เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานหลักของเวียดนามตอนเหนือ ซึ่งถูกเปิดใช้(ตึกนานาชาติ) เมื่อต้นปี 2558 และอยู่ห่างออกไปจากใจกลางเมืองฮานอยประมาณ 45 กิโลเมตร
เป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนามโดยมีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีนทางด้านทิศเหนือ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดไหลโจว ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดฮาเกียง และ ทางใต้ติดกับจังหวัดซอนลา ลักษณะภูมิประเทศแบ่งออกเป็นแบบต่างๆ อาทิ หุบเขา ภูเขาต่ำๆ สูงๆ สลับกัน
เป็นโบสถ์ประจำเมืองซาปา ที่ทั้งหลังถูกสร้างจากหิน เมื่อปี คส1895 โดยชาวฝรั่งเศสที่เคยมาประจำอยู่ มีหอระฆัง ที่ห้อยระฆังขนาดครึ่งตันไว้ ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีทางศาสนาแห่งเมือง
เป็นตลาดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสินค้าท้องถิ่น และบรรดาเหล่าชาวเขาได้เดินทางมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ด้วยเครื่องแต่งกายประจำเผ่าต่างๆ
นั่งกระเช้าไฟฟ้าเดินทางขึ้นสู่ฟานซิปัน ยอดเขาสูงสุดแห่งเวียดนามและในภูมิภาคอินโดจีน จนได้รับการกล่าวขานว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” บนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,143 เมตร ระหว่าทางขึ้นจะได้เห็นวิวของเมืองซาปาและแนวเทือกเขาสูงอันสวยงามจากมุมสูง
เป็นภูเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศเวียดนาม ด้วยความสูงกว่า 3,143 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนทิวเขาฮหว่างเลียนเซิน ในเมืองซาปา จังหวัดลาวไก ในประเทศเวียดนาม ที่นี่ได้รับฉายาว่า "หลังคาแห่งอินโดจีน"
นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ โดยการนั่งรถไฟสู่สถานีฟานซิปัน โดยระหว่างทางนั้นท่านจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของสองข้างทาง และวิวทิวทัศน์ของทางรถไฟเลียบเขาตามแนวที่ราบสูง ที่จะทำให้ท่านประทับใจมิรู้ลืม
เป็นหมู่บ้านชาวเขาที่มีชื่อเสียงของซาปา ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Muong Hoa ห่างจากเมืองซาปาไปเพียง 3 กิโลเมตร หมู่บ้านนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 19 หลังจากตระกูล H'Mong และ Dzao หลายเผ่ามารวมกันจากพื้นที่ภูเขาอื่นๆ ในเวียดนามเหนือ พวกเขาเริ่มปลูกข้าวและข้าวโพดในภูมิภาคเช่นเดียวกับการทอผ้าและงานหัตกรรมต่างๆ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแลนมาร์คที่พลาดไม่ได้หากได้มาเยือนซาปา
เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือระหว่าง พ.ศ. 2497 ถึง พ.ศ. 2519 และก่อนหน้านั้นเคยเป็นเมืองหลวงของพื้นที่เวียดนามในปัจจุบันเป็นครั้งคราวตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 จนถึง พ.ศ. 2345 ฮานอยตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำแดง อุตสาหกรรมในเมืองคือเครื่องจักร ไม้อัด สิ่งทอ สารเคมี และงานหัตถกรรม
เลือกชม และเลือกซื้อซื้อหยกของเวียดนามกันได้ตามอัธยาศัย
ให้ชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากไผ่
เป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์ประกาศความเป็นเอกราชให้แก่เวียดนามจากฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1945 และตัวจัตุรัสนั้นถูกตั้งชื่อตามชื่อของกลุ่มปฏิวัติ ที่ได้ขับไล่ชาวฝรั่งเศสที่มายึดครองเวียดนาม
เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮานอย ซึ่งเมื่อก่อนชื่อว่าทะเลสาบน้ำเขียว แต่เพราะตำนานที่ว่ากันว่า หลังจากจักรพรรดิเล เหล่ย ได้ใช้ดาบต่อสู้ขับไล่ผู้รุกราน ได้มาประทับบนเรือในทะเลสาบ ได้มีตะพาบยักษ์มาขอดาบคืนเพื่อเอาไปให้จ้าวมังกรผู้มอบดาบแด่จักรพรรดิเล เหล่ย และดาบก็ได้ลอยไปเข้าปากตะพาบและหายไปในน้ำ จึงได้ชื่อใหม่ว่า ทะเลสาบคืนดาบ
เป็นสะพานสีแดงสดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลสาบคืนดาบ ชื่อของสะพานได้มาจาก “สถานที่แสงอาทิตย์ส่องถึงในยามเช้า” ซึ่งเหงวียน วัน ซิว (Nguyễn Văn Siêu) กวีและนักค้นคว้าวัฒนธรรมเวียดนามในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้มาดำเนินการสร้างไว้เมื่อปี 1865 โดยตัวสะพานเชื่อมต่อระหว่างริมฝั่งกับเกาะเนินหยก สะพานแห่งนี้ถือเป็นเอกลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของกรุงฮานอย
เป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม เพราะตั้งอยู่บนทะเลสาบคืนดาบซึ่งมีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อนานมากๆ แล้ว และมาถูกบำรุงและขยับขยายพื้นที่เมื่อ 150 ปีที่แล้ว
เป็นถนนที่มีประวัติความเป็นมาหลายร้อยปี ซึ่งเย็นวันศุกร์-อาทิตย์ จะมีตลาดยามค่ำคืน ซึ่งมีของขายมากมาย ซึ่งเมื่อก่อนจะขายของเน้นทางหัตถกรรม แต่สมัยนี้นั้นก็ขายของหลากหลายรูปแบบ แถมยังมีร้านอาหารข้างถนนเยอะแยะอีกด้วย
ตามก๊กถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อของเมืองนิงห์บิงห์ มีความหายคือถ้ำสามถ้ำ ตามตำนานกล่าวว่าถ้ำนี้ถูกบรรจงสร้างโดยสายลมและกระแสน้ำเมื่อครั้งน้ำทะเลยังท่วมถึง ซึ่งยังคงมีรอยคราบน้ำปรากฎเป็นหลักฐานลงเรือพายล่องตามแม่น้ำ Hoang Long
เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือระหว่าง พ.ศ. 2497 ถึง พ.ศ. 2519 และก่อนหน้านั้นเคยเป็นเมืองหลวงของพื้นที่เวียดนามในปัจจุบันเป็นครั้งคราวตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 จนถึง พ.ศ. 2345 ฮานอยตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำแดง อุตสาหกรรมในเมืองคือเครื่องจักร ไม้อัด สิ่งทอ สารเคมี และงานหัตถกรรม
เป็นท่าอากาศยานหลักของเวียดนามตอนเหนือ ซึ่งถูกเปิดใช้(ตึกนานาชาติ) เมื่อต้นปี 2558 และอยู่ห่างออกไปจากใจกลางเมืองฮานอยประมาณ 45 กิโลเมตร
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี