เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์ของวัดนี้ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่
เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ถนนเส้นนี้มีร้านค้ามากมายตลอดความยาวทั้ง 250 เมตร ไม่นับร้านค้าที่อยู่ในซอยแยกย่อยไปอีก ทำให้ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาหาซื้อของฝากอย่างไม่ขาดสาย
เป็นหอที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่และยังเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางของ Sumida City Ward ไม่ไกลจาก วัดอาซากุสะ มีความสูงถึง 634 เมตร บริเวณรอบๆเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ รวมทั้งมีอควอเรียมอยู่ในนั้น
เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ (Gundam Cafe) และถ้าอยากเข้าไปดูนิทรรศกาลกันดั้ม ก็ต้องไปที่ กันดั้มฟรอนท์ (Gundam Front) ซึ่งอยู่ในบริเวณห้าง
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ในเมืองอาโอโมริ จังหวัดอาโอโมริ หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคโทโฮคุ
เป็นกลุ่มยอดภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอาโอโมริ และทะเลสาบโทวาดะ ถือเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีชื่อเสียงของความงดงามตามฤดูกาลต่างๆ รวมถึงเส้นทางเดินป่าทางธรรมชาติ และน้ำพุร้อนที่โด่งดัง นอกจากนี้แล้ว ภูเขาที่สูง 1,585 เมตร ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ซึ่งจะเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนกันยายน-กลางตุลาคม และในช่วงฤดูหนาวหิมะจะตกในบริเวณภูเขาเป็นปริมาณมาก ทำให้เกิดต้นไม้แช่แข็ง
เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่นำพาขึ้นสู่ยอดเขาฮักโกดะ ซึ่งเป็นกลุ่มยอดภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างอาโอโมริ และทะเลสาบโทวาดะ ถือเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี วิวของใบไม้แดงที่ปกคลุมไปทั่วภูเขาที่มองจากเบื้องบนกระเช้า ส่วนในหน้าหนาวนั้นพื้นที่ทั้งหมดที่นี่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพความทรงจำในการท่องเที่ยวที่ถือว่าสุดยอดมากๆ
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามใบของต้นเฟอร์จนเกิดเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด คล้ายกับมนุษย์หิมะ จึงได้ชื่อว่า Ice Monster หรือ Snow Monster นั่นเอง อีกทั้งยังมีกิจกรรม อาทิ การเล่นสกีและสนุกกับสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว นั่งสโนว์โมบิลขบวน “Wild Monster” ไปเที่ยวชมบริเวณที่มีปีศาจน้ำแข็งอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นต้น
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อาคารภายนอกถูกปกคลุมด้วยแผ่นโลหะสีแดงมีความโดดเด่น ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟอาโอโมริ ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลเนบูตะมัตสุริที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ผู้เข้าชมจะได้ซึมซับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของประวัติศาสตร์และประเพณีสำคัญ
ปาสาทฮิโรซากิ ตั้งอยู่ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ปราสาทแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรซากิ มีความสวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เป็นปราสาทโบราณถูกโอบล้อมด้วยปราการกำแพงหินและคูน้ำ 3 ชั้น ภายในปราสาทถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของวัตถุโบราณ อาทิ ชุดเกราะสำหรับซามูไร
เป็นทะเลสาบที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีความลึกเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น และอยู่ในเวิ้งของภูเขาไฟที่ดับแล้ว สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร เมื่อมองจากมุมสูงรูปร่างของทะเลสาบจะคล้ายหม้อ ใช้เรียกพื้นที่ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูก ที่มีลักษณะยุบลงเป็นทรงคล้ายหม้อ ซึ่งเกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของทะเลสาบ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อว่าสวยทุกฤดูกาล น้ำใสจนสะท้อนสีสันของใบไม้ต้นไม้โดยรอบ
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
มีความยาว 14 กิโลเมตร จากทะเลสาบโทวาดะไปจรดที่ภูเขาไฟ ในหนึ่งปีความสวยงามของทิวทัศน์แม่น้ำโออิราเสะนี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล สองฝั่งแม่น้ำมีทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยวและสามารถชมน้ำตกได้อีกด้วย นับว่าเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าชมทะเลสาบโทวาดะ ระยะเวลาโดยเฉลี่ยในการเดินจนสุดเส้นทางคือประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง
เป็นทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่าย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีความลึกประมาณ 423 เมตร ปลายสุดทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโกซะโนอิชิ เดิมเป็นที่สำหรับขุนนางท้องถิ่นแวะมาชมธรรมชาติ และทางด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบมีรูปปั้นผู้หญิงสีทองที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ทาสุโกะ เชื่อกันตามตำนานว่านางเป็นสาวสวยที่อธิษฐานขอให้ความงามของนางคงอยู่ตลอดไป แต่กลับโดนคำสาปและกลายเป็นมังกรจมสู่ทะเลสาบเบื้องล่างแห่งนี้
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้าน
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจังหวัดอิวาเตะในภูมิภาคโทโฮคุ หากย้อนกลับไปในอดีตเมื่อครั้งตระกูลฟูจิวาระเรืองอำนาจ ฮิราอิซูมิ (ฮิไรซูมิ) นั้นมีความเจริญไม่น้อยไปกว่าเกียวโตเลย หลังจากเมืองถูกทำลายลงจึงไม่สามารถกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง แต่ฮิราอิซูมิก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเมืองเอาไว้จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี 2011 จากองค์การยูเนสโก
ล่องเรือชมหุบเขาเกบิเคย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งธรรมชาติที่มีชื่อโด่งดังแห่งจังหวัดอิวะเตะ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินผาที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป และหินรูป"เกบิ" ที่แปลว่าจมูราชสีห์ นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อ"เกบิเคย์" เกบิเคย์ขึ้นชื่อในการมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี มีความงดงามที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติผสานรวมกับเรื่องราวและความเชื่อของชาวญี่ปุ่นทำให้เกบิเคย์ยังคงเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยียนอยู่ไม่ขาดสาย ส่วนในฤดูหนาวพื้นที่ผาริมน้ำจะเป็นสีขาวปุยของหิมะ ให้บรรยากาศที่โรแมนติกไม่แพ้ไปกว่าหน้าใบไม้เปลี่ยนสีเลย
เดิมทีเป็นเพียงวัดธรรมดาสร้างโดยพระจิคาคุ ไดชิ บ้างรู้จักกันในชื่อพระเอ็นนิน (Ennin) ชูซอนจิเข้าสู่ยุครุ่งเรืองเมื่อตระกูลฟูจิวาระย้ายฐานอำนาจมายังเมืองฮิราอิซูมิ “ฟูจิวาระ คิโยฮิระ” (Fujiwara Kiyohira) มีบัญชาให้ปรับปรุงวัดครั้งใหญ่จนทำให้วัดชูซอนจิมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ มีอาคารทั่วทั้งวัดกว่า 300 หลังเลยทีเดียว
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดอิวาเตะ ล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 3 ด้าน รวมกับแม่น้ำหลายสาย เมืองโมริโอกะเป็นเมืองที่น่าสนใจ มีศูนย์กลางการขนส่งที่สะดวกสบาย แต่ไม่ค่อยมีจุดท่องเที่ยวมากนัก สินค้าที่ขึ้นชื่อของเมือง คือ ก๋วยเตี๋ยว 3 ชนิดที่ดีที่สุดของโมริโอกะ ได้แก่ Wanko Soba, Reimen และ Jajamen ซึ่งสามารถหาได้ตามร้านอาหารทั่วไปในท้องถิ่น
เป็นโอเอซิสแห่งความสุขของประเทศญี่ปุ่น อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดอิวาเตะ มีทัศนียภาพที่งดงาม ในหน้าหนาวที่นี่ก็มีหิมะอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย