เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นพิพิธภัณฑ์ใหม่ที่รวบรวมโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบจาก สุสานโบราณและของเก่าจากพื้นที่ต่างๆ รอบฉางอานนับแสนชิ้น
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน สร้างจากอิฐและไม้ เป็นอาคารหลังคาสามชั้น มีความสูงทั้งหมด 36 เมตร หอระฆังแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปีที่ 17 สมัยจักรพรรดิหงอู่แห่งราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1384) เป็นรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมที่เด่นชัดของราชวงศ์หมิง เป็นหอระฆังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรักษาไว้สมบูรณ์แบบที่สุดของจีนโบราณที่สืบทอดจนถึงปัจจุบัน
เป็นถนนคนเดินอิสลามที่เป็นแหล่งรวมของอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อหลากชนิด รวมถึงร้านขายของที่ระลึกและร้านขายผลไม้แห้ง เช่น พุทธา อินทผาลัม ลูกพลับ กีวี่ วอลนัทและถั่วต่างๆ ก็มีให้ท่านได้เลือกซื้อมากมายหลายร้าน ท่านใดที่เป็นนักชิมรับรองว่า อาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิดในตลาดมุสลิมแห่งนี้ไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
เป็นเจดีย์แห่งวัดฉือเอิน สร้างเสร็จในปี 652 โดยถังเกาจง (หลี่จื้อ) ฮ่องเต้องค์ที่สาม แห่งราชวงศ์ถัง และ ได้นิมนต์พระภิกษุสวนจั้ง หรือรู้จักในนามพระถังซัมจั๋ง พระเถระที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยถัง ซึ่งใช้เวลากว่า 15 ปี จาริกไปถึงอินเดียและได้นำพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา กลับมาเผยแผ่ ในแผ่นดินจีนให้มาอยู่ที่วัดฉือเอินแห่งนี้ พระถังซัมจั๋งได้ใช้เวลาออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่าใหญ่ในวัดฉือเอินเพื่อใช้ในการเก็บรักษาพระไตรปิฎก ที่ท่านได้นำมาจากอินเดียและแปลเป็นภาษาจีนนับจำนวนกว่าพันเล่ม
ชาวจีนเรียกสุสานแห่งกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า “ฉินหย่ง” บ้างเรียก “ปิงหม่าหย่ง” โดยปิง หมายถึง ทหาร , หม่า หมายถึง ม้า , หย่ง หมายถึง หุ่น ซึ่งสุสานกองทัพมีทั้งหมด 3 หลุม ซึ่งชาวนาขุดพบโดยบังเอิญ ในปี ค.ศ. 1974 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น
เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นในสมัยสงครามระหว่างรัฐ (จ้านกั๋วก่อนคริสต์กาล 403-221 ปี) อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ของพื้นที่อันเป็นที่ตั้งของลั่วหยางนี้มีมาก่อนหน้านั้นยาวนานมานับพัน ๆ ปี เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพื้นที่การดำรงชีพและการปกครองของบรรพบุรุษชาวจีนมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยพื้นที่อันเป็นเมืองลั่วหยางในปัจจุบันก็ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย
ถ้ำหินหลงเหมิน มีอายุราว 1,500 ปี เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยเว่ยเหนือ ค.ศ. 494 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง บูรณะ และต่อเติมยาวนานถึง 400 กว่าปีจนถึงยุคราชวงค์ถังและซ่ง มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันยังคงหลงเหลือถ้ำผาแกะสลักอยู่จำนวน 2,100 กว่าคูหา โพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆ อีก 3,600 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 50 กว่าแห่ง พระพุทธรูปสลักมากกว่า 100,000 องค์
เป็นวัดเส้าหลินมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในประเทศจีนและในต่างประเทศ ได้รับการกล่าวขานในเรื่องของกระบวนท่าวิทยายุทธ เพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งวิชาการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ปรากฏชื่อในนิยายกำลังภายในหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งล้วนแต่กล่าวถึงวิชาเพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินอยู่เสมอ
ชมการแสดงกังฟู ที่มีการสืบทอดเป็นบทเรียนและมีการจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม ที่โรงเรียนฝึกกังฟูในบริเวณใกล้เคียงวัดเส้าหลิน
อุทยานสวรรค์ “หยุนไถซาน” อุทยานที่สวยงามที่สุดของมณฑลเหอหนาน ระดับ 4A ของประเทศจีน สัมผัสหยุนไถซาน อุทยานธรรมชาติที่ได้บรรจงสร้างอย่างงดงาม ชมน้ำตกที่มีฟองน้ำใสสะอาด กระจายดุจดังสำลี ตอนกลางวันจะมีแสงสีรุ้งพาดโค้งทิวทัศน์เป็นภูเขาสูงตระหง่านเกินเอื้อมถึงเมฆและหมอกลอยหนุนระหว่างยอดเขาตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเหมือนอุทยานที่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้หลากสีสวยงามเต็มพื้นที่ทั่วอุทยานสวรรค์หยุนไถซาน
จตุรัส 27 (Erqi Square) แหล่งช็อปปิ้งกลางเมืองเจิ้งโจว (郑州:Zhengzhou) เป็นย่านการค้าที่เจริญรุ่งเรืองของมณฑลเหอหนาน ประกอบไปด้วยศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านหนังสือขนาดใหญ่และร้านอาหาร ปัจจุบันจตุรัส 27 หรือ Erqi สแควร์ได้กลายเป็นสถานที่ที่ต้องไปช้อปปิ้งเมื่อมาเยี่ยมเมืองเจิ้งโจว อิสระช้อบปิ้งที่ถนนคนเดิน จตุรัส 27 หรือ Erqi สแควร์ มาจากชื่ออาคารหอนาฬิกาทรงห้าเหลี่ยม ที่ถูกสร้างขึ้นในใจกลางของจัตุรัสเพื่อรำลึกถึงการนัดหยุดงานของคนงานรถไฟ สาย Jinghan (ปักกิ่ง-หวู่ฮั่น) ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2466 คำว่า 27 หรือ Erqi คือ วันที่ 7 เดือน 2 นั่นเอง หอถูกสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างคอนกรีตมีความสูง 63 เมตร มี 14 ชั้น โดยที่ 3 ชั้นด้านล่างเป็นฐาน ชายคาในแต่ละชั้นออกแบบเป็นกระเบื้องเคลือบสีเขียวทั้งหมดในสไตล์จีนแบบดั้งเดิมมีนาฬิกาจำนวน 6 เรือนรอบหอระฆัง แต่ละเรือนมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7 เมตร แต่ละชั่วโมงมีเสียงเพลงไพเราะซึ่งสามารถได้ยินไปได้ไกล
ท่าอากาศยานนานาชาติเจิ้งโจวซินเจิ้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองเจิ้งโจว ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 37 กิโลเมตร ท่าอากาศยานแห่งนี้เปิดใช้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ.1997 ซึ่งถือเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่ 21 ของประเทศจีน เพื่อใช้งานแทนท่าอากาศยานตงเจียว ที่ตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางเมืองเจิ้งโจว ท่าอากาศยานแห่งนี้เที่ยวบินที่ให้บริการทั้งในประเทศและในภูมิภาคจากท่าอากาศยานใหญ่ๆ ในประเทศจีน และยังมีเที่ยวบินขนส่งสินค้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ตลอดจนเที่ยวบินเช่าเหมาลำมายังประเทศไทยในช่วงฤดูท่องเที่ยวอีกด้วย
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี