เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
ท่าอากาศยานนานาชาติเจิ้งโจวซินเจิ้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองเจิ้งโจว ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 37 กิโลเมตร ท่าอากาศยานแห่งนี้เปิดใช้เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ.1997 ซึ่งถือเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่ 21 ของประเทศจีน เพื่อใช้งานแทนท่าอากาศยานตงเจียว ที่ตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางเมืองเจิ้งโจว ท่าอากาศยานแห่งนี้เที่ยวบินที่ให้บริการทั้งในประเทศและในภูมิภาคจากท่าอากาศยานใหญ่ๆ ในประเทศจีน และยังมีเที่ยวบินขนส่งสินค้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ตลอดจนเที่ยวบินเช่าเหมาลำมายังประเทศไทยในช่วงฤดูท่องเที่ยวอีกด้วย
ไคเฟิงเป็นเมืองเก่าแก่ เคยเมืองหลวง 7 ราชวงศ์นับตั้งแต่ยุคจ้าน กว๋อ และรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีเนื้อที่ 900 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 1.9 ล้านคน
ศาลเปาบุ้นจิ้น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1984 เป็นสถานที่ใช้ในการพิพากษาคดีของท่านเปาบุ้นจิ้นขุนนางที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตจนเป็นที่กล่าวขานในสมัยราชวงศ์ซ่ง ภายในยังได้มีการจำลองศาลที่ว่าความสมัยนั้นรวมถึงเครื่องประหารหัวมังกร หัวพยัคฆ์ หัวสุนัข ซึ่งท่านเปาได้ใช้ลงโทษบรรดาเหล่าราชวงศ์ขุนนางและราษฎรที่ได้กระทำผิด ชมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของท่านเปาฯ สูง 2.5 เมต
ชม สวนชิงหมิงซั่งเหอหยวน สร้างขึ้นโดยรัฐบาลเมืองไคเฟิง มณฑลเหอหนานและบริษัทที่ดินไห่หนาน ได้ร่วมกันออกแบบก่อสร้างวัฒนธรรมในธีมสวนสาธารณะสมัยราชวงศ์ซ่งขนาดใหญ่ สถานที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบหลงถิง เมืองไคฟง นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA แรกๆของประเทศจีน
เป็นสะพานไม้โบราณที่มีหลังคาคลุมเหมือนสะพานข้ามคลองในเวนิส เป็นสะพานประวัติศาสตร์ที่มีความเป็นมาหลายร้อยปี โดยก่อนที่จะเดินถึงสะพานนั้นจะได้เห็นจุดเด่นของฟ่งหวง คือบ้านที่ยกพื้นสูงเรียงราย เป็นทัศนียภาพที่สวยงามและเป็นที่นิยมชอบทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศ
เป็นเมืองระดับเขตภายใต้เขตอำนาจของเจิ้งโจวซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหอหนานประเทศจีน เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาซ่งซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศจีน ในสมัยโบราณมันเป็นที่รู้จักในนามย่างเชิ่ง (Yangcheng) ทั้งยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่โด่งดังที่สุดของจีน ในฐานะเป็นที่ตั้งของสถาบันศาสนาและวัดต่างๆ ที่โดดเด่นมากมาย
เป็นวัดเส้าหลินมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในประเทศจีนและในต่างประเทศ ได้รับการกล่าวขานในเรื่องของกระบวนท่าวิทยายุทธ เพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งวิชาการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ปรากฏชื่อในนิยายกำลังภายในหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งล้วนแต่กล่าวถึงวิชาเพลงหมัดมวย พลังลมปราณและกังฟูเส้าหลินอยู่เสมอ
ป่าเจดีย์ สุสานเจ้าอาวาสและหลวงจีน พระพุทธรูปภายในวิหารเจ้าอาวาส สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ภายในวัดเส้าหลินมีเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านหน้าของอารามต้าฉงเป่าเทียน ประกอบด้วยอารามและวิหารหลวงหลายหลัง ซึ่งล้วนแต่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่น อารามตั๊กม้อ, อารามไป๋อี, อารามพระพุทธ, อารามเจ้าอาวาส โดยเฉพาะอารามเจ้าอาวาส เคยใช้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับต้อนรับวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียซึ่งเป็นผู้มีความสนใจส่วนตัวและความเชี่ยวชาญในศิลปะป้องกันตัวหลายแขนง [24] ที่เยือนวัดเส้าหลิน
ถ้ำหินหลงเหมิน มีอายุราว 1,500 ปี เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยเว่ยเหนือ ค.ศ. 494 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง บูรณะ และต่อเติมยาวนานถึง 400 กว่าปีจนถึงยุคราชวงค์ถังและซ่ง มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันยังคงหลงเหลือถ้ำผาแกะสลักอยู่จำนวน 2,100 กว่าคูหา โพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆ อีก 3,600 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 50 กว่าแห่ง พระพุทธรูปสลักมากกว่า 100,000 องค์
วัดถ้ำเฟิ่งเซียนซื่อ ชมพระประธานสูง 17 เมตรสลักอยู่กลางแจ้ง แวดล้อมด้วยพระโพธิสัตว์และทวยเทพ กล่าวกันว่าใช้พระพักตร์ของพระนางบูเซ็คเทียนเป็นแบบในการแกะสลัก
ชาวจีนเรียกสุสานแห่งกองทัพของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ว่า “ฉินหย่ง” บ้างเรียก “ปิงหม่าหย่ง” โดยปิง หมายถึง ทหาร , หม่า หมายถึง ม้า , หย่ง หมายถึง หุ่น ซึ่งสุสานกองทัพมีทั้งหมด 3 หลุม ซึ่งชาวนาขุดพบโดยบังเอิญ ในปี ค.ศ. 1974 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น
จัตุรัสหอกลอง เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน บนถนนซีต้าเจีย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิง ต่อมาในสมัยราชวงศ์ชิงได้ทำการบูรณะขึ้นมาใหม่สองครั้ง โดยรักษารูปแบบเดิมไว้ โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ 3 ชั้น ฐานอิฐสูง 77 เมตร กว้าง 52.6 เมตร ยาว 38 เมตร ประตูด้านเหนือและใต้สูงและกว้าง 6 เมตร ชั้นล่างก่อเป็นผนังอิฐและประตูทางเข้าชั้นที่สองและชั้นที่สามเป็นเครื่องใม้หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ สร้างขึ้นในปีที่ 17 แห่งการครองราชย์ของพระจักรพรรดิหงหวู่ (จูหยวนจาง) ซึ่งเป็นพระจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์หมิง
เป็นถนนคนเดินอิสลามที่เป็นแหล่งรวมของอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อหลากชนิด รวมถึงร้านขายของที่ระลึกและร้านขายผลไม้แห้ง เช่น พุทธา อินทผาลัม ลูกพลับ กีวี่ วอลนัทและถั่วต่างๆ ก็มีให้ท่านได้เลือกซื้อมากมายหลายร้าน ท่านใดที่เป็นนักชิมรับรองว่า อาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิดในตลาดมุสลิมแห่งนี้ไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
เป็นกำแพงเมืองโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีแนวกำแพงจากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาว 2.8 กิโลเมตร ทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาว 4.2 กิโลเมตร ความยาวโดยรอบ 14 กิโลเมตร สูง 12 เมตร มีประตูเข้าออกทั้งสี่ด้านรวม 13 ประตู
เป็นถนนสายเก่าแก่ที่ว่่ากันว่ามีมาตั้งแต่ปี 1368 เป็นถนนขายภาพวาด ของที่ระลึก กาน้ำชา ตราประทับ พู่กัน และของโบราณต่างๆ ให้ท่านได้ชมบรรยากาศและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
เป็นถนนสายหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของหังโจวได้อย่างดี มีลักษณะเรียบง่ายแบบโบราณ สองข้างถนนสายนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าทั่วไป มีสินค้าพื้นเมือง และสินค้าที่ระลึก ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าของฝากกันได้
เป็นเจดีย์แห่งวัดฉือเอิน สร้างเสร็จในปี 652 โดยถังเกาจง (หลี่จื้อ) ฮ่องเต้องค์ที่สาม แห่งราชวงศ์ถัง และ ได้นิมนต์พระภิกษุสวนจั้ง หรือรู้จักในนามพระถังซัมจั๋ง พระเถระที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยถัง ซึ่งใช้เวลากว่า 15 ปี จาริกไปถึงอินเดียและได้นำพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา กลับมาเผยแผ่ ในแผ่นดินจีนให้มาอยู่ที่วัดฉือเอินแห่งนี้ พระถังซัมจั๋งได้ใช้เวลาออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่าใหญ่ในวัดฉือเอินเพื่อใช้ในการเก็บรักษาพระไตรปิฎก ที่ท่านได้นำมาจากอินเดียและแปลเป็นภาษาจีนนับจำนวนกว่าพันเล่ม
เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่รวมประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถเชื่อมต่อไปยัง 79 เมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี