เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักของเวียดนามตอนเหนือ ซึ่งถูกเปิดใช้(ตึกนานาชาติ) เมื่อต้นปี 2558 และอยู่ห่างออกไปจากใจกลางเมืองฮานอยประมาณ 45 กิโลเมตร
เป็นเมืองริมชายแดนจีน-เวียดนามของยจังหวัดลาวไก อยู่ห่างไปประมาณ 400 กิโลเมตรจากเมืองฮานอย เมืองนี้มีธรรมชาติที่สวยงาม แต่วิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองนั้นเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวยิ่งกว่าสิ่งใด
เป็นตลาดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสินค้าท้องถิ่น และบรรดาเหล่าชาวเขาได้เดินทางมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ด้วยเครื่องแต่งกายประจำเผ่าต่างๆ
นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ โดยการนั่งรถไฟสู่สถานีฟานซิปัน โดยระหว่างทางนั้นท่านจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของสองข้างทาง และวิวทิวทัศน์ของทางรถไฟเลียบเขาตามแนวที่ราบสูง ที่จะทำให้ท่านประทับใจมิรู้ลืม
นั่งกระเช้าไฟฟ้าเดินทางขึ้นสู่ฟานซิปัน ยอดเขาสูงสุดแห่งเวียดนามและในภูมิภาคอินโดจีน จนได้รับการกล่าวขานว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” บนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,143 เมตร ระหว่าทางขึ้นจะได้เห็นวิวของเมืองซาปาและแนวเทือกเขาสูงอันสวยงามจากมุมสูง
เป็นภูเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศเวียดนาม ด้วยความสูงกว่า 3,143 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนทิวเขาฮหว่างเลียนเซิน ในเมืองซาปา จังหวัดลาวไก ในประเทศเวียดนาม ที่นี่ได้รับฉายาว่า "หลังคาแห่งอินโดจีน"
เป็นหมู่บ้านชาวเขาที่มีชื่อเสียงของซาปา ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Muong Hoa ห่างจากเมืองซาปาไปเพียง 3 กิโลเมตร หมู่บ้านนี้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 19 หลังจากตระกูล H'Mong และ Dzao หลายเผ่ามารวมกันจากพื้นที่ภูเขาอื่นๆ ในเวียดนามเหนือ พวกเขาเริ่มปลูกข้าวและข้าวโพดในภูมิภาคเช่นเดียวกับการทอผ้าและงานหัตกรรมต่างๆ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแลนมาร์คที่พลาดไม่ได้หากได้มาเยือนซาปา
เป็นโบสถ์ประจำเมืองซาปา ที่ทั้งหลังถูกสร้างจากหิน เมื่อปี คส1895 โดยชาวฝรั่งเศสที่เคยมาประจำอยู่ มีหอระฆัง ที่ห้อยระฆังขนาดครึ่งตันไว้ ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีทางศาสนาแห่งเมือง
เป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนามโดยมีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีนทางด้านทิศเหนือ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดไหลโจว ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดฮาเกียง และ ทางใต้ติดกับจังหวัดซอนลา ลักษณะภูมิประเทศแบ่งออกเป็นแบบต่างๆ อาทิ หุบเขา ภูเขาต่ำๆ สูงๆ สลับกัน
เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือระหว่าง พ.ศ. 2497 ถึง พ.ศ. 2519 และก่อนหน้านั้นเคยเป็นเมืองหลวงของพื้นที่เวียดนามในปัจจุบันเป็นครั้งคราวตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 จนถึง พ.ศ. 2345 ฮานอยตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำแดง อุตสาหกรรมในเมืองคือเครื่องจักร ไม้อัด สิ่งทอ สารเคมี และงานหัตถกรรม
เป็นถนนที่มีประวัติความเป็นมาหลายร้อยปี ซึ่งเย็นวันศุกร์-อาทิตย์ จะมีตลาดยามค่ำคืน ซึ่งมีของขายมากมาย ซึ่งเมื่อก่อนจะขายของเน้นทางหัตถกรรม แต่สมัยนี้นั้นก็ขายของหลากหลายรูปแบบ แถมยังมีร้านอาหารข้างถนนเยอะแยะอีกด้วย
เป็นอนุสรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮานอย ไม่ไกลจากจัตุรัสบาดิงห์ เป็นสถานที่ที่ท่านโฮจิมินห์ได้ยืนประกาศเอกราชให้กับประเทศเวียดนาม
เป็นสถานที่ทำงานของประธานาธิบดีคนเก่าของเวียดนามตอนใต้ในช่วงสงครามเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดที่สงครามได้มาถึงจุดสิ้นสุด เมื่อรถถังของเวียดนามตอนเหนือได้ถล่มเข้ามาทางรั้วด้านหน้า
เป็นบ้านที่ลุงโฮ หรือท่านโฮจิมินห์ ที่ได้อยู่อาศัยที่นี่เป็นเวลา12 ปี (1958-1969) เป็นบ้านรูปแบบพื้นบ้านซึ่งถูกเก็บรักษาไว้หลังจากท่านได้ย้ายออก เนื่องจากเป็นเป้าหมายโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ทุกคนเข้าชมได้
ที่นี่ถูกสร้างเมื่อเกือบพันปีที่แล้วเมื่อจักรพรรดิ์ของเวียดนามในสมัยนั้นยังไม่เคยมีลูก และก็ฝันว่า มีใครมาให้เด็กทารกให้ในดอกบัว แล้วก็พบและตกหลุมรักกับสาวชาวบ้าน แล้วก็ได้ลูกจึงอยากทดแทนบุญคุณโดยการสร้างเจดีย์ที่มีเสาเดียวกลางน้าเหมือนกับดอกบัวในบ่อน้ำที่ฝันเห็น
เป็นท่าอากาศยานหลักของเวียดนามตอนเหนือ ซึ่งถูกเปิดใช้(ตึกนานาชาติ) เมื่อต้นปี 2558 และอยู่ห่างออกไปจากใจกลางเมืองฮานอยประมาณ 45 กิโลเมตร
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย