เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตชูบูของญี่ปุ่น ชื่อเมืองนั้นคาดเดาว่าจะผันมาจากคำว่า นาโกยากะซึ่งแปลว่าสงบสุข
ที่นี่เป็นเาท์เป็นศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัยราคาถูกจนคุณแปลกใจ ทั้งแฟชั่นนำสมัยของคนทุกวัย หรือแฟชั่นกีฬาจากทั่วทุกค่ายที่พร้อมใจกันมาลดราคากัน
ที่นี่เป็นจุดชมซากุระอันสวยงามในเมืองกิฟุ ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศของซากุระที่บานสะพรั่ง อวดโฉมตลอดสองฝั่งแม่น้ำจำนวนกว่า 1000 ต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นซากุระจะบานหรือไม่ หรือบานมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี โดยปกติซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายนของทุกปี
ล่องเรือแม่น้ำซุยมง ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโอกาคิ โดยเฉพาะในฤดูซากุระบาน ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศแม่น้ำอันสงบเงียบ และดื่มด่ำไปกับแนวต้นซากุระบานริมสองฝั่งแม่น้ำ
ชื่อของที่นี่มีความหมายว่าสระน้ำนิรนาม อยู่ในพื้นที่จังหวัดกิฟุทางตอนเหนือ โดยตั้งอยู่ข้างๆ ศาลเจ้าเนะมิจิ สระน้ำแห่งนี้เรียกได้ว่ามีความงดงามราวกับภาพวาด ที่คล้ายคลึงกับภาพวาดของศิลปินเอกชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อ Claude Monet ในผลงานชุดภาพวาดดอกบัวในบ่อน้ำที่ชื่อว่า “Le Bassin Aux Nymphéas” ด้วยลักษณะของสระน้ำตื้นใสสีฟ้าครามที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติไหลมาจากภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ กับภายในสระเต็มไปด้วยดอกบัวและฝูงปลาคราฟญี่ปุ่นหลากสี ที่ทำให้สระน้ำที่นี่ดูสวยโดดเด่นไม่เหมือนที่ไหน
ให้ท่านได้จับจ่ายใช้ส่อย ซื้อของใช้และอาหารต่างๆ โดยภายในเป็นห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ
เป็นปราสาทสมัยเอโดะที่ตั้งอยู่ในเมืองฮิโกเน่ ว่ากันว่าที่นี่ถูกสร้างขึ้นในปี 1603 บนพื้นที่เดิมของวัดในพุทธศาสนาชื่อ Hogon-ji Hogon-ji ซึ่งวัดนี้อยู่มาตั้งแต่ปี 1080 ปราสาทฮิโกเน่ถือเป็นหนึ่งในปราสาทญี่ปุ่นเพียง 12 แห่งที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมแทบไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งยังหนึ่งในห้าปราสาทที่ถูกระบุว่าเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ
เป็นทางรถไฟขนส่งสินค้าที่เลิกใช้ไปแล้วเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งแต่เดิมนั้นถูกใช้เพื่อเป็นเส้นทางขนย้ายเรือระหว่างเมืองโอสึ จังหวัดชิกะ กับเกียวโตจนถึงปี 1948 ที่นี่เหมาะสมมากสำหรับการเดินเล่นชมบรรยากาศ โดยเฉพาะช่วงซากุระบาน ที่นี่เป็นอีกจุดชมซากุระอันสวยงามที่ห้ามพลาดในเกียวโต
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
เป็นจุดชมซากุระอันสวยงามริมแม่น้ำนานาทานิซึ่งอยู่นอกเมืองเกียวโตที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักกันมากนัก ที่ในช่วงซากุระบาน ต้นซากุระจำนวน 1,500 ต้นที่มีกว่า 30 สายพันธุ์ในสวนนี้จะพร้อมใจกันผลิบานสร้างบรรยากาศอันสุดโรแมนติก โดยเฉพาะบริเวณถนนหลักของสวนเสมือนเป็นอุโมงค์ซากุระทอดยาวไปตามถนนด้วยความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรจะพลาดมาถ่ายรูปที่นี่
เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
ตลาดปลาคุโรม่อน เป็นตลาดอาหารสดและอาหารพื้นเมืองยอดนิยมที่พ่อค้า พ่อครัวจากร้านต่างๆ ต้องแวะเวียนกันเข้ามาซื้อวัตถุดิบสดจากทะเลเพื่อนำไปประกอบอาหารเป็นประจำทุกวัน ในละแวกนั้นเองก็มีร้านอาหารทะเลสดๆหลายร้านให้ท่านสามารถลิ้มลองอย่างหลากหลาย อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย อาทิเหล้าบ๊วย ผักผลไม้ รวมถึงอาหารทะเลที่สดใหม่ ซึ่งระหว่างสองข้างทางท่านจะสังเกตุเห็นว่าตลาดปลาแห่งนี้แทบจะไม่สกปรกเลยสักนิดเดียว
เมืองนารา เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโอซาก้า มีกวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า ปัจจุบันเมืองนารามีกวางเดินอยู่อย่างอิสระทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือตามท้องถนนก็ตาม
เป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเมืองนาราตรงบริเวณตีนเขาวาคาคูสะ โดยอยู่ใกล้ๆ กับวัดโทไดจิ สวนนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1880 โดยเป็นสวนที่มีกวางเดินเล่นอย่างอิสระ ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจของสถานที่นี้
เป็นวัดหลวงพ่อโตไดบุทสึแห่งเมืองนาราที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งยังมีความสำคัญทางศาสนาของญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ มีจุดเด่นคือตัวอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นองค์หลวงพ่อโตที่ประดิษฐานอยู่ในวัดโทไดจิ อดีตศิลปกรรมอันรุ่งโรจน์ของตระกูลฟูจิวาระ ผู้ปกครองญี่ปุ่นในยุคแรก หลวงพ่อโตไดบุทสึองค์นี้ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมากว่า 1,200 ปี ซึ่งทำจากทองสัมฤทธิ์ขนาดมหึมาภายในโบสถ์ไม้โบราณ
สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกความสำเร็จของ "Japan World Fair" ในปี 1970 บริเวณดังกล่าวจึงได้ถูกสร้างเป็น "สวนวัฒนธรรมที่รายล้อมด้วยสีเขียว" ประกอบด้วย "สวนญี่ปุ่น", "สวนธรรมชาติและวัฒนธรรม", และยังมีสถานที่ทางวัฒนธรรม, การกีฬา, มุมพักผ่อนหย่อนใจ มี "หอคอยพระอาทิตย์" สัญลักษณ์ของงานแสดงเป็นศูนย์กลาง ด้านตะวันตกเป็นป่าและป่าชานเมือง ส่วนด้านตะวันออกเป็นสนามที่ออกแบบให้มีภาพลักษณ์ของทุ่งหญ้า ช่วง "ป่า" ถึง "ป่าชานเมือง" นอกจากนี้ยังมีสถานที่ทางวัฒนธรรม อย่าง "สวนญี่ปุ่น" ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดแสดงใน World Fair, "พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา" ซึ่งรวบรวมและเผยแพร่เอกสารข้อมูลเกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ทั่วโลก
เป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรโดยรวมสวนสนุก,พิพิธภัณฑ์,ห้างสรรพสินค้า,ศูนย์เรียนรู้,ร้านอาหารนานาชาติ รวมกันไว้ที่เดียว ที่นี่จึงเป็นแหล่งเที่ยว,กิน,ช็อปปิ้งและเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo เมื่อปี 1970 หลังจากนั้นพื้นที่จัดงานได้ถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนหนึ่งกว่า 170,000 ตารางเมตรได้ถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรแห่งใหม่ในชื่อว่า EXPOCITY ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในพื้นที่แบบ "วันเดียวเดินไม่ทั่ว ครั้งเดียวเที่ยวไม่เต็มอิ่ม"
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า ตั้งอยู่ที่เมืองริงกุ ตรงข้ามกับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โดยออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับเมืองท่าของสหรัฐอเมริกา และมีบรรยากาศแบบรีสอร์ท ภายในแม้จะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นมากมาย
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี