เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ในเขตซวงหลิว ในปี 2552 ท่าอากาศยานแห่งนี้ได้กลายเป็นท่าอากาศยานที่วุ่นวายที่สุดในภาคตะวันตกของจีน มีผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งสิ้นกว่า 22,637,762 คน
เป็นรถไฟความเร็วสูงที่บริหารงานโดยการรถไฟจีน มีความเร็วสูงสุดประมาณ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง การออกแบบระบบรถไฟความเร็วสูงทั้งหมดได้ถูกออกแบบมาจากต่างประเทศ ใช้สำหรับการเดินทางที่รวดเร็วระหว่างเมือง ปัจจุบันจีนมีแบบรถไฟความเร็วสูงต่างๆ มากมาย ใช้งานไปตามแต่ละสภาพภูมิประเทศ และเศรษฐกิจ
เป็นเมืองชายแดนจีน-ทิเบตในสมัยโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต ซึ่งชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวันมาแลกเปลี่ยนม้า แกะ ขนแกะ และหนังสัตว์ของชาวทิเบต
เป็นอุทยานระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอหนานปิง อยู่ทางเหนือของมณฑลเสฉวน ห่างจากตัวเมืองเฉิงตู ประมาณ 500 กิโลเมตร และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร ความสวยงามของที่นี่ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1992 มีแม่น้ำลำธาร มีทะเลสาบใหญ่น้อยมากมายหลายร้อยแห่ง ซึ่งชาวท้องถิ่นเรียกว่าลูกทะเล น้ำในทะเลสาบใสที่นี่มีความสะอาดและสวยงามตระการตา จะเห็นเงาสะท้อนภาพของภูเขาและป่าดงดิบท้องฟ้าเป็นสีคราม สัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์ที่ได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี
เป็นเมืองที่ราบสูงอันเงียบสงบและแปลกใหม่ด้วยการผสมผสานของวัฒนธรรมทิเบต ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เมืองโบราณและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และเป็นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยหลากหลายกลุ่ม รวมทั้งชาวทิเบตคนเกวียงคนฮุ่ยและชาวฮั่น
เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในอำเภอซงพานในเขตปกครองตนเองของทิเบต ที่นี่เป็นอุทยานที่อยู่ใกล้ๆ กับจิ่วจ้ายโกว เป็นแหล่งมรดกโลกที่สวยงามด้วยภูมิประเทศภูเขาสูงยอดปกคลุมด้วยหิมะ
ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเฉิงตูบนพื้นที่กว่า 600,000 ตารางเมตร ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1987 ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ การอยู่อาศัยและการแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้า ภายในได้รับการจัดสภาพแวดล้อมให้กลมกลืนกับป่าธรรมชาติ ทั้งยังเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์หายากของมณฑลเสฉวนอีกด้วย
เป็นถนนคนเดินอายุเก่าแก่นับพันปีของเมืองเฉินตู มีเสน่ห์ของความเป็นอาคาร ตกแต่งด้วยเรื่องราววิถีชีวิตการเป็นอยู่ของคนจีนเฉิงตูในสมัยโบราณ ปัจจุบันถูกพัฒนาให้เป็นย่านการค้า ในแต่ละซอยและตรอกจะมีร้านต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเลือกซื้อเลือกชมกัน ทั้งร้านหนังสือ ร้านชา-กาแฟ บาร์ เสื้อผ้า ไปจนถึงร้านอาหารนานาชนิด ที่นี่ยังถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของนครเฉิงตูอีกด้วย
โชว์เปลี่ยนหน้ากาก เป็นโชว์ที่ใช้ศิลปะพร้อมความสามารถในการเปลี่ยนหน้ากากแต่ละฉากภายในเสี้ยววินาที โดยที่ไม่สามารถจับตาได้ทัน เป็นการแสดงที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป
วัดเหวินซู วัดที่ใหญ่ และเก่าแก่ 1 ใน 4 แห่งมณฑลเสฉวน เป็นวัดที่มีชื่อสียงมากที่สุดของมณฑล เสฉวน สร้างในราชวงศ์ถัง แต่ถูกไฟไหม้ในสมัยราชวงศ์หมิง เหลือแต่พระที่ทำด้วยเหล็ก 10 องค์ และต้นสนพันปี 2 ต้น ภายในวัดมีพระหล่อสัมฤทธิ์กว่า 100 รูป ซึ่งหล่อขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านหยก ที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงของประเทศจีน ให้ท่านได้เลือกซื้อ กำไลหยก แหวนหยก หรือ ผีเซียะสัตว์ มงคลที่มีชื่อเสียง
เป็นวัดในพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ผนวชเป็นพระภิกษุของพระถังซัมจั๋ง ตั้งอยู่ใจกลางนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน เป็นสถานที่เงียบสงบในย่านใจกลางเมืองที่ของคึกคักของเฉินตู ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระอารามที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลเสฉวน
ที่นี่เป็นพื้นที่ศูนย์การค้าใจกลางเมืองเฉินตู ที่มีการพัฒนาโดยเน้นการค้าปลีกให้เป็นศูนย์การค้าในร่มที่ได้มาตรฐาน ภายในมีร้านสินค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถช้อปปิ้งกันได้ตามอัธยาศัย
เป็นถนนคนเดินในเมืองเฉิงตู มีอีกชื่อนึงว่าถนนทองคำ100 ปี ถนนคนเดินเส้นนี้มีร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีสินค้าทั้งแบรนด์ต่างประเทศและในประเทศ อาทิ เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องหนัง, กระเป๋าเดินทาง, นาฬิกา, เกมส์, รวมถึงร้านอาหารมากมาย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ในเขตซวงหลิว ในปี 2552 ท่าอากาศยานแห่งนี้ได้กลายเป็นท่าอากาศยานที่วุ่นวายที่สุดในภาคตะวันตกของจีน มีผู้โดยสารมาใช้บริการทั้งสิ้นกว่า 22,637,762 คน
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี