เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ชาวจีนเรียกสุสานแห่งกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า “ฉินหย่ง” บ้างเรียก “ปิงหม่าหย่ง” โดยปิง หมายถึง ทหาร , หม่า หมายถึง ม้า , หย่ง หมายถึง หุ่น ซึ่งสุสานกองทัพมีทั้งหมด 3 หลุม ซึ่งชาวนาขุดพบโดยบังเอิญ ในปี ค.ศ. 1974 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น
เป็นพิพิธภัณฑ์ใหม่ที่รวบรวมโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบจาก สุสานโบราณและของเก่าจากพื้นที่ต่างๆ รอบฉางอานนับแสนชิ้น
เป็นกำแพงเมืองโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีแนวกำแพงจากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาว 2.8 กิโลเมตร ทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาว 4.2 กิโลเมตร ความยาวโดยรอบ 14 กิโลเมตร สูง 12 เมตร มีประตูเข้าออกทั้งสี่ด้านรวม 13 ประตู
เป็นเจดีย์แห่งวัดฉือเอิน สร้างเสร็จในปี 652 โดยถังเกาจง (หลี่จื้อ) ฮ่องเต้องค์ที่สาม แห่งราชวงศ์ถัง และ ได้นิมนต์พระภิกษุสวนจั้ง หรือรู้จักในนามพระถังซัมจั๋ง พระเถระที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยถัง ซึ่งใช้เวลากว่า 15 ปี จาริกไปถึงอินเดียและได้นำพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา กลับมาเผยแผ่ ในแผ่นดินจีนให้มาอยู่ที่วัดฉือเอินแห่งนี้ พระถังซัมจั๋งได้ใช้เวลาออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่าใหญ่ในวัดฉือเอินเพื่อใช้ในการเก็บรักษาพระไตรปิฎก ที่ท่านได้นำมาจากอินเดียและแปลเป็นภาษาจีนนับจำนวนกว่าพันเล่ม
วัดลามะกว่างเหริน เป็นวัดลามะแห่งเดียวในนครซีอาน เป็นศาสนสถานของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ซึ่งเป็นนิกายที่ผสมผสานระหว่างนิกายมหายานจากประเทศจีนและนิกายตันตระจากประเทศอินเดีย วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ 1705 ครั้งฮ่องเต้คังซี ในเสด็จเยือนนครซีอานเห็นว่าการสร้างวัดนี้จะเป็นการสะดวกพักระหว่างทางสำหรับลามะผู้ใหญ่จากทิเบตที่ต้องเดินทางผ่านส่านซีเข้าสู่วังหลวงปักกิ่งเพื่อเข้าเฝ้า ในปัจจุบันวัดแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวัดลามะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน สร้างจากอิฐและไม้ เป็นอาคารหลังคาสามชั้น มีความสูงทั้งหมด 36 เมตร หอระฆังแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปีที่ 17 สมัยจักรพรรดิหงอู่แห่งราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1384) เป็นรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมที่เด่นชัดของราชวงศ์หมิง เป็นหอระฆังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรักษาไว้สมบูรณ์แบบที่สุดของจีนโบราณที่สืบทอดจนถึงปัจจุบัน
เป็นถนนคนเดินอิสลามที่เป็นแหล่งรวมของอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อหลากชนิด รวมถึงร้านขายของที่ระลึกและร้านขายผลไม้แห้ง เช่น พุทธา อินทผาลัม ลูกพลับ กีวี่ วอลนัทและถั่วต่างๆ ก็มีให้ท่านได้เลือกซื้อมากมายหลายร้าน ท่านใดที่เป็นนักชิมรับรองว่า อาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิดในตลาดมุสลิมแห่งนี้ไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย