 ปรากได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองในยุโรปที่มีนักท่อเที่ยวมากเป็นอันดับห้า รองจากลอนดอน ปารีส โรม และอิสตันบูล
สะพานเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ สร้างในสไตล์โกธิกที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอม่อค้ำยัน 16 ตอ จุดเด่นของสะพานนี้ก็คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานราว 30 องค์
ประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338หาซื้องานศิลปะจากศิลปินอิสระ แล้วเชิญท่านช้อปปิ้งเครื่องแก้วโบฮีเมียนคริสตัลที่มีชื่อเสียงของสาธารณะรัฐเชค
เป็นศาลาว่าการเมืองหลังเก่าที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ของปราสาทแห่งกรุงปรากตรงบริเวณจัตุรัสเมืองเก่า มีลักษณะเป็นอาคารสูงที่มีหอนาฬิกาอยู่ด้านบน
หอนาฬิกาดาราศาสตร์นี้ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสเมืองเก่ากลางกรุงปราก นาฬิกาโบราณคู่บ้านคู่เมืองของกรุงปร๊าก เป็นนาฬิกาที่สามารถแสดงข้อมูลทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ หรือกลุ่มดาวจักรราศี
เป็นปราสาทอันสุดอลังการที่สร้างอยู่บนเนินเขา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปราสาทมีการบูรณะเป็นระยะ ภายในกำแพงที่ล้อมปราสาทประกอบด้วยพระราชวัง โบสถ์ วิหาร วัด ถนน อุทยาน และหอคอย บริเวณหน้าปราสาทมีทหารรักษาการณ์แต่งเครื่องแบบงามสง่ายืนเฝ้าอยู่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในโลก
มหาวิหารเซนต์วิตุส เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก การก่อสร้างในช่วงแรกๆ ยังไม่สมบูรณ์ มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายร้อยปี ภายในมหาวิหารประดับกระจกสีอันวิจิตรงดงาม เป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่น่าสนใจก็คือบริเวณแท่นบูชาของเซนต์เวนเซสลาส ที่ตกแต่งด้วยภาพวาดเทคนิคเฟรสโกและอัญมณีมีค่าถึง 1,345 ชิ้น
เป็นชื่อย่านถนนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ของปราสาทปราก โดยชื่อมาจากตำนานในการผลิตทองเมื่อศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันมีร้านค้าของที่ระลึกจำนวนมาก และมีพิพิธภัณฑ์ของอาวุธในอดีตอีกด้วย ภายในหมู่บ้านแห่งนี้หน้าบ้านแต่ละหลังจะใช้สัญลักษณ์ต่างๆ แทนเลขที่บ้าน
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ทันสมัยและกว้างขวางตังอยู่บนขอบทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปราก เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก โดยอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 20 กิโลเมตร
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย