เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ในเขตซวงหลิว ในปี 2552 ท่าอากาศยานแห่งนี้ได้กลายเป็นท่าอากาศยานที่วุ่นวายที่สุดในภาคตะวันตกของจีน มีผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งสิ้นกว่า 22,637,762 คน
เป็นทะเลสาบที่มีเรื่องราวจากสถานที่ที่เคยเป็นหมู่บ้าน จนกระทั่งเมื่อปี 2478 ก็เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจนกระทั่งหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านจมลงไปกลายเป็นทะเลสาบมาจนปัจจุบันนี้ ทำให้เป็นทะเลสาบที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง ๓ พันกว่าเมตร
เป็นเมืองชายแดนจีน-ทิเบตในสมัยโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต ซึ่งชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวันมาแลกเปลี่ยนม้า แกะ ขนแกะ และหนังสัตว์ของชาวทิเบต
ตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอจิ่วจ้ายโกว จังหวัดอาป้า ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือเสฉวน อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 330 กิโลเมตร ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทศมณฑล Nanping ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงอาป้า มีหมู่บ้านชาวทิเบตอยู่ 9 หมู่บ้าน อาศัยอยู่ริมธารน้ำเหล่านี้ เนื่องจากชาวทิเบตนับถือภูเขา ธารน้ำ จิ่วจ้ายโกว จึงได้รับการเคารพจากชาวทิเบตว่าเป็นขุนเขาธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์
ทะเลสาบแรด สูงจากระดับน้ำทะเล 2,315 เมตร น้ำลึกโดยเฉลี่ย 12 เมตร ยาว 2 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 2 แสนตารางเมตร เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อันดับ 2 ของอุทยานจิ่วจ้ายโกว รองจากทะเลสาบยาว และเป็นทะเลสาบที่มีวิวเปลี่ยนเยอะที่สุด เงาสะท้อนสวยงามอันดับ 1 รอบทะเลสาบเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะเป็นสีเขียวทั้งหมด ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเป็นสีแดง ส่วนต้นสนจะเป็นสีเขียว ส่องเงาสะท้อนนำ้ยิ่งสวยงาม โดยเฉพาะ สีครามผืนใหญ่กลางทะเลสาบ
น้ำตกธารไข่มุกเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารใหญ่น้อยที่สลับซับซ้อนดุจดังวังบาดาล โดยมีสายน้ำทอดยาวลดหลั่นกันมาเป็นระยะทางถึง 310 เมตร โดยไม่ขาดช่วงสายธารส่องประกายระยิบระยับราวกับความงามของเส้นไข่มุก
เป็นทะเลสาบแนวยาวเหมือนแม่น้ำแบบหนึ่งที่อยู่ในอุทยานจิ่วจ้ายโกว มีความยาว 310 เมตร มีรูปร่างลักษณะคล้ายนกยูง มีน้ำสีฟ้าอมน้ำเงินในบริเวณน้ำลึก และสีเขียวมรกตในบริเวณน้ำตื้น และส่องประกายเป็นสีทองยามสะท้อนกับแสงแดดพราย เป็นภาพที่งดงามของธรรมชาติ
ทะเลสาบนี้ตั้งชื่อตามตำนานเรื่องราวของหมีแพนด้าที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,587 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 90,000 ตารางเมตร มีความลึกเฉลี่ยอยู่ที่ 14 เมตร ที่พื้นสีดำที่ด้านล่างของทะเลสาบนั้นมีความพิเศษตรงที่เหมือนรูปหมีแพนด้า ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือนเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบตในท้องถิ่น
เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในอำเภอซงพานในเขตปกครองตนเองของทิเบต ที่นี่เป็นอุทยานที่อยู่ใกล้ๆ กับจิ่วจ้ายโกว เป็นแหล่งมรดกโลกที่สวยงามด้วยภูมิประเทศภูเขาสูงยอดปกคลุมด้วยหิมะ
เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน ในปัจจุบันเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการเมือง การทหาร และด้านการศึกษาของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ ในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้มีการจัดการชลประทานขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดเป็นประจำทุกปี เมื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ ชาวนาชาวไร่เพาะปลูกได้ดี ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น คนจึงเริ่มอพยพมาที่เมืองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ชื่อว่าเฉิงตู
เป็นสะพานโบราณอันสวยงามที่ตัดข้ามแม่น้ำจินในเฉิงตู มีลักษณะเป็นสะพานที่มีหลังคาปิด ตัวสะพานแต่เดิมนั้นสร้างขึ้นในปี 1746 โดย Lingan Hongdui ส่วนสภาพที่เห็นในปัจจุบันมาจากการสร้างขึ้นใหม่ในปี 2003 แทนที่สะพานเดิมที่พังเสียหายจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 1980 สะพานนี้ถือเป็นจุดแลนมาร์คที่สำคัญของเมืองเฉิงตู ที่ในช่วงตอนกลางคืนที่นี่จะมีการเปิดไฟประดับที่สวยงาม
เป็นถนนโบราณที่มีสินค้าให้ท่านช้อปปิ้งได้ทั้งของรับประทาน และของฝากของที่ระลึกเช่นหน้ากากเฉิงตูเพราะถนนจินหลีนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่แสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากากอันโงดังของเมืองเฉิงตู แค่ประตูทางเข้าก้อสามารถทำให้ท่านเห็นถึงบรรยากาศแห่งเหมือนเดินในหนังจีนสมัยก่อนได้เลยทีเดียว
เป็นถนนคนเดินในเมืองเฉิงตู มีอีกชื่อนึงว่าถนนทองคำ100 ปี ถนนคนเดินเส้นนี้มีร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีสินค้าทั้งแบรนด์ต่างประเทศและในประเทศ อาทิ เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องหนัง, กระเป๋าเดินทาง, นาฬิกา, เกมส์, รวมถึงร้านอาหารมากมาย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ในเขตซวงหลิว ในปี 2552 ท่าอากาศยานแห่งนี้ได้กลายเป็นท่าอากาศยานที่วุ่นวายที่สุดในภาคตะวันตกของจีน มีผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งสิ้นกว่า 22,637,762 คน
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี