เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่รองรับการจราจรทางอากาศของเมืองมิลาน และเป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดของอิตาลี แต่ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมดจะเป็นรองท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟิอูมิชิโน
มิลาน หรือ มิลาโน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าแบบอาคารกระจกเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย มมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองจากที่นี่ก็ได้
เป็นโรงละครสกาล่าเก่าแก่ของเมืองมิลาน และเป็นพื้นที่จัตุรัสเดินเท้าของมิลานที่เชื่อมต่อกับจตุรัสหลักอย่าง Piazza del Duomo ส่วนตัวโรงละครสันนิษฐานกันว่าถูกสร้างขึ้นมาในปี 1778
เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆ ดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเวโรนา แคว้นเวเนโตในประเทศอิตาลี เมืองนี้เป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยเหตุที่มีความสำคัญทางศิลปะและวัฒนธรรม ที่เห็นได้งานนิทรรศการประจำปีหลายงาน โรงละคร และอุปรากรในโรงละครกลางแจ้งที่สร้างโดยโรมัน
เป็นบ้านที่เป็นสถานที่เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราว "โรมิโอกับจูเลียต" ที่ซึ่งสาวๆ ที่ผิดหวังกับความรักจะมาเขียนจดหมาย เขียนข้อความบอกและอธิKฐานให้ประสบความสำเร็จกับความรัก
เวนิส หรือ เวเนเซีย (Venice Mestre) ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกให้เวนิสเป็นหนึ่งในเมือง มรดโลก
เป็นท่าเรือที่เชื่อมต่อระหว่างเวนิสกับแผ่นดินใหญ่ การมาเที่ยวเวนิสนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปจากตรงนี้ได้
เวนิส หรือ เวเนเซีย (Venice Mestre) ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกให้เวนิสเป็นหนึ่งในเมือง มรดโลก
จัตุรัสซานมาร์โคได้รับการประกาศเป็น ห้องวาดภาพของโลก ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ดีที่สุดสำหรับการนั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับช่วงบ่ายที่แสนสบายในเวนิส ภายในบริเวณมีร้านกาแฟกลางแจ้งที่ตั้งกระจายอยู่ริมทางเดินในจัตุรัส เช่นเดียวกับอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบนอก
เป็นสะพานหินปูนสีขาวในเวนิสที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอจ ซึ่งวังแห่งนี้มีคุกขังนักโทษอันน่าสะพรึงขวัญอยู่ชั้นใต้ดินโดยถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองนี้เพื่อเข้าสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานก่อนที่จะหมดอิสรภาพ
เป็นพระราชวังสไตล์เวนิสโกธิค เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 แต่เกิดเพลิงไหม้และได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมในระหว่างศตวรรษที่ 14 และ 15 ภายในพระราชวังงดงามด้วยการประดับทองคำและภาพจิตรกรรมมากมายโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นโบสถ์ประจำเมืองเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซานมาร์โค ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และความมั่งคั่งของเวนิส
เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม ของประเทศอิตาลีนั่นเอง เมืองฟลอเรนซ์ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆของโลก
มหาวิหารนี้ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี ด้านหน้าโบสถ์ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู มหาวิหารฟลอเรนซ์แห่งนี้ยังเป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป ปัจจุบันมหาวิหารอยู่ภายใต้การดูแลของสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกแห่งฟลอเรนซ์
เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของฟลอเรนซ์ มีโค้งสามอันคร่อมแม่น้ำอาโน่ ที่สะท้อนบนผิวน้ำเป็นหนึ่งในภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของฟลอเรนซ์ สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมัน โดยเป็นสะพานเก่าแก่และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป
รูปปั้นเดวิท เป็นรูปปั้นประติมากรรมเดวิดเป็นหินอ่อนแกะสลักรูปขึ้นมาอย่างช้าๆ หรือก็คือ พระเจ้าเดวิด ตามตำนาน ลักษณะของเดวิดนั้นจะเป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำยืนเปลือยกาย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสง่างามของร่างกายมนุษย์เรา มิเคลัน เจโล เริ่มแกะสลักพระเจ้าเดวิด อย่างช้าๆ ในปี 1501 โดยใช้หินสีขาวที่เอามาเมืองคาร์ราราแกะสลักที่อย่างขึ้นมาอย่างช้าๆ และออกมาได้อย่างสวยสดงดงาม และตอนนี้รูปปั่นเดวิดได้แสดงอยู่ที่ Accademid Galley ในกรุงฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เป็นจตุรัสที่สวยงามเป็นอันดับ 3 ของอิตาลี ซึ่งใช้เป็นสนามแข่งกีฬาแข่งม้าประจำปี ชมความยิ่งใหญ่และงดงามของจตุรัสแห่งนี้ ที่มีลักษณะคล้ายปากปล่องภูเขาไฟอันรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญโบราณ เช่น ปาลาซโซ-พับปิโค, ปาลาซโซ-ซานเซโดนี
หอนี้ตั้งอยู่ที่เมืองปีซ่า ประเทศอิตาลี เป็นหอคอยสร้างด้วยหินอ่อน สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 176 ปี ตามประวัติกล่าวว่า ขณะก่อสร้างเสร็จ ฐานทรุดไปข้างหนึ่ง จะเป็นด้วยการคำนวณผิดพลาดหรือประการใดก็ไม่ทราบ เมื่อวัดปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 18 ฟุต แต่กระนั้นก็ยังไม่ล้ม ยังเอียงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เมืองเลคซิโอเป็นที่ตั้งของสถานที่แหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว อาทิ เดอะมอลล์ เอาท์เลท (The Mall Outlet) อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาถูกตามอัธยาศัย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบจัดเต็มได้ที่นี่
ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าชั้นนำของอิตาลีในราคาย่อมเยาภายในเอาท์เลทมีร้านค้า แบรนด์เนมมากมายอาทิ ARMANI, BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, DIOR, FENDI, GUCCI, TOD’S, VALENTINO เป็นต้น
เป็นเมืองที่อยู่ภายใต่้การปกครองของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ห่างไปทางเหนือของกรุงโรมไปประมาณ 40 กิโลเมตร เมืองนี้เป็นบ้านเกิดของนักแสดงหญิงชื่อดังชาวอิตาลี คือ Sabrina Ferilli
เมืองเนเปิลส์ หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
หนึ่งมนจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองนาโปลี ตั้งอยู่ใกล้ๆกับอ่าว ซึ้งถูกล้อมไปด้วยเหล่าอาคารที่มีความสำคัญของเมือง
เป็นห้างแกลลอเรียที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี อยู่ตรงข้ามกับโรงละครโอเปร่า San Carlo ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1887–1891 ตั้งชื่อตามแกลลอเรีย อัมเบรโตที่ 1 ในช่วงที่ทรงประกาศสร้างยุคนั้น ที่นี่เป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างประวัติศาสตร์วัฒนธรรมในเนเปิลส์มานานหลายทศวรรษ ที่นี่เป็นห้างช้อปปิ้งแบรนด์เนมประจำเมืองเนเปิลส์ ที่มีความสวยงามไม่แพ้ไปกว่าแกลลอเรียวิคเตอร์เอมมานูเอลอันโด่งดังของอิตาลีเลย
เป็น 1 ใน 4 ของที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์บูร์บง (Bourbon Kings) หนึ่งในราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดในทวีปยุโรป
เมืองตากอากาศเล็กๆ ริมอ่าวเนเปิ้ล ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และไล่ระดับลงมาตามความลาดชันจนลงมาถึงระนาบเดียวกันกับหาดทรายสีเทาที่ได้รับการจัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย ณ ด้านบนของตัวเมืองออกสู่อ่าวเนเปิ้ล ที่ฝั่งตรงข้าม เราสามารถมองเป็นภูเขาไฟวิซูเวียสยืนเด่นเป็นสง่าน่าเกรงขาม ภูเขาไฟลูกเดียวกันนี้ที่เมื่อเกือบ 1700 ปีที่ผ่านมาถล่มเมืองปอมเปอีเสียเรียบเป็นหน้ากลอง
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี นอกจากนี้โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย
วาติกันเป็นพื้นที่เอกราชของรัฐ Holy See ที่ตั้งอยู่ภายในกรุงโรมของประเทศอิตาลี วาติกันก่อตั้งขึ้นด้วยสนธิสัญญา Lateran ในปี 1929 เป็นดินแดนที่แตกต่างกันภายใต้ "การครอบครองอย่างเต็มรูปแบบเอกสิทธิ์เฉพาะและอำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาล" ของ Holy See ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดของกฎหมายระหว่างประเทศ และความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐอธิปไตยที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า สวยงามตระการตา เต็มไปด้วยผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมมากมาย ด้านในมีประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ก็แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่มีคุณค่าสำคัญทางศาสนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
เป็นรูปปั้นฝีมือของศิลปินชื่อดัง "ไมเคิลแองเจิลโล" ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นรูปปั้นของพระแม่มารีกำลังอุ้มร่างของพระเยซูที่ล่วงลับไปแล้ว
เป็นสนามประลองรูปไข่ในกรุงโรมที่เกิดขึ้นมาเมื่อเกือบ 2000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงโรม สร้างจากหินปูนแบบ travertine หินภูเขาไฟ และคอนกรีตที่ก่อด้วยอิฐ สามารถเก็บผู้ชมได้ประมาณ 50,000 ถึง 80,000 คนในหลาย ๆ จุดของประวัติศาสตร์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันโคลีเซียมเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดมาแวะถ่ายรูปหากได้มาเยือนกรุงโรม นอกจากนี้้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ใน 7สิ่มหัศจรรย์ของโลกด้วย
ประตูชัยแห่งนี้มีขนาดใหญ่และสภาพสมบูรณ์ที่สุดในกรุงโรม ตั้งอยู่ระหว่างสนามโคลีเซียม และ Palatine Hill ประตูชัยนี้สร้างขึ้นด้วยคอนกรีตสลับกับหินอ่อน เพื่อฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ที่มีชัยชนะเหนือ Maxentius ในสงคราม Battle of Milvian Bridge ในปี 312 ตัวประตูชัยมีความสูง 21 เมตร กว้าง 25.9 เมตร และลึก 7.4 เมตร
เป็นจุดนัดพบทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกห้อมล้อมด้วยซากอาคารต่างๆ คาดว่าเมื่อก่อนถูกใช้เป็นตลาดหรือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าเมื่อสมัยยุคโรมัน
เป็นจตุรัสที่มีถนนลาดผ่านมากมายหลายเส้น และยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตของเวนิซ ซึ่งมีอนุสรณ์สถานและรูปปั้น ที่มีความสำคัญต่ออิตาลีตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของจตุรัส
เป็นพระราชวังที่ถูกสร้างเมื่อปี คศ 1444-1514 ซึ่งนับว่าเป็นพระราชวังสไตล์เรเนซองค์ที่แรกๆในกรุงโรมที่ถูกสร้าง และมีข่าวลือว่าเงินที่นำมาสร้างนั้นได้มาจากการชนะพนันในคืนเดียว
เป็นน้ำพุที่น้ำนั้นมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ที่ชื่อ Nicola Salvi ที่นี่เป็นน้ำพุรูปลักษณ์แปลกที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
วิหารนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ 27 ปีก่อนคริสตศักราช โดยจักรพรรดิมารคุส อากริปปา แต่โดนไฟไหม้ไปในปีค.ศ. 80 ต่อมากษัตริย์ฮาดริอานได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 118 แต่ยังคงให้เกียรติผู้สร้างเดิมด้วยการจารึกไว้ที่หน้าจั่ววิหารว่าอากริปปาคือผู้สร้างแพนธีออน นับเป็นวิหารจากยุคโรมันที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน
เป็นย่านบันไดที่ติดกับแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม ตั้งอยู่บนพื้นเขาระหว่าง Piazza di Spagna ที่ฐานและ Piazza Trinità dei Monti บันได 135 ขั้น ที่นี่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Francesco de Sanctis และ Alessandro Specchi ในปี 1723 ที่นี่เป็นจุดเดินเที่ยวและถ่ายรูปที่สวยไม่แพ้จุดอื่นในกรุงโรม
รู้จักกันในอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตรนอกจากนี้ ยังเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารคับคั่งมากเป็นอันดับที่ 27 ของโลกใน พ.ศ. 2552 และเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินอัลอิตาเลีย ชื่อของท่าอากาศยานชื่อของเลโอนาร์โด ดา วินชี ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชาชาวอิตาลี ผู้ออกแบบต้นแบบของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องจักรมีปีกบินได้เป็นคนแรกของโลก
มีอีกชื่อว่าท่าอากาศยานฮาหมัด เป็นท่าอากาศยานแห่งเดียวในประเทศกาตาร์ ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของกาตาร์แอร์เวย์ ที่นี่เป็นหนึ่ในท่าอากาศยานสำคัญที่เชื่อมต่อเครือข่ายการบินกับภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย