เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ในเขตชางงี เป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์, สิงคโปร์แอร์ไลน์คาร์โก, ซิลค์แอร์, ไทเกอร์แอร์เวย์, เจ็ตสตาร์เอเชียแอร์เวย์ และแวลูแอร์ ในปี พ.ศ. 2549 ท่าอากาศยานแห่งนี้รองรับผู้โดยสารจำนวนถึง 35 ล้านคน เพิ่มมากขึ้น 8% จากปีงบประมาณ 2548 พ.ศ. 2552 ท่าอากาศยานนานาชาตินี้เคยได้รับการลงคะแนนให้เป็นท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับรางวัลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกอีกด้วย ซูริคมีชื่อเสียงในเรื่องการเป็นศูนย์กลางการเงินของโลกรวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัย แวดล้อมด้วยแม่น้ำและทะเลสาบที่มีน้ำใสสะอาดจนสามารถดื่มได้ เมืองที่งดงามแห่งนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเที่ยวชมและรื่นรมย์กับบรรยากาศและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังเป็นมหานครแห่งวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์นี้
เป็นเมืองสวยงาม ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนเยอรมัน ชมเมืองที่ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค
เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินที่สวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตกโดยรอบที่โดดเด่น
เป็นเมืองที่สวยงามราวกับเทพนิยาย ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้วเมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลก ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทางที่เมืองซุกจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง
เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า 500 ปีแล้ว กับส่วนเมืองใหม่ที่แยกออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัย หรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
แองเกิ้ลเบิร์ก เป็นอีกหนึ่งเมืองรีสอร์ทชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ที่ต้องหาโอกาสมาเยือนสักครั้ง โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ๆกับ"ภูเขาทิตลิส" ภูเขาที่มียอดสูงจากระดับน้ำทะเลหนึ่งกว่า 10,000 ฟุต หรือ 3,020 เมตร ปัจจุบันเมืองเอนเกลเบิร์กได้กลายเป็นอีกหนึ่งอัลไพน์รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์
เป็นยอดเขาที่อยู่บนเทือกเขาแอลป์ในเขต Uri ซึ่งตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างรัฐ Obwalden และกรุงเบิร์น มีความสูงอยู่ที่ 3,238 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนยอดเขามีภัตตาคารที่สามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของทิวเขาโดยรอบได้
เป็นถํ้าที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ที่มีแสงไฟนีออนส่องสว่างเป็นระยะๆ การเดินในถํ้าน้ำแข็งเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะพื้นลื่นมากๆ แต่จะมีวางแผ่นกันลื่นไว้ให้ตลอดทาง
สะพานแขวน Titlis Cliff Walk นับเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 9,000 ฟุต ยาว 330 ฟุต แต่กว้างเพียง 3 ฟุต และใช้งบประมาณสร้าง 1 ล้านยูโร โดยสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี การเปิดการเชื่อมเคเบิลระหว่างเมืองแองเกิลเบิร์กและเกอร์ชนิอัลป์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สำรวจความงามของธารน้ำแข็งเบื้องล่างได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ สะพานแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่น่าหวาดเสียวที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นสะพานที่ชวนให้ต้องขนลุกเมื่่อต้องข้ามเพราะความสูงมาก โดยอยู่เหนือแผ่นน้ำแข็งเหนือเทือกเขาแอลป์ราว 15,000 ฟุต ประกอบกับต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบสุดขั้วอีกด้วย
เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศตัวทะเลสาบมีรูปร่างที่โค้งงอแบบซับซ้อน รอบๆ ทะเลสาบมีเส้นทางการเดินป่ามากมาย รวมทั้งเส้นทางขี่จักรยานพื้นราบ และเส้นทางจักรยานภูเขา
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิน และเป็นอนุสาวรีย์สำหรับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น สำหรับความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในฝรั่งเศส
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่าง แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่จนอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิม
ช้อปปิ้งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นานาชนิด อาทิ มีดพับสวิสฯ ,ช็อคโกแล็ต ,ของซูวีเนียร์ต่างๆ และที่ไม่ควรพลาดคือ นาฬิกายี่ห้อต่างๆที่มีชื่อเสียงของสวิสเซอร์แลนด์ จากร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์, กือเบอลิน, เอ็มบาสซี่ ฯลฯ
เป็นยอดเขาที่อยู่กลางเมืองลูเซิร์นในเทือกเขาแอลป์ มีความสูงอยู่ที่ 2,132 เมตรจากระดับน้ำทะเล แถมพิลาตุสยังถือว่าป็นสัญลักษ์ของเมืองงลูเซิร์นอีกด้วย วิธีขึ้นก็มีหลายวิธีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น นั่งเรือจากเมืองลูเซิร์น ชมทะเลสาบให้เพลินก่อนซักชั่วโมงครึ่งแล้วค่อยนั่งรถรางขึ้นเขาอีก 40 นาที หรือขึ้นกระเช้า Panorama Gondola
ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เช่น น้ำตกทรุมเมลบาค อยู่ในภูเขาวนวนเป็นเกลียว เกิดจากธารน้ำแข็งมี 10 ชั้น และน้ำตก Staubbach น้ำไหลแรงและเย็นมากๆ เห็นมีฝูงแกะที่เขาเลี้ยงอยู่รอบๆ ส่วนถนนในหมู่บ้านของเมืองมีเส้นดียวขนานไปกับช่องเขา
เป็นน้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป ตั้งอยู่ในเขตเมืองเลาเทอร์บรุนเนน ตัวน้ำตกมีลักษณะที่ไหลลงเป็นแนวดิ่งมาจากหน้าผาที่สูงกว่า 200 เมตร
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง สัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคนสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนใครที่ชอบช้อป ก็มีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรูให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด
เป็นย่านถนนสายหลักเหมือนถนนคนเดิน ตกแต่งด้วยกระถางดอกไม้ใต้หน้าต่าง อยู่ใจกลางเมืองอินเทอร์ลาเก้น ยาวถึง700ม เหมาะสำหรับเดินเล่นพักผ่อนและช้อปปิ้ง อีกทั้งเป็นที่ตั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าขายสินค้านานาชนิดเปิดอยู่เรียงราย ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น นาฬิกาและของที่ระลึก รวมทั้งร้านอาหาร ภัตตาคาร อร่อยๆ ที่ปรุงโดยพ่อครัวชั้นนำ
เป็นพื้นที่ชนบทที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางขึ้นยอดเขาจุงเฟราที่สำคัญจุดหนึ่ง มีโรงแรมและรีสอร์ทตากอากาศอยู่หลายแห่งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามไม่แพ้พื้นที่รอบๆ
มีความหมายว่า สาวน้อย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ยอดเขาจุงเฟรา มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร และเป็นที่นิยมของนักสกีมาเล่นกีฬาที่ท้าทายที่นี่
ถ้ำนี้มีอายุกว่าพันปี มีความยาวถึง 130 เมตร และลึกที่สุดถึง 15 เมตร มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี อุณหภูมิข้างในจะหนาวเหน็บแบบติดลบ อุณหภูมิ 1 ถึง 1.5 องศา แต่ก็ทำให้เราติดใจในความแปลกตาของรูปทรงน้ำแข็งที่สวยใสวาววับราวกับคริสตัลของสวารอฟสกี้ มีพรมกันลื่นปูไว้ให้เดิน และเปิดไฟสลัวๆภายในถ้ำ ทำให้สวยงามมาก เลยทีเดียว
เป็นลานหอดูดาวซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่ได้รับการตั้งชื่อตามสฟิงซ์ซึ่งเป็นยอดหินที่ตั้งอยู่ จากตรงนี้นักท่อเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเทือกเขาอันงดงงามได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส
เป็นธารน้ำแข็งที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” มีความยาวถึง 22 กิโลเมตร ซึ่งยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย วันที่อากาศดีจากบนยอดเขาจุงเฟราจะสามารถเห็นวิวธารน้ำแข็งนี้ได้อย่างชัดเจน
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับรางวัลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกอีกด้วย ซูริคมีชื่อเสียงในเรื่องการเป็นศูนย์กลางการเงินของโลกรวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัย แวดล้อมด้วยแม่น้ำและทะเลสาบที่มีน้ำใสสะอาดจนสามารถดื่มได้ เมืองที่งดงามแห่งนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเที่ยวชมและรื่นรมย์กับบรรยากาศและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังเป็นมหานครแห่งวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์นี้
เป็นโบสถ์สวยที่มีสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 9 อันมีชื่อเสียง เพราะหน้าต่างในโบสถ์ประดับด้วยกระจกสีฝีมือศิลปินที่มีชื่อเสียงมากของยุโรปชื่อ MARC CHAGALL รังสรรค์งานศิลปะชิ้นเยี่ยมของโลกไว้ที่โบสถ์นี้
มหาวิหารคู่บ้านคู่เมือง กรอสมุนเตอร์ (Grossmunste Church) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซูริค ถัดมาคือโบสถ์อีกแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า Peterskirche หรือ St.Peter’s Church โดยด้านบนสุดเป็นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป้นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรูเป็นจำนวนมาก
รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ท่าอากาศยานโคลเทิน (Kloten Airport) ตั้งอยู่ในเมืองโคลเทิน, รัฐซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ บริหารโดย Unique Airport เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นศูนย์กลางของสายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ มี Skyguide รับผิดชอบการควบคุมการจราจรทางอากาศทั้งหมดในท่าอากาศยาน
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ในเขตชางงี เป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์, สิงคโปร์แอร์ไลน์คาร์โก, ซิลค์แอร์, ไทเกอร์แอร์เวย์, เจ็ตสตาร์เอเชียแอร์เวย์ และแวลูแอร์ ในปี พ.ศ. 2549 ท่าอากาศยานแห่งนี้รองรับผู้โดยสารจำนวนถึง 35 ล้านคน เพิ่มมากขึ้น 8% จากปีงบประมาณ 2548 พ.ศ. 2552 ท่าอากาศยานนานาชาตินี้เคยได้รับการลงคะแนนให้เป็นท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย