
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
-min.jpg)
เป็นท่าอากาศยานหลักของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งมีกฏระเบียบการเดินทางเป็นของตัวเอง ที่ไม่เหมือนกันจีนแผ่นดินใหญ่ หรือฮ่องกง

เมืองจูไห่ (Zhuhai) (ระยะทางระหว่างด่านประมาณ 500 เมตร) ในการเดินทางข้ามด่านและผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองใช้เวลาในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองประมาณ 45-60 นาที เมืองจูไห่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 1 ใน 5 ของประเทศจีน “จูไห่” ได้รับการยกย่องจากสหประชาชาติให้เป็น “เมืองมหัศจรรย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

เป็นตลาดที่อยู่ชั้นใต้ดินของเมืองจูไห่ ตลาดที่นี่จะคล้าย ๆ มาบุญครองบ้านเรา ที่มีลักษณะเหมือนห้างช้อปปิ้งขนาดเล็ก ภายในมีทั้งร้านเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญของที่นี่ราคาถูกมากเพราะว่ามีสินค้าที่นี่ทำเลียนแบบจากจีน

เป็นสัญลักษณ์ของเมืองจูไห่ เป็นหินแกะสลักตั้งเด่นสง่าอยู่ริมทะเลบริเวณอ่าวเซียงหู มีลักษณะเป็นรูปของหญิงสาวสวย ขนาดใหญ่มีความสูงถึง 8.7 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 ตัน ที่มือถือไข่มุกไว้โดยยกขึ้นเหนือศีษระ ซึ่งรูปสลักนี้สร้างขึ้นตามนิทานพื้นบ้านของเมืองจูไห่

ในฮ่องกง ธุรกิจการค้าหยกจะคึกคักที่สุดที่ตลาดหยกในเกาลูน ถึงแม้บริเวณนี้จะได้รับการปรับปรุงใหม่หลายต่อหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่ที่นี่ก็ยังคงไว้ซึ่งร่องรอยของอดีต เช่น สถานีตำรวจที่เป็นสถาปตยกรรมแบบโคโลเนียล ในบริเวณใกล้เคียง คุณจะพบหินหยกขนาด 3 ตันบนถนนแคนตัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของถนนเจด แต่ถ้าคุณสนใจในการช้อปมากกว่าสถาปัตยกรรมและอนุสาวรีย์ คุณจะไม่ผิดหวังกับคุณภาพและปริมาณของหยกที่ขายอยู่ที่นี่ ซึ่งมีกว่าร้อยแผง สินค้าที่คุณจะพบมากที่สุดคือเครื่องประดับทำจากหยก ซึ่งได้แก่ แหวน กำไล จี้ และต่างหู แต่คุณก็อาจพบของแปลกอื่นๆ ด้วยเช่นกัน



เป็นเกาะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสจนปีคศ 1999 ในตอนแรกเป็นเมืองที่จีนปล่อยให้โปรตุเกสเช่าเพื่อเป็นเมืองท่า ปัจจุบันมาเก๊าเป็นหนึ่งในเขตปกครองพิเศษของจีน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย

เป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ของเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งหันหลังให้ทะเล และยืนอยู่บนโดมดอกบัวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมทะเล สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ มีความสูง 18 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1.8 ตัน ประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัว ภายในฐานรูปปั้นเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมา นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่ให้ประชาชนเข้ามานั่งสมาธิ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ซึ่งชาวมาเก๊านิยมเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และวัตถุประสงค์ในการสร้างนั้นเนืองมาจากเป็นเจ้าแม่กวนอิมที่โปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า ในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน

เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อของมาเก๊า ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่ทะเลจีนใต้ชื่อเทพมัตสึ ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งการประมง วัดนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1488 วัดอาม่าจัดเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า

เป็นซากปรักหักพังของศาสนสถานคาทอลิกสมัยศตวรรษที่ 17 เคยเป็นโบสถ์และโรงเรียนเซนต์ปอล ปัจจุบันซากปรักหักพังเป็นหนึ่งในจุดสังเกตที่รู้จักกันดีที่สุดของมาเก๊า ในปี 2005 ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการว่าเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งมาเก๊าซึ่งเป็นมรดกโลก

ตั้งอยู่ใกล้ย่านบาซาร์จีนเก่า เดิมเคยเป็นที่ชุมนุมของพวกพ่อค้าและมีความสำคัญยิ่งต่อชุมชนชาวจีน ซึ่งตอนนี้คือตลาดเซนต์ดอมินิก ในปีค.ศ.1912 บริเวณรอบๆวัดเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของชาวจีนในมาเก๊า ที่ยังคงเก็บกลิ่นอายย่านบาซาร์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ทำเลที่ตั้งของอาคารโครงสร้างแบบจีนบนจัตุรัสสำคัญของเมืองที่รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตก ฉายภาพแห่งความสมัครสมานสามัคคีที่ร่วมหอลงโรงกันอย่างดีของสองวัฒนธรรม วัดซำไกยังข้องเกี่ยวโดยตรงกับหอการค้าจีนที่มีมาช้านาน และเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในบริเวณนี้เปิดให้เข้าชม 08.00-18.00 น.

เป็นจตุรัสที่อยู่ในเขตเซของเมืองมาเก๊า และเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์ยูเนสโกมรดกโลกมาเก๊า ที่นี่มีลักษณะเป็นจัตุรัสรูปสามเหลี่ยม ครอบคลุมพื้นที่ 3,700 ตารางเมตร จัตุรัสแห่งนี้ตั้งชื่อตาม Leal Senado สถานที่นัดพบสำหรับชาวจีนและโปรตุเกสในศตวรรษที่ 16 ถึง 18 ส่วนใหญ่ของอาคารรอบจตุรัสเป็นสไตล์ยุโรป ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวห้ามพลาดหากได้มาเยือนมาเก๊า

เป็นคาสิโนขนาดใหญ่ที่ออกแบบสไตล์อิตาลี ภายในมีอาหาร ที่พักและกิจกรรมให้ทำมากมาย และตัวบริการต่างๆ นั้นนับว่าอยู่ในระดับ High End สุดๆ เลยทีเดียว
-min.jpg)
เป็นท่าอากาศยานหลักของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งมีกฏระเบียบการเดินทางเป็นของตัวเอง ที่ไม่เหมือนกันจีนแผ่นดินใหญ่ หรือฮ่องกง

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย