เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานประจำจังหวัดอุดรธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี อยู่ในเขตทหารกองทัพอากาศสังกัดกองบินที่ 23 ที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางการบินของภาคอีสานตอนบน ตั้งอยู่ใกล้เขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างจังหวัดหนองคายและนครหลวงเวียงจันทน์ของประเทศลาว ซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 50 กิโลเมตร
เป็นนครหลวงของประเทศลาว และเป็นเขตที่ตั้งของกรุงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นทั้งเมืองหลวงของลาวและเมืองเอกของเขตการปกครองดังกล่าว ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ มีเขตติดต่อกับหนองคายของประเทศไทย เชื่อมต่อคมนาคมด้วยสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 นครหลวงเวียงจันทน์เป็นเขตปกครองที่มีความเจริญของเมืองมากที่สุดในบรรดาเขตการปกครองระดับบนสุด 17 แห่งของประเทศลาว ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2532 โดยแยกออกมาจากแขวงเวียงจันทน์[1] เดิมชื่อ "กำแพงนครเวียงจันทน์" (ກຳແພງນະຄອນວຽງຈັນ) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น "นครหลวงเวียงจันทน์"
นมัสการ พระธาตุหลวง มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า พระเจดีย์โลกะจุฬามณี นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งของเมืองเวียงจันทน์ ตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย วัดพระธาตุหลวงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศลาว บริเวณด้านหน้ามีอนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชประดิษฐานอยู่ และยังมีร้านค้าจัดจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านและหัตถกรรม
เป็นนครหลวงของประเทศลาว และเป็นเขตที่ตั้งของกรุงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นทั้งเมืองหลวงของลาวและเมืองเอกของเขตการปกครองดังกล่าว ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ มีเขตติดต่อกับหนองคายของประเทศไทย เชื่อมต่อคมนาคมด้วยสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 นครหลวงเวียงจันทน์เป็นเขตปกครองที่มีความเจริญของเมืองมากที่สุดในบรรดาเขตการปกครองระดับบนสุด 17 แห่งของประเทศลาว ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2532 โดยแยกออกมาจากแขวงเวียงจันทน์[1] เดิมชื่อ "กำแพงนครเวียงจันทน์" (ກຳແພງນະຄອນວຽງຈັນ) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น "นครหลวงเวียงจันทน์"
วัดป่าเจย์ เป็นวัดพุทธหินยาน (เถรวาส) ซึ่งตั้งอยุ่ทางทิศใต้ของสวนม่านทิง บนเนื้อที่ 3000 ตารางเมตร ในอดีตวัดแห่งนี้ เป็นวัดที่เจ้าปกครองสิบสองปันนาใช้เป็นที่ไหว้พระและประกอบศาสนกิจ ภายในวัดมีวิหารและอุโบสถ และกุฏิซึ่งเป็นที่จำ วัดของพระสงค์รวมทั้งอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยพุทธศาสนาของมณฑลยูนาน
สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวไทลื้อ ในการจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้ออาหารการกินและของ ใช้ต่างๆภายในตลาดเช้า
สวนสร้างขึ้นใหม่ ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติป่าไม้ที่ร่มรื่น มหัศจรรย์กับต้นนกยูง ต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายนกยูง ซึ่งชาวเมืองสิบสองปันนาเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่านกยูง จากนั้นนำท่านชมการแสดงพื้นเมืองชมชาวเขาเผ่าต่างๆ
เป็นเมืองเอกในมณฑลยูนนานในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวนประชากรประมาณ 3,740,000 คน โดยมีประมาณ 1,055,000 คนที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบเตียนฉือด้านทิศเหนือ เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี จึงถูกขนานนามว่า "นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ"
เขาซีซาน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคุนหมิง 29 กิโลเมตร ที่ด้านบนภูเขามีวัดที่เป็นส่วนหนึ่งของวัดในลัทธิเต๋า สร้างในช่วงปี 1718-1843 ซึ่งบางช่วงของเส้นทางต้องผ่านอุโมงค์หินที่สกัดไว้ตามไหล่เขา ด้านบนเขาซีซานนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามของทิวทัศน์ทะเลสาบและตัวเมืองคุนหมิงจากมุมสูงแบบพาโรนามา
ถนนคนเดินจินปี้ลู่ ถนนที่เก่าแก่ที่สุดใจกลางนครคุนหมิง ซี่งสัญลักษณ์ของถนนคนเดินแห่งนี้ก็คือซุ้มประตูม้าทอง และซุ้มประตูไก่มรกต ตั้งอยู่ตอนกลางของถนน ซึ่งภาษาจีนเรียกว่าจินหม่าและปี้จีจึงเอาคำย่อ “จินปี้” มาขนานนามถนนว่าจินปี้ลู่ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย ในถนนย่านถนนจินปี้ลู่แห่งนี้เป็นแหล่งเสื้อผ้าแบรนด์เนม ทั้งของจีนและต่างประเทศ เครื่องประดับอัญมณีชั้นเยี่ยม ร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหารพื้นเมือง ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายของที่ระลึกต่างๆมากมาย
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่โดดเด่น ตั้งอยู่ในเขตหยีเหลียง ตั้งอยู่ห่างจากคุนหมิงไปทางตะวันออกประมาณ 90 กิโลเมตร ที่นี่มีความน่าสนใจของแนวหินปูนสูงจากพื้นดินในลักษณะที่ชวนให้นึกถึงต้นไม้ที่กลายเป็นหิน เป็นภาพที่คล้ายกับป่าที่ทำจากหินที่ดูน่าสนใจ ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีนด้วย
เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 1,200 ปี วัดหยวนทงถูกสร้างในสมัยราชวงศ์ ถัง วัดหยวนทงตั้งอยู่ใจกลางเมืองคุนหมิง จุดเด่นของวัดอยู่ที่อาคารต่าง ๆ ภายในวัดจะสร้างอยู่บริเวณตีนเขา ซึ่งแตกต่างไปจากวัดทั่วไปของจีนที่มักสร้างไว้ในที่สูง เช่น บนยอดเขาหรือเนินเขา มีการเล่าขานกันว่าแต่เดิมวัดหยวนทงเป็นเพียงศาลเจ้าแม่กวนอิม มีโบถส์ไทยอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองที่ท่านนายกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ได้อันเชิญมาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างไทย – จีน อีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคุนหมิงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 25 กม. เปิดให้บริการแก่พี่น้องชาวเมืองคุนหมิงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา เป็นศูนย์กลางการบินขนาดใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติการก่อสร้างในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนฉบับที่ 11 (ปี 2549 - 2553) และเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน รองจากท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย