เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของผู่ตง ในเขตเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประตูหลักสู่ประเทศจีน รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 17 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2549 มากกว่าท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ และเซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของผู่ตง ในเขตเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประตูหลักสู่ประเทศจีน รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 17 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2549 มากกว่าท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ และเซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์
เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นเมืองเก่าแก่ 1 ใน 6 ของประเทศจีน ปัจจุบันหางโจว ถือเป็นเมืองที่อยู่ในเขตภาคตะวันออกที่ได้รับการพัฒนาอย่างสูงสุดแล้ว ดังนั้นหางโจวจึงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มีวัฒนธรรมที่ยาวนาน และเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพที่สวยสดงดงามเมืองหนึ่งของประเทศจีน รวมทั้งมั่งคั่งไปด้วยเภสัชอุตสาหกรรม และสถาบันศิลปะมากมาย
ล่องเรือชมทะเลสาบซีหู หรือทะเลสาบตะวันตก เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดในเมืองจีน ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งขุนเขาและสายน้ำ ที่ได้สมญาไข่มุกแห่งเมืองหังโจว หากได้ล่องทะเลสาบซีหูเพื่อชมความงามก็ต้องไม่พลาดจุดชมวิวที่สำคัญคือเจดีย์เหลยเฟิง เป็นเจดีย์ 8 เหลี่ยม สูง 5 ชั้น
เป็นหมู่บ้านชาที่มีชื่อเสียงและน่ามาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยหมู่บ้านหลงจิ่งนั้นอยู่ในเขตเมืองหังโจว เมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องใบชาชั้นดีที่สุดชนิดหนึ่งของประเทศจีน กล่าวกันว่า “ดื่มชาหลงจิ่ง เพียง 1 จิบ ปากจะหอมตลอดวัน”
เป็นถนนสายหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของหังโจวได้อย่างดี มีลักษณะเรียบง่ายแบบโบราณ สองข้างถนนสายนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าทั่วไป มีสินค้าพื้นเมือง และสินค้าที่ระลึก ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าของฝากกันได้
เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นเมืองเก่าแก่ 1 ใน 6 ของประเทศจีน ปัจจุบันหางโจว ถือเป็นเมืองที่อยู่ในเขตภาคตะวันออกที่ได้รับการพัฒนาอย่างสูงสุดแล้ว ดังนั้นหางโจวจึงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มีวัฒนธรรมที่ยาวนาน และเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพที่สวยสดงดงามเมืองหนึ่งของประเทศจีน รวมทั้งมั่งคั่งไปด้วยเภสัชอุตสาหกรรม และสถาบันศิลปะมากมาย
หยก (Jade) คือชื่อที่ใช้เรียกหินซึ่งเป็นอัญมณีอันล้ำค่ามากชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะชาวจีนถือว่าหยกเป็นเจ้าแห่งหินมีค่าทั้งมวล
ล่องเรือชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองอูเจิ้น ซึ่งเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า " นครเวนิชแห่งมณฑลเจ๋อเจียง " มีประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปี ชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านริมน้ำ เป็นสถานที่บ่งบอกความเป็นเจียงหนันซึ่งเป็นบ้านเกิด " เหมาตุ้น " ที่มีสิ่งก่อสร้างโบราณสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์แมนจู
การนวดเท้า เป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียดปรับสมดุลให้การไหลเวียนของโลหิตด้วยวิธีธรรมชาติ และท่านยังสามารถชมการสาธิตการรักษาแผลจากไฟไหม้ของโรงงานเป่าฝู่ถังผลิตยา"บัวหิมะ"ที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองจีน
ผู่โถวซัน เป็นเกาะหนึ่งที่ขึ้นกับเกาะโจวซัน (Zhou Shan) ในมณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang) ติดกับเมืองหนิงโป (Ningbo) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลนี้ สันนิษฐานว่า เจ้าแม่กวนอิมได้มานั่งสมาธิและบำเพ็ญตนจนบรรลุเป็น พระโพธิสัตว์ ณ.บนเกาะแห่งนี้ จึงมีประชาชนชาวจีนมากราบไหว้ที่เกาะแห่งนี้เป็นจำนวนมากทุกๆปี
เป็นวัดแห่งแรกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเกาะผู่โถวซาน กินเนื้อที่ประมาณ 37,019 ตารางเมตร ในวัดมีสระน้ำและสวนหย่อมอันร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีวิหารต้าเยวียนทงเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดของวัด มีความยาว 47 เมตรลึก 29 เมตร และสูง 21 เมตร จะแตกต่างจากวัดพุทธทั่วไป เนื่องจากมีองค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นพระประธานสูงเกือบ 9 เมตร
ที่นี่เป็นวัดขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนโขดหินริมทะเล เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้ ทาทับด้วยสีทององค์แรกของเกาะผู่โถวซาน ส่วนบริเวณรอบนอกวัดนี้จะมีจุดชมวิวทะเลที่สวยงาม มาก
เป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมบนผู่โถวซาน ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าท่านเป็นตัวละครรองในวรรณกรรมเรื่องไซอิ่ว มีเรื่องเล่าว่าเคยท่านสถิตย์ ณ เกาะผู่โถวซานและปฏิบัติธรรมที่นั่น ปัจจุบันคือเทวรูปองค์ใหญ่เป็นเจ้าแม่กวนอิมปางทรงธรรมจักร ในพระหัตถ์ซ้าย ส่วนพระหัตถ์ขวาทำพระกิริยาห้าม มองไปที่ทะเลใต้ เรียกว่า หนานไห่กวนอิม (南海關) และมีอัครสาวกยืนขนาบกัน นั่นก็คือพระสุธนกุมาร และธิดาพญามังกร
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซี มีท่าเรือที่มีจำนวนเรือคับคั่งที่สุดในโลก ในปัจจุบันเซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมากที่สุดในจีน เต็มไปด้วยร้านค้า สิ่งก่อสร้าง ถนนเต็มไปด้วยรถ จักรยาน และผู้คน
หาดไว่ทัน หรือหาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ เป็นย่านเมืองเก่าของมหานคร ที่มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบตะวันตก เพราะครั้งหนึ่งแถบนี้เคยเป็นเขตเช่าของชาวต่างชาติ ปัจจุบันเป็นที่ที่ผู้คนนิยมเดินเล่น ทอดน่อง แวะชมความงามแบบคลาสสิก ถนนเรียบแม่น้ำ แต่เดิมนั้นบริเวณแห่งนี้ เคยเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า และเป็นเขตเช่าของประเทศต่างๆ ในสมัยอาณานิคม
ถนนนานกิง หรือนานจิงลู่ เป็นย่านถนนช็อปปิ้งเก่าแก่ที่สุดของเซี่ยงไฮ้ เป็นตลาดซื้อขายของกันคึกคักตั้งแต่ทศวรรษ 1920 ตั้งอยู่ฝั่งผู่ซี กินพื้นที่ยาวตั้งแต่ฝั่งตะวันตกของ “เดอะ บันด์” ถึง “พีเพิลส์ สแควร์” เป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลก ช่วงเทศกาล ตรุษจีน ปีใหม่ และคริสต์มาส ชาวเซี่ยงไฮ้และนักท่องเที่ยวจะมารวมตัวกันฉลองความสุขสันต์บนถนนสายนี้
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของผู่ตง ในเขตเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประตูหลักสู่ประเทศจีน รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 17 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2549 มากกว่าท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ และเซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์