
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก

ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นประตูสำคัญในการเข้าออกอียิปต์ และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของอียิปต์แอร์

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ ( Egyptian Museum) นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ของโลกที่เก่าแก่ที่สุดมานานและมีชื่อเสียง...เพราะความหลากหลายของซากปรักหักพังของวัตถุโบราณที่ได้ถูกค้นพบจากที่ต่างๆ อย่างมากมายในหลากหลายสมัยๆ ที่ได้ถูกส่งทยอยเข้ามาเก็บ รักษาเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

เป็นสุเหร่าที่ใช้เวลาในการสร้างนานกว่า 18 ปี นับเป็นสุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ตัวอาคารสร้างจากหินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) ตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีโดมขนาดใหญ่สูง 52 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เมตร มีโดมขนาดเล็กรองรับอีก 4 มุม ตัวอาคารสร้างด้วยหิน อลาบาสต์ ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลาม

เป็นมัสยิดสำคัญในไคโร แต่แรกเริ่มถูกสร้างขึ้นมาในช่วง 641 ปีก่อนคริสตกาลให้เป็นศูนย์กลางเมืองหลวงอียิปต์ที่ชื่อ Fustat ในสมัยนั้น ซึ่งที่ตั้งของมัสยิดเป็นที่ตั้งของเต็นท์ของผู้บัญชาการกองทัพมุสลิมนายพล Amr ibn al-As มัสยิดบรรจุหลุมศพลูกชายของเขาคือ 'อับดุลอัลเลาะห์อิบัน' อัมรอิบันอัล' เนื่องจากมีการบูรณะใหม่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายศตวรรษ จึงไม่มีสิ่งก่อสร้างเดิมเหลืออยู่อีกต่อไป ปัจจุบันเป็นมัสยิดที่คึกคักและชุมนุมผู้ศรัทธาและเมื่อไม่มีการละหมาดก็จะเปิดให้ผู้เยี่ยมชมและนักท่องเที่ยว และยังได้ชื่อว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในโลกอิสลาม

เป็นสุเหร่าที่ใช้เวลาในการสร้างนานกว่า 18 ปี นับเป็นสุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ตัวอาคารสร้างจากหินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) ตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีโดมขนาดใหญ่สูง 52 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เมตร มีโดมขนาดเล็กรองรับอีก 4 มุม ตัวอาคารสร้างด้วยหิน อลาบาสต์ ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลาม

เป็นท่าอากาศยานประจำเมืองอัสวาน ถูกสร้างขึ้นในปี 1956 ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอัสวานไปประมาณ 16 กิโลเมตร

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์และเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองอัสวานที่ได้ขยายตัวและรวมถึงชุมชนที่แยกจากเดิม และยังเป็นส่วนหนึ่งของเมือง Creative Cities โดยยูเนสโก้ในเรื่องของงานฝีมือและศิลปะพื้นบ้านอียิปต์ต่างๆ

เป็นเมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบนูเบีย ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงอัสวานไปประมาณ 240 กิโลเมตร ที่นี่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นที่ตั้งของวัดอาบูซิมเบลซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์รามเสสที่ 2

เป็นเมืองเกษตรกรรมในประเทศอียิปต์ เดิมมีชื่อว่า Nubt หมายถึง City of Gold หรือเมืองพระเจ้า เมืองนี้ยังเป็นเมืองท่าที่ควบคุมเส้นทางการค้าจากนูเบียไปยังหุบเขาแม่น้ำไนล์เมื่อยุคกรีก ปัจจุบันเป็นอีกเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวัดคอมออมโบที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่

วิหารเอ็ดฟู (TEMPLE OF EDFU OR TEMPLE OF HORUS) ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่สวยงาม สร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพฮอรัส (HORUS) มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนเหยี่ยว ขนาดของวิหารนี้ มีความกว้างบริเวณซุ้มถึง 79 เมตร และมีความยาวถึง 137 เมตร มีหลักฐานแกะสลักไว้ว่า เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี 237 ก่อนคริสต์ศักราช

เมืองลักซอร์อยู่ทางตอนใต้ของเมืองไคโร กว่า 650 กิโลเมตรตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำไนล์ มีแหล่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากๆ อยู่หลายแห่ง

หุบเขากษัตริย์ (The Valley of the Kings) เป็นหุบเขาแห่งสุสานที่ฝังหลุมศพของกษัตริย์และราชวงศ์ในราชอาณาจักรใหม่ (ตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 18 ถึง 20 ของอียิปต์โบราณ) ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ฝั่งตรงข้ามกับเมืองธีปส์ หรือเมืองลักซอร์ในปัจจุบัน หุบเขากษัตริย์ โด่งดังมาจากการค้นพบสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน (ที่เป็นที่เลื่องลือด้านคำสาปฟาโรห์) และยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่โบราณคดีที่โด่งดังที่สุดในโลก ในปี ค.ศ. 1979 ถูกยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

วิหารฮัคเชฟซุต (Temple of QueeHatshepsut) ออกแบบโดยสถาปนิก ชื่อ “เซเนมุท” กว่า 3,500 ปีมาแล้วเป็นที่ประดิษฐานพระศพของ ฟาโรห์หญิงฮัตเชพซุต รู้จักในนาม “ราชินีหนวด” ฟาโรห์หญิงองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่รุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์

มหาวิหารคาร์นัค (Great Temple of Karnak) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของอียิปต์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองลักซอร์ 3 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าอะมอนรา (สุริยะเทพ) และเพื่อเป็นสถานที่จัดพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อของอียิปต์โบราณ คาร์นักเป็นชื่อหมู่บ้านของเทพอะมอน เป็นเมืองหลวงแห่งอาณาจักรไอยคุปต์มาตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 11 จนถึงราชวงศ์ที่ 21 รวมเวลานับ 1,000 ปี

วิหารลักซอร์ (Luxor Temple) สร้างโดยฟาโรห์อเมโนฟิสที่3 พระองค์ทรงสร้างวิหารแห่งนี้พร้อมกับการบูรณะต่อเติมวิหารคาร์นักไปด้วย หากนับวิหารถึงปัจจุบันจะมีอายุรวม 3,400 ปี วิหารได้รับการปฏิสังขรณ์สานต่อจากฟาโรห์องค์ต่อมาหลายพระองค์ แต่ที่เด่นที่สุดจนวิหารแห่งนี้ดูสมบูรณ์แบบสวยงามนั้นเป็นฝีมือของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ที่นี่เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองเพื่อการพักผ่อนของเทพอะมอนราและครอบครัวคือเทวีมัตและเทพคอนส์หรือคอนชู

เป็นท่าอากาศยานหลักประจำเมืองลักซอร์ของประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ 6 กิโลเมตรไปทางตะวันออกของเมือง ตัวท่าอากาศยานรองรับผู้โดยสารได้ 8 ล้านคนต่อปี มีโรงอาหาร ร้านดิวตี้ฟรี ห้องไปรษณีย์ และอื่นอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครบครัน

เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอียิปต์และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเมืองทอดตัวยาวประมาณ 32 กิโลเมตรตามแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตออร์เรเนียน เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 332 ปีก่อนคริสตกาลโดยพระเจ้าอเล็กซานเดดอร์มหาราช กษัตริย์แห่งมาซีโดเนียและผู้นำกรีกลีกโครินธ์เพื่อเป็ศูนย์กลางอารยธรรมที่สำคัญ ปัจจุบันเมืองอเล็กซานเดรียเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญของอียิปต์เนื่องจากมีก๊าซธรรมชาติและท่อส่งน้ำมันจากสุเอซ และเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยของประเทศอียิปต์

เป็นสถานที่ฝังศพใต้ดินของกษัตริย์อียิปต์โบราณอีกแบบหนึ่งนอกเหนือไปจากปิรามิด อยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ อุโมงค์แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า คาตาโกมบ์ (catacombs) โดยขุดลึกเข้าไปในภูเขาหินทรายเป็นขั้นๆ บางตอนมีความลึกถึง 70-80 ฟุต มีทางเดินกว้าง 3-4 ฟุต ทางเดินจะวกไปเวียนมาเป็นระยะทางนับร้อยไมล์ ผนังอุโมงค์ถูกเจาะเป็นช่อง ๆ ลึกเข้าไปเพื่อใช้เป็นที่บรรจุศพ มีแท่นบูชาและตะเกียงดวงเล็ก ๆ แขวนไว้ บางส่วนของอุโมงค์แห่งนี้ได้ตบแต่งเอาไว้อย่างวิจิตรพิสดารสภาพในปัจจุบันยังคงความสมบูรณ์เอาไว้พอที่จะให้ผู้สนใจเข้าไปเที่ยวชมได้

หอสมุดศึกษาประวัติศาสตร์แห่ง เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ เป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณของกรีกและอียิปต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ป้อมปราการซิทาเดล (CITADEL) ซึ่งในอดีตนั้นเป็นที่ตั้งของ ประภาคารฟาโรส ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐานและได้มีรับการทะนุบำรุงต่อเติมจากสุลต่านเกย์ตเบย์ โดยรวบรามซากเดิมบางส่วนเข้ามา พักผ่อนหย่อนใจกับการชมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม

เป็นเสาที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของโรมันในอเล็กซานเดรีย ตั้งอยู่ในเขต Serapeum ที่นี่เป็นหนึ่งในเสาหินโบราณที่ใหญ่ที่สุดและเป็นหนึ่งในเสาหินเสาหินที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราเคยสร้างขึ้นมา

เป็นเมืองหลวงของประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ไคโรมีประชากรประมาณ 15.2 ล้านคน ซึ่งเป็นเมืองที่ประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นแห่งหนึ่งในโลก

กีซา (Giza) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ อยู่ห่างจากศูนย์กลางของไคโรไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ราว 20 กิโลเมตร กีซาเป็นเมืองหลวงของเขตผู้ว่าการกีซา เมืองมีประชากร 2,681,863 คนจากการสำรวจประชากรใน ค.ศ. 2006 เป็นชานเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก กีซาเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง เป็นที่ตั้งของที่ราบสูงกีซา ที่ตั้งของอนุสรณ์โบราณ อย่างเช่น เกรตสฟิงซ์และพีระมิด 3 แห่งที่สร้างในสมัยราชวงศ์ที่ 4 ของอียิปต์

เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ ชาวอียิปต์ในสมัยนั้นเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ดังนั้นจึงต้องแน่ใจว่ากษัตริย์ของพวกเขาจะทรงมีทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับโลกหน้า พวกเขาได้ฝังทรัพย์สินและสิ่งของส่วนพระองค์ไปพร้อมกัน สิ่งที่นักโบราณคดีค้นพบเป็นจำนวนมากในห้องเก็บสมบัติของปิรามิดได้แก่เพชรพลอย อาหาร เครื่องเรือน เครื่องดนตรี และอุปกรล่าสัตว์

ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นประตูสำคัญในการเข้าออกอียิปต์ และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของอียิปต์แอร์

เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย