เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์ของวัดนี้ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่
เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ถนนเส้นนี้มีร้านค้ามากมายตลอดความยาวทั้ง 250 เมตร ไม่นับร้านค้าที่อยู่ในซอยแยกย่อยไปอีก ทำให้ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาหาซื้อของฝากอย่างไม่ขาดสาย
เป็นหอที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่และยังเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางของ Sumida City Ward ไม่ไกลจาก วัดอาซากุสะ มีความสูงถึง 634 เมตร บริเวณรอบๆเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ รวมทั้งมีอควอเรียมอยู่ในนั้น
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านทัศนียภาพ และรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่เป็นจุดหมายปลายทางอันยอดนิยม ด้วยวิวทิวทัศน์อันเป็นธรรมชาติที่สวยงามตลอดทั้ง 4 ฤดู พร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะและอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการพักผ่อนหย่อนใจ และอีเวนท์ งานเทศกาลต่างๆ
เป็นศาลเจ้าที่ถูกซ่อนอยู่ในป่าลึก ภายในจะมีเสาร์โทริอิสีแดงตั้งเด่นอยู่ในทะเลสาบ มีตะเกียงแขวนเรียงรายอยู่ตลอดทางระหว่างทางเดิน มีบรรยากาศที่เงียบสงบอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
เป็นเขตการปกครองระดับจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภาคคันโต มีเมืองหลวงชื่อเดียวกันคือ ไซตะมะ จังหวัดไซตะมะเป็นจังหวัดที่มีความเจริญมากเพราะอยู่ติดกับกรุงโตเกียว ซึ่งเขตชิชิบุ ในจังหวัดนี้มีเทือกเขา ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม จึงเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมา
เป็นเมืองเก่าในสมัยเอโดะที่ยังคงอนุรักษ์บรรยากาศความโบราณตั้งแต่ในอดีตให้คงอยู่มาจนถึงปัจจุบันจนได้รับฉายาว่าเป็น 'ลิตเติ้ลเอโดะ' (Koedo) ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ สามารถชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ของญี่ปุ่นในถนนบางสายของเมืองที่อนุรักษ์บ้านเรือนหรือห้างร้านเก่าแก่เอาไว้เป็นอย่างดี เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องของ ‘มันหวาน’ ที่มีรสชาติอร่อยอีกด้วย
ตรอกที่มีชื่อเสียง ซึ่งถนนปูด้วยหินและฝังด้วยแก้วหลากสี เต็มไปด้วยร้านขายขนมหวาน ลูกกวาดแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคมากกว่า 150 กิโลเมตร ลึกเข้าไปในภูเขาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู พื้นที่ 10% เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่วนที่เหลืออีก 90%(พื้นที่กว้างในภาคตะวันตกของฟูกุชิมะ รวมถึงภูเขา และเมืองประวัติศาสตร์อาอิซุ-วาคามัตสึ(Aizu-Wakamatsu) ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
ในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ จะมีฝูงหงส์จำนวนมากอพยพมาริมทะเลสาบมากมายหลายตัวเลยทีเดียว แม้จะมีหิมะปกคลุมแต่ที่นี่ก็สวยงาม ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดฟุคุชิมะ บางครั้งเราสามารถมองเห็นวิวภูเขาบันไดสะท้อนลงบนผิวน้ำ เลยทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบกระจกสวรรค์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายภาพตลอดทุกฤดู
ตั้งอยู่ทางตอนกลางของภูมิภาคโทโฮคุ มีเมืองเซนได เป็นเมืองหลวงซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ด้วย จึงเปรียบเหมือนเป็นศูนย์กลางของการเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามและมีชื่อเสียงมากหลายแห่ง
หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง ในประเทศญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ตั้งแต่ระดับชาวบ้านมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกมีวิญญาณของเทพอินาริโอคามิ หรือเทพเจ้าของศาสนาพุทธชินโตอยู่ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ของการเกษตร(ข้าว, ใบช้า) และความเจริญรุ่งเรือง ให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักของสุนัขจิ้งจอก และป้อนอาหารสุนัขจิ้งจอก พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
เป็นกระเช้าที่นำพานักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวอันงดงามของภูเขาซาโอะ กระเช้าลอยฟ้าซาโอะไม่เพียงแต่ใช้ในการเดินทางเท่านั้นแต่ยังเป็นวิธีการชมวิวที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ด้วยภูมิทัศน์อันงดงามทำให้ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และในแต่ละซีซั่นก็จะมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงด้วย
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามใบของต้นเฟอร์จนเกิดเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด คล้ายกับมนุษย์หิมะ จึงได้ชื่อว่า Ice Monster หรือ Snow Monster นั่นเอง อีกทั้งยังมีกิจกรรม อาทิ การเล่นสกีและสนุกกับสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว นั่งสโนว์โมบิลขบวน “Wild Monster” ไปเที่ยวชมบริเวณที่มีปีศาจน้ำแข็งอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นต้น
เป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในยามากาตะ บนความสูง 880 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลบนเนินเขาของภูเขาไฟซาโอะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ท่ามกลางภูเขาที่สวยงาม ในหมู่บ้านน้ำพุร้อนดั้งเดิมแห่งนี้ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ช่วงฤดูหนาวจะมีลานสกีขนาดใหญ่อันหลากหลายซึ่งเหมาะกับทุกคนทุกทักษะ อีกทั้งหิมะที่นี่ยังได้ชื่อว่ามีความละเอียดเนียมนุ่มราวผงแป้ง หรือที่เรียกว่าพาวเดอร์สโนว์ (powder snow) อีกด้วย
เป็นเมืองๆ หนึ่งในจังหวัดชิสึโอกะของญี่ปุ่น เมืองนี้เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองรีสอร์ทและน้ำพุร้อนที่มีชื่อของจังหวัด
เป็นปราสาทที่เป็นศูนย์รวมการปกครองทางทหารในแถบเมือง Aizu-wakamatsu ปัจจุบัน ภายในปราสาทถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของปราสาทแห่งนี้ รวมถึงวิถีชีวิตของเหล่าซามูไรอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมได้ถึงชั้นบนสุดของปราสาท ส่วนบริเวณสวนรอบปราสาทนั้นรายรอบไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี
ที่นี่เป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีอาคารสถานีทำจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งติดกันยังมีจุดออนเซนเท้าให้ใช้บริการได้ฟรีระหว่างที่รอรถไฟด้วย ผู้โดยสารที่มารอรถไฟหรือมาเดินเล่นจะชอบมานั่งแช่เท้ากันที่นี่
เป็นหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่มีบ้านแบบมุงหลัง ปัจจุบันยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี และมีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และบ้านพักแบบโฮมสเตย์ต่างๆ อาหารยอดนิยมคือบะหมี่โซบะ และปลาเทร้าต์ย่าง นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัดได้ตามอัธยาศัย
เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่านกว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชื่อโทโนะเฮทสึริ เป็นภาษาถิ่นของไอสึ แปลว่าหน้าผา และด้วยรูปร่างหน้าตาของหน้าผาชันๆ ที่ดูคล้ายกับเจดีย์ จึงเป็นที่มาของชื่อโทโนะเฮทสึริ หรือ หน้าผารูปเจดีย์
ห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน ซึ่งบางร้านไม่ต้องเสียภาษีสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย