เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ในเขตซวงหลิว ในปี 2552 ท่าอากาศยานแห่งนี้ได้กลายเป็นท่าอากาศยานที่วุ่นวายที่สุดในภาคตะวันตกของจีน มีผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งสิ้นกว่า 22,637,762 คน
เป็นทะเลสาบที่มีเรื่องราวจากสถานที่ที่เคยเป็นหมู่บ้าน จนกระทั่งเมื่อปี 2478 ก็เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงจนกระทั่งหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านจมลงไปกลายเป็นทะเลสาบมาจนปัจจุบันนี้ ทำให้เป็นทะเลสาบที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง ๓ พันกว่าเมตร
เป็นเมืองชายแดนจีน-ทิเบตในสมัยโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต ซึ่งชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวันมาแลกเปลี่ยนม้า แกะ ขนแกะ และหนังสัตว์ของชาวทิเบต
ตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอจิ่วจ้ายโกว จังหวัดอาป้า ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือเสฉวน อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 330 กิโลเมตร ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทศมณฑล Nanping ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงอาป้า มีหมู่บ้านชาวทิเบตอยู่ 9 หมู่บ้าน อาศัยอยู่ริมธารน้ำเหล่านี้ เนื่องจากชาวทิเบตนับถือภูเขา ธารน้ำ จิ่วจ้ายโกว จึงได้รับการเคารพจากชาวทิเบตว่าเป็นขุนเขาธารน้ำอันศักดิ์สิทธิ์
ทะเลสาบแรด สูงจากระดับน้ำทะเล 2,315 เมตร น้ำลึกโดยเฉลี่ย 12 เมตร ยาว 2 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 2 แสนตารางเมตร เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อันดับ 2 ของอุทยานจิ่วจ้ายโกว รองจากทะเลสาบยาว และเป็นทะเลสาบที่มีวิวเปลี่ยนเยอะที่สุด เงาสะท้อนสวยงามอันดับ 1 รอบทะเลสาบเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะเป็นสีเขียวทั้งหมด ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเป็นสีแดง ส่วนต้นสนจะเป็นสีเขียว ส่องเงาสะท้อนนำ้ยิ่งสวยงาม โดยเฉพาะ สีครามผืนใหญ่กลางทะเลสาบ
น้ำตกธารไข่มุกเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารใหญ่น้อยที่สลับซับซ้อนดุจดังวังบาดาล โดยมีสายน้ำทอดยาวลดหลั่นกันมาเป็นระยะทางถึง 310 เมตร โดยไม่ขาดช่วงสายธารส่องประกายระยิบระยับราวกับความงามของเส้นไข่มุก
เป็นทะเลสาบแนวยาวเหมือนแม่น้ำแบบหนึ่งที่อยู่ในอุทยานจิ่วจ้ายโกว มีความยาว 310 เมตร มีรูปร่างลักษณะคล้ายนกยูง มีน้ำสีฟ้าอมน้ำเงินในบริเวณน้ำลึก และสีเขียวมรกตในบริเวณน้ำตื้น และส่องประกายเป็นสีทองยามสะท้อนกับแสงแดดพราย เป็นภาพที่งดงามของธรรมชาติ
ทะเลสาบนี้ตั้งชื่อตามตำนานเรื่องราวของหมีแพนด้าที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,587 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 90,000 ตารางเมตร มีความลึกเฉลี่ยอยู่ที่ 14 เมตร ที่พื้นสีดำที่ด้านล่างของทะเลสาบนั้นมีความพิเศษตรงที่เหมือนรูปหมีแพนด้า ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือนเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบตในท้องถิ่น
เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในอำเภอซงพานในเขตปกครองตนเองของทิเบต ที่นี่เป็นอุทยานที่อยู่ใกล้ๆ กับจิ่วจ้ายโกว เป็นแหล่งมรดกโลกที่สวยงามด้วยภูมิประเทศภูเขาสูงยอดปกคลุมด้วยหิมะ
เมืองตูเจียงเยี่ยนมีชื่อเสียงมาจากการสร้างเขื่อนชลประทานที่ยิ่งใหญ่เมื่อครั้งสมัย 2,000 กว่าปีก่อน ถือว่าเป็นระบบชลประทานที่เก่าแก่ และยังใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน
ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเฉิงตูบนพื้นที่กว่า 600,000 ตารางเมตร ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1987 ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ การอยู่อาศัยและการแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้า ภายในได้รับการจัดสภาพแวดล้อมให้กลมกลืนกับป่าธรรมชาติ ทั้งยังเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์หายากของมณฑลเสฉวนอีกด้วย
เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน ในปัจจุบันเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการเมือง การทหาร และด้านการศึกษาของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ ในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้มีการจัดการชลประทานขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดเป็นประจำทุกปี เมื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ ชาวนาชาวไร่เพาะปลูกได้ดี ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น คนจึงเริ่มอพยพมาที่เมืองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ชื่อว่าเฉิงตู
เป็นถนนคนเดินในเมืองเฉิงตู มีอีกชื่อนึงว่าถนนทองคำ100 ปี ถนนคนเดินเส้นนี้มีร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีสินค้าทั้งแบรนด์ต่างประเทศและในประเทศ อาทิ เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องหนัง, กระเป๋าเดินทาง, นาฬิกา, เกมส์, รวมถึงร้านอาหารมากมาย
เป็นวัดในพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ผนวชเป็นพระภิกษุของพระถังซัมจั๋ง ตั้งอยู่ใจกลางนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน เป็นสถานที่เงียบสงบในย่านใจกลางเมืองที่ของคึกคักของเฉินตู ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระอารามที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลเสฉวน
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ในเขตซวงหลิว ในปี 2552 ท่าอากาศยานแห่งนี้ได้กลายเป็นท่าอากาศยานที่วุ่นวายที่สุดในภาคตะวันตกของจีน มีผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งสิ้นกว่า 22,637,762 คน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย