เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
เป็นนครที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐบาวาเรียในประเทศเยอรมนี เอาก์สบูร์กเป็นเมืองวิทยาลัยและเป็นที่ตั้งของที่ทำการบริหารของเขตการปกครองสวาเบีย ในปี ค.ศ. 2008 เอาก์สบูร์กเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นที่สามของประเทศเยอรมนี เอาก์สบูร์กเป็นเมืองที่เก่าเป็นที่สองรองจากเทรียร์
เป็นศาลาว่าการที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1624 ในยุคสมัยฟืนฟูศิลปะวิทยาการ ถูกออกแบบและสร้างโดยอีเลียสฮอล ซึ่งภายในมีห้องโถงทองคำที่เพดานสูง 14 เมตร ตกแต่งด้วยทองคำอย่างหรูหรา
นูเรมเบิร์กได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูน ทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง ในหน้าหนาวต้องที่นี่เลย
มีประติมากรรมน้ำพุชื่อ The Beautiful Fountain หรือ Schoner Brunnen ในภาษาเยอรมัน (ซึ่งอ่านออกเสียงยากทีเดียว) เป็นประติมากรรมสมัยศตวรรษที่ 14 น้ำพุที่ว่าหาง่าย อยู่ตรงหัวมุมทางเดินของตัววิหาร ประดับเป็นประตูรั้ว ประติมากรรมน้ำพุนี้มีแหวนให้ไปหมุนรอบ 3 ครั้ง ระหว่างที่หมุนแหวนให้อธิษฐานไปด้วย อยากได้อะไร เขาว่าจะสมหวัง
เมืองแบมเบิร์ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรัฐที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองมรดกโลก ถือว่าเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศเยอรมนี เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนั้นถือว่าเป็นศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
มีชื่อเป็นทางการว่า "มหาวิหารแบมเบิร์กเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ" ที่นี่มีความสำคัญในฐานะการเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลของอัครบาทหลวงแห่งแบมเบิร์ก โดยมหาวิหารถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ สร้างครั้งแรกในปี1004 โดยจักรพรรดิเฮนรีที่ 2 ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1012
เป็นเอาท์เลตที่อยู่ไปทางตะวันตกของเมืองวูซเบิร์ก ภายในเอาท์เลตแห่งนี้เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ มากมายที่รอนักท่องเที่ยวให้มาเดินชมและช้อปปิ้ง
เป็นเมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลกเมืองนี้
เป็นเมืองเล็กๆ แต่ผู้คนส่วนใหญ่มอบให้โรเธนเบิร์กเป็นถนนสายโรแมนติกตามเส้นทางระหว่างเมือง แฟรงค์เฟิร์ต และ มิวนิค จุดเด่นของถนนสายนี้ก็คือความน่าอนุรักษ์ของเมืองเก่า บ้านไม้ ประตู หน้าต่าง ที่ทาสีสันได้อย่างน่ารักและมีสไตล์คลาสสิคเป็นของตนเองโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มากมายเหมือนกับเมืองอื่นๆ มนต์เสน่ห์เหล่านี้ล่ะที่มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส
เป็นจัตุรัสบริเวณใจกลางย่านเมืองเก่าโรเรนเบิร์ก
เป็นศาลาว่าการประจำเมืองโรเธนเบิร์ก สร้างในสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคผสมเรเนสซองค์ และมีหอนาฬิกาอยู่ด้านบน
เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและน่ามาเยือนมากเมืองหนึ่งของรัฐบาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก ด้วยบรรยากาศอันแสนโรแมนติก เสน่ห์ของตัวเมืองเก่าสตไล์บาโรก รวมไปถึงปราสาทโบราณที่มีความงดงาม นั่นจึงทำให้เมืองไฮเดลเบิร์กได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้มาเยือนได้เป็นจำนวนมาก
เป็นปราสาทยุคกลางที่แข็งแกร่งแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่สิบสาม โครงสร้างป้อมส่วนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ แม้ว่าจะเผชิญกับไฟไหม้ ฟ้าผ่า และสงครามมายาวนานนับศตวรรษ ในอดีตที่นี่มีทั้งแขกผู้มาเยือน นักโทษ และผู้มีเกียรติ สวนของปราสาท สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่สิบหก มีความสวยงามอย่างยิ่ง และเป็นการจัดสวนขั้นสูงที่ได้รับการยอมรับทั่วทั้งยุโรปว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลก
เป็นประตูเก่าที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1528 ได้รับการขนานนามว่า “ประตูคืนเดียว” ด้วยเหตุผลว่า ประตูนี้ พระเจ้าเฟรดริชที่ 5 มีบัญชาให้สร้างขึ้น เพื่อเป็นของขวัญให้แก่ภรรยาคือ เจ้าหญิงอลิซาเบธ เมื่อมีอายุครบ 19 ปี อีกชื่อหนึ่งที่กล่าวขานถึงคือ เป็นประตูที่สร้างขึ้นด้วยพลังแห่งความรัก
จัตุรัสใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1746 - 1807 และมีการปรับปรุงใหม่อีกครั้งในปี 1977 เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆมากมายไม่ว่าจะเป็น, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ , ลานน้ำพุ, สถานีรถไฟหลัก และอื่นๆ
เป็นเมืองตากอากาศริมทะเลสาบอันโด่งดังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศอันงดงามของป่าดำของประเทศเยอรมนี
ป่าดำแบล็คฟอเรสท์ เป็นภูมิภาคที่มีภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี มีพื้นที่กว่า 12,000 ตารางกิโลเมตร เป็นที่รู้จักกันดีในความเป็นป่าทึบดิบชื้น เหตุที่ได้ชื่อนี้ก้อเพราะป่านี้เต็มไปด้วยต้นสนซึ่งขึ้นอย่างหนาแน่น จนมองดูเป็นสีดำ
เมืองเก่าแก่สไตล์บาวาเรียนของประเทศเยอรมัน ที่มีลักษณะเป็นเกาะโอบล้อมด้วยทะเลสาบคอนสแตนซ์ และฉากหลังของเมืองยังมีเทือกเขาแอลป์ตั้งตะหง่าน ซึ่งทําให้เมืองลินเดาเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันงดงามติดอันดับต้นๆของประเทศเยอรมัน
ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับที่สามของ ยุโรป โดยทะเลสาบตั้งบนความสูงที่ 400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง มีขนาดประมาณ 539 ตารางกิโลเมตร เป็นจุดบรรจบกันของประเทศเยอรมันนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางแคว้นบาวาเรียตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งจะติดกับชายแดนออสเตรีย เมืองฟุสเซ่นนั้น เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงามของบ้านเรือนและโรงแรมที่พักซึ่งแต่ล่ะแห่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นเมืองเล็กๆ ในเขตเทศบาลเมืองของ Schwangau รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน โดยอยู่บริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมันและออสเตรีย
ที่นี่นับเป็นหนึ่งในปราสาทที่โด่งดังที่สุดในโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน
ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านชวานเกาใกล้เมืองฟึสเส็นทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนี เป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียประทับเมื่อยังทรงพระเยาว์ ตัวปราสาทสร้างบนซากปราสาทชวานสไตน์เดิมซึ่งกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปราสาทเดิมสร้างโดยครอบครัวของอัศวิน หลังจากการยุบเลิกระบบอัศวินในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ตัวปราสาทก็เสื่อมโทรมลงจนเหลือแต่ซากเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางแคว้นบาวาเรียตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งจะติดกับชายแดนออสเตรีย เมืองฟุสเซ่นนั้น เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงามของบ้านเรือนและโรงแรมที่พักซึ่งแต่ล่ะแห่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นเมืองพักตากอากาศเล็กๆ ในแนวหุบเขาของเยอรมันใต้ มีบ้านเมืองสวยแบบบาวาเรียแท้ ตามผนังของตึกต่างๆ ยังเป็นรูปเขียนเรื่องราวในคริสต์ศาสนาที่น่าชมยิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวและยังเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ลานสเก็ตน้ำแข็ง และลู่แข่งสกีโอลิมปิก
เป็นรถไฟ Cogwheel Train ที่พาขึ้นชมยอดเขาซุกสปิตซ์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน ระหว่างทางจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทาง
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ด้วยความสูง 2,962 เมตร ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ในวันที่อากาศดีสามารถเห็นยอดเขาต่าง ๆ ในเทือกเขาแอลป์ได้ชัดเจน และยอดเขามากกว่า 400 ยอด เห็นวิวได้ถึง 4 ประเทศคือออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลีและเยอรมนี ถือว่าเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งของการเล่นกีฬาฤดูหนาวของเยอรมัน โดยเฉพาะการเล่นสกี
เกาะเคียมเซ เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองในทะเลสาบเคียมเซ มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 300 คน เกาะแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังแฮเรนเคียมเซ่ พระราชวังที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “พระราชวังแวร์ซายน์แห่งบาวาเรียน”
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า วังใหม่ ตั้งอยู่ที่เกาะแฮเร็นกลางทะเลสาบเคียมเซ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย สร้างโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียตามแบบส่วนกลางของพระราชวังแวร์ซายส์ที่ฝรั่งเศส เป็นวังใหญ่ที่สุดที่ทรงสร้าง
เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเบียร์เยอรมัน ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมนี เป็นจุดเริ่มต้นและจุดศูนย์กลางของการเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆในยุโรป
เป็นนิทรรศการถาวรของรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 120 คันและเครื่องยนต์ต่างๆที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ BMW
ที่นี่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของการนัดพบในนครมิวนิค มีศาลาว่าการของเมืองแห่งใหม่ เป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ Mariensaule รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเขาสูงศาลาว่าการเมืองใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ หอระฆัง Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ท่าอากาศยานมิวนิกฟรานซ์โยเซฟชเทราซ์" ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่มิวนิก เยอรมนี ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 28 กิโลเมตร (17.5 ไมล์) มิวนิกเป็นท่าอากาศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นท่าอากาศยานหลักของลุฟต์ฮันซา
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย